In the U.S., it’s gotten worse…Sixt

In the U.S., it’s gotten worse…

Sixty-five percent, or about two in three people, sleep with or next to their smart phones. (Among college students, it’s even higher).
Thirty-four percent admitted to answering their cell phone during intimacy with their partner. (Hey, what happened to valuing the person you are with in-person?)
One in five people would rather go without shoes for a week than take a break from their phone. (It’s a good way to lose your sole and your soul).
More than half never switch off their phone. (I’d call that an addiction).
A full 66 percent of all adults suffer from “nomophobia.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสหรัฐอเมริกาก็มีอากาศที่เลวร้ายยิ่ง ... ร้อยละหกสิบห้าหรือประมาณสองในสามคนนอนหลับที่มีหรือติดกับมาร์ทโฟนของพวกเขา (ในหมู่นักศึกษาก็จะยิ่งสูงกว่า). ร้อยละสามสิบสี่เข้ารับการรักษาในการตอบโทรศัพท์มือถือของพวกเขาในช่วงใกล้ชิดกับพันธมิตรของพวกเขา (Hey, เกิดอะไรขึ้นกับคุณค่าของคนที่คุณจะมีในคน?) หนึ่งในห้าคนที่ค่อนข้างจะไปโดยไม่สวมรองเท้าสำหรับสัปดาห์กว่าจะหยุดพักจากโทรศัพท์มือถือของพวกเขา (มันเป็นวิธีที่ดีที่จะสูญเสีย แต่เพียงผู้เดียวและจิตวิญญาณของคุณ). มากกว่าครึ่งหนึ่งไม่เคยปิดโทรศัพท์ของพวกเขา (ผมจะเรียกว่าติดยาเสพติด). เต็มรูปแบบร้อยละ 66 ของผู้ใหญ่ทุกคนทุกข์ทรมานจาก "nomophobia."

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสหรัฐอเมริกา , มันแย่ลง . . . . . . .

หกสิบห้าเปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2 ใน 3 คน นอนด้วย หรือข้างๆ โทรศัพท์สมาร์ทของพวกเขา ( ในหมู่นักศึกษาวิทยาลัย มันสูงขึ้น ) .
ร้อยละสามสิบสี่ เข้าตอบโทรศัพท์ของพวกเขาในระหว่างความใกล้ชิดกับคู่ของพวกเขา ( เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณค่าจากคนที่อยู่กับคุณในคน ? )
หนึ่งในห้าคนยอมไปโดยไม่มีรองเท้าเป็นอาทิตย์กว่า หยุดพักจากโทรศัพท์ของพวกเขา ( มันเป็นวิธีที่ดีที่จะสูญเสีย แต่เพียงผู้เดียวของคุณและจิตวิญญาณของคุณ ) .
กว่าครึ่งไม่เคยปิดมือถือ ( ผมเรียกมันว่า การติด )
เต็ม 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่เป็นโรค " โนโมโฟเบีย "