In 1923, after Chuck Taylor made im

In 1923, after Chuck Taylor made improvements to the shoe, Converse decided to incorporate his name onto the ankle patches that displayed the Converse All Star logo. Then, in the 1930s Taylor's signature was put into the design, which is how the shoe became known as the "Chuck Taylor" All Star.[4] When first created, the Converse All Star had three main styles - a monochromatic shoe with a black canvas upper and black rubber soles, an all white shoe with blue and red trim, and an all black leather and rubber shoe. It wasn't until 1949 that Converse decided to make the toe guard, laces and outer wraps white, which gave the appearance of the iconic black and white Converse All Stars of today. In 1957, Converse came out with the low-cut "Oxford" version of the All Star and soon after started to produce the shoes in multiple colors and prints. Today, Converse makes the Chuck Taylor All Star in a variety of colors, styles, prints and fabrics.

The shoe now features fabric on the bottom of the sole. This way, the shoe is classified as a slipper instead of a sneaker and is therefore subject to a much smaller import tariff.[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พี่ หลังจากชัก Taylor ทำการปรับปรุงรองเท้า คอนเวิร์สตัดสินใจที่จะรวมชื่อของเขาไปปรับปรุงข้อเท้าที่แสดงสัญลักษณ์ดาวตรงกันข้ามทั้งหมด แล้ว ใน 1930 ลายเซ็นของเทย์เลอร์ถูกเก็บไว้ในการออกแบบ ซึ่งเป็นวิธีรองเท้ากลายเป็นที่รู้จักเป็นดาวทั้งหมด "ชัคเทย์เลอร์"[4] เมื่อแรก สร้าง ดาวทั้งหมดตรงกันข้ามมีลักษณะหลักสาม - รองเท้าสีเดียวกับผืนผ้าใบสีดำด้าน และสีดำยาง พื้น รองเท้ามีทั้งสีขาวกับสีน้ำเงิน และสีแดงตัด และรองเท้าหนังและยางเป็นสีดำทั้งหมด มันไม่ได้จนกว่า 1949 ที่ตรงกันข้ามการตัดสินใจที่จะทำการรักษาเท้า laces และห่อภายนอกสีขาว ซึ่งให้ลักษณะที่ปรากฏของสีขาวและสีดำสัญลักษณ์ สนทนาดาวทั้งหมดของวันนี้ ใน 1957 คอนเวิร์สออกมา ด้วยรุ่น "ออกซ์ฟอร์ด" ต่ำตัด ดาวทั้งหมด และทันทีหลัง จากเริ่มการผลิตรองเท้าหลายสีและพิมพ์ วันนี้ ตรงกันข้ามทำให้ดาวทั้งหมดของ Taylor เชยในความหลากหลายของสี ลักษณะ พิมพ์ และเนื้อผ้ารองเท้าเดี๋ยวนี้มีผ้าด้านล่างของครอบครัว ด้วยวิธีนี้ รองเท้าถูกจัดประเภทเป็นรองเท้าแตะแทนการหุ้มข้อสไตล์ จึง มีภาษีนำเข้าขนาดเล็ก[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1923 หลังจากที่ชัคเทย์เลอร์ทำให้การปรับปรุงกับรองเท้า, Converse ตัดสินใจที่จะรวมชื่อของเขาลงบนข้อเท้าแพทช์ที่แสดงโลโก้ Converse ดารา จากนั้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ลายเซ็นเทย์เลอร์ได้รับการใส่ลงไปในการออกแบบซึ่งเป็นวิธีรองเท้ากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "ชัคเทย์เลอร์" ดารา [4] เมื่อสร้างขึ้นครั้งแรก, Converse All Star มีสามรูปแบบหลัก -. รองเท้าสีเดียวกับ ผ้าใบสีดำและสีดำบนพื้นยาง, รองเท้าสีขาวกับสีฟ้าและสีแดงตัดแต่งและรองเท้าหนังสีดำและยาง มันไม่ได้จนกว่า 1949 ที่ Converse ตัดสินใจที่จะทำให้ยามเท้าเชือกผูกและตัดด้านนอกสีขาวซึ่งทำให้ลักษณะของสีดำและสีขาว Converse สัญลักษณ์ดวงดาวทุกดวงของวันนี้ ในปี 1957, Converse ออกมาพร้อมกับรุ่นตัดต่ำ "ฟอร์ด" ของดาราและไม่นานหลังจากเริ่มผลิตรองเท้าให้เลือกหลายสีและภาพพิมพ์ วันนี้ Converse ทำให้ชัคเทย์เลอร์ดาราในหลากหลายสี, รูปแบบ, พิมพ์และผ้ารองเท้าตอนนี้มีผ้าด้านล่างของ แต่เพียงผู้เดียว วิธีนี้รองเท้าจัดเป็นรองเท้าแตะแทนรองเท้าและอาจมีการเก็บภาษีนำเข้าที่มีขนาดเล็กมากดังนั้น. [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1923 หลังจาก Chuck Taylor ทำให้การปรับปรุงรองเท้า Converse ตัดสินใจที่จะรวมชื่อของเขาลงบนข้อเท้าของแพทช์ที่แสดงการสนทนาทั้งหมดดาวโลโก้ แล้วในลายเซ็น 1930 เทย์เลอร์ถูกใส่ลงไปในการออกแบบ ซึ่งเป็นวิธีการที่รองเท้าที่กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ " ชัค เทย์เลอร์ " ดารา [ 4 ] เมื่อสร้างขึ้นครั้งแรกการสนทนาทั้งหมดดาวมีหลักสามสไตล์ - รองเท้าสีเดียวกับผ้าใบสีดำบนพื้นยางสีดำ มีทั้งหมดรองเท้าสีขาวกับสีฟ้าและสีแดงตัดกับหนังสีดำและรองเท้าเป็นยาง มันไม่ได้จนกว่าปี 1949 ที่สนทนาจึงตัดสินใจที่จะป้องกันเท้า , laces และตัดสีขาวด้านนอก ซึ่งให้ลักษณะของสัญลักษณ์สีดำและขาว Converse ดาวทั้งหมดของวันนี้ ในปี 1957สนทนาออกมาพร้อมกับตัดต่ำ " ฟอร์ด " รุ่นของดาวทั้งหมดและเร็ว ๆนี้หลังจากเริ่มผลิตรองเท้าในหลายสีและพิมพ์ วันนี้สนทนาทำให้ Chuck Taylor ดาวทั้งหมดในความหลากหลายของ สี , รูปแบบ , พิมพ์และผ้า

รองเท้าตอนนี้คุณสมบัติของผ้าที่ด้านล่างของแต่เพียงผู้เดียว ด้วยวิธีนี้รองเท้าจัดเป็นรองเท้าแตะแทนรองเท้า และดังนั้นจึงเป็นเรื่องภาษีศุลกากรนำเข้ามีขนาดเล็กมาก . [ 7 ]