The term schema comes from data pro

The term schema comes from data processing theory, which states that information is ordered in our memory thematically (Williams, Watts, MacLeod and Mathews, 1997; Vonk, 1999). The idea is that experiences are saved in our autobiographic memory by way of schemas from the first years of life (Conway and Pleydell-Pearce, 2000). Schemas consist of sensory perceptions, experienced emotions and actions, and the meaning given to them, such that early childhood experiences are memorized non-verbally (Young er al., 2005; Arntz, van Genderen and Wijts, 2006; Rijkeboer L't 111., 2007). In addition, schemas function as filters through which people order, interpret, and predict the world. Most people have developed schemas that help them to better understand themselves, the behavior of others, and events in the world. This enables them to develop a positive self-image and a differentiated image of others, and to solve problems adequately. People with personality problems have developed maladaptive schemas and therefore handle life less well. According to Young at al. (2005), these maladaptive schemas are developed at an early age as a result of the interactions between factors such as the temperament of the child, the parenting style of the parents, and any significant (sometimes traumatic) experiences (see Figure 2.1 ). With this hypothesis, Young at al. (2005) proposed a development model of personality and psychopathology in which Bouwlby’s attachment theory (1988) plays an important role. They hypothesize that maladaptive schemas reflect the unfulfilled yet important emotional needs of the child and represent adaptations to negative experiences, for example, family quarrels, rejection, hostility, or even aggression from parents/educators and peers, lack of love and warmth, and inadequate parental care and support. Research has shown that influences from relationships are important for the emotional development of the child, and disturbances can lead to a deregulation of emotions (Maughan and Cicchetti, 2002; Cohen, Crawford, Johnson and Kasen, 2005).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผนระยะที่มาจากทฤษฎีการประมวลผลข้อมูล ซึ่งระบุว่า ข้อมูลถูกเรียงลำดับในหน่วยความจำของเรา thematically (วิลเลียมส์ วัตต์ แมคลอยด์และแมทธิวส์ 1997 Vonk, 1999) ความคิดว่า ประสบการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำของเรา autobiographic โดยวิธีการแบบแผนจากปีแรกของชีวิต (คอนเวย์และ Pleydell-เพียร์ซ 2000) แบบแผนประกอบด้วยประสาทสัมผัส มีประสบการณ์อารมณ์ และการดำเนินการ และความหมายตามที่ได้รับ เช่นที่ประสบการณ์ปฐมวัยที่ปรากฏไม่ใช่วาจา (หนุ่มเอ้อ al., 2005 Arntz, van Genderen และ Wijts, 2006 Rijkeboer L't 111., 2007) นอกจากนี้ เค้าทำงานเป็นตัวกรองผ่านลำดับคน แปล และทำนายโลก คนส่วนใหญ่ได้พัฒนาแบบแผนที่ช่วยให้พวกเขาเพื่อให้ เข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่น ตัวเอง และเหตุการณ์ในโลก นี้ทำให้ การพัฒนาเป็นภาพตนเองในเชิงบวกและภาพแตกต่างของผู้อื่น และ การแก้ปัญหาอย่างเพียงพอ มีพัฒนาคนที่ มีปัญหาบุคลิกภาพ maladaptive แผน และจัดการชีวิตดีน้อย ตามหนุ่มที่ al. (2005), มีพัฒนาแบบแผนเหล่านี้ maladaptive วัยเป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเช่นอารมณ์ของเด็ก ลักษณะการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง และประสบการณ์ใด ๆ (บางครั้งบาดแผล) สำคัญ (ดูรูป 2.1) กับสมมติฐานนี้ หนุ่มที่ al. (2005) ได้เสนอแบบจำลองการพัฒนาของบุคลิกภาพและ psychopathology Bouwlby ที่แนบมาในทฤษฎี (1988) มีบทบาทสำคัญ พวกเขา hypothesize ว่า เค้า maladaptive สะท้อนการไม่บรรลุผล แต่สิ่งสำคัญอารมณ์ต้องพันธุ์ลูกและแสดงประสบการณ์เชิงลบ เช่น ทะเลาะวิวาทครอบครัว การปฏิเสธ ความเกลียดชัง หรือแม้กระทั่งความก้าวร้าวจากพ่อแม่/ผู้สอนและเพื่อนร่วมงาน ขาดความรัก และความ อบอุ่น และไม่เพียงพอผู้ปกครองดูแล และสนับสนุน งานวิจัยพบว่า อิทธิพลจากความสัมพันธ์มีความสำคัญสำหรับการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็ก และรบกวนสามารถนำไปสู่การผ่อนคลายกฎระเบียบของอารมณ์ (Maughan และ Cicchetti, 2002 โคเฮน ครอวฟอร์ดนอทช์ จอห์นสัน และ Kasen, 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เค้าร่างคำที่มาจากทฤษฎีการประมวลผลข้อมูลที่ระบุว่าข้อมูลที่ได้รับคำสั่งในหน่วยความจำของเราหัวเรื่อง (วิลเลียมส์วัตต์ MacLeod และแมทธิวส์, 1997; Vonk, 1999) ความคิดคือว่าประสบการณ์จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของเราโดยวิธีการสกีมาจากปีแรกของชีวิต (คอนเวย์และ Pleydell-เพียร์ซ, 2000) schemas ประกอบด้วยการรับรู้ทางประสาทสัมผัสอารมณ์ที่มีประสบการณ์และการกระทำและความหมายให้กับพวกเขาเช่นว่าประสบการณ์ในวัยเด็กจะจดจำไม่ใช่วาจา (AL ER หนุ่ม 2005. Arntz รถตู้ Genderen และ Wijts 2006; Rijkeboer L'T 111 ., 2007) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นสกีมาเป็นตัวกรองผ่านที่คนสั่งซื้อตีความและคาดการณ์โลก คนส่วนใหญ่ได้มีการพัฒนา schemas ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจตัวเองดีกว่าพฤติกรรมของคนอื่น ๆ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในโลก ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาพัฒนาในเชิงบวกตนเองภาพและภาพที่แตกต่างของคนอื่น ๆ และในการแก้ปัญหาได้อย่างเพียงพอ คนที่มีปัญหามีการพัฒนาบุคลิกภาพ schemas maladaptive และดังนั้นจึงจัดการกับชีวิตน้อยดี ตามที่อัลหนุ่ม (2005), สกีมา maladaptive เหล่านี้ได้รับการพัฒนาในวัยเด็กเป็นผลมาจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆเช่นอารมณ์ของเด็กสไตล์การเลี้ยงดูของพ่อแม่และอย่างมีนัยสำคัญ (บางครั้งบาดแผล) ประสบการณ์ใด ๆ (ดูรูปที่ 2.1) ด้วยสมมติฐานนี้หนุ่มที่อัล (2005) ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาบุคลิกภาพและจิตซึ่งในทฤษฎีที่แนบมา Bouwlby ของ (1988) มีบทบาทสำคัญ พวกเขาตั้งสมมติฐานว่า schemas maladaptive สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทางอารมณ์ไม่ได้ผลเลยที่สำคัญของเด็กและเป็นตัวแทนของการปรับตัวกับประสบการณ์เชิงลบเช่นการทะเลาะวิวาทในครอบครัวปฏิเสธความเป็นปรปักษ์หรือแม้กระทั่งการรุกรานจากผู้ปกครอง / การศึกษาและเพื่อนร่วมงานขาดความรักและความอบอุ่นและไม่เพียงพอ การดูแลเอาใจใส่และการสนับสนุน มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลจากความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญสำหรับการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็กและรบกวนสามารถนำไปสู่การลดการควบคุมอารมณ์ (Maughan และ Cicchetti 2002; โคเฮน Crawford, จอห์นสันและ Kasen 2005 บริการ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำที่แปลงมาจากทฤษฎีการประมวลผลข้อมูลซึ่งระบุข้อมูลที่เป็นคำสั่งในหน่วยความจำของเราใจ ( วิลเลี่ยม วัตต์ และ แมทธิว แม็คคลาวด์ , 1997 ; vonk , 1999 ) ความคิดคือว่าประสบการณ์จะถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำ autobiographic ของเราโดยวิธีการกำหนดว่าตั้งแต่ปีแรกของชีวิต ( คอนเวย์ และ pleydell Pearce , 2000 ) กำหนดว่าประกอบด้วยการรับรู้ความรู้สึก อารมณ์ ประสบการณ์ และการกระทำ และความหมายให้แก่พวกเขา ซึ่งประสบการณ์เด็กปฐมวัยจะได้ไม่ verbally ( เด็กเอ๋อ al . , 2005 ; อาร์นตส , รถตู้ genderen และ wijts , 2006 ; rijkeboer ผมไม่ 111 . , 2007 ) นอกจากนี้ ฟังก์ชัน schema เป็นตัวกรองผ่านที่คนสั่งตีความและทำนายโลก คนส่วนใหญ่ได้พัฒนาแผนผังที่ช่วยให้เข้าใจตนเอง พฤติกรรมของผู้อื่นและเหตุการณ์ในโลก นี้จะช่วยให้พวกเขาเพื่อพัฒนาตนเองภาพบวกและภาพที่แตกต่างของผู้อื่น และเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเพียงพอ คนที่มีปัญหาบุคลิกภาพได้พัฒนา maladaptive schemas และดังนั้นจึงจัดการกับชีวิตน้อยลงด้วย ตามหนุ่มที่อัล ( 2005 ) , schemas maladaptive เหล่านี้มีการพัฒนาในวัยเด็กเป็นผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย เช่น อารมณ์ของเด็ก รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ และที่สำคัญ ( traumatic ประสบการณ์บางครั้ง ) ( รูปที่ 2.1 ) กับสมมติฐานนี้ หนุ่มที่อัล ( 2005 ) ได้เสนอรูปแบบการพัฒนาบุคลิกภาพและจิตที่ bouwlby ของความผูกพัน ทฤษฎี ( 1988 ) มีบทบาทสำคัญ พวกเขาพบว่า maladaptive schema ที่สะท้อนให้เห็นถึงไม่ได้ผล แต่ที่สำคัญความต้องการทางอารมณ์ของเด็กและแสดงถึงการปรับตัวเพื่อประสบการณ์เชิงลบ เช่น ทะเลาะวิวาท ครอบครัวไม่ยอมรับ ความเป็นศัตรู หรือแม้แต่การรุกรานจาก ผู้ปกครอง ครูและเพื่อน ขาดความรักความอบอุ่นและการดูแลของผู้ปกครองไม่เพียงพอและการสนับสนุน การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลจากความสัมพันธ์ที่สำคัญในการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็ก และการรบกวนสามารถนำไปสู่การขยายตัวของอารมณ์ ( maughan และ cicchetti , 2002 ; โคเฮน ครอฟอร์ด จอห์นสัน และ คาเซน , 2005 )