The use of beverages that contain c

The use of beverages that contain caffeine has been debated for centuries. In almost every part of the world where coffee and tea have been available, religious or government leaders have tried to ban or restrict its use. All such attempts, until the present time, lacked scientific credibility.
2 New studies linking caffeine use to central nervous system problems and birth defects in test animals have prompted scientists and policy makers in the U.S. to reconsider caffeine’s regulatory status. This is a complex task, however, because caffeine is regulated under three different sections of the Federal Food, Drug, and Cosmetic Act. It is a natural ingredient in coffee and tea. A food addictive in soft drink, and an added ingredient in over-the-counter drugs.
3 Foods containing any poisonous or hazardous substance are defined as adulterated and prohibited by the Food and Drug Act. However, foods which naturally contain harmful substances may be permitted if the amount of the substance does not ordinarily injure health. Thus, foods containing caffeine, like coffee and tea, are approved despite caffeine’s health effects at high dose levels.
4 As a food additive, caffeine is regulated as a “generally recognize it safe” (GRAS) substance. Because of this regulatory status, food processors are not required to prove caffeine’s safety before adding it to their products. Instead, caffeine’s long and widespread history of use is considerate sufficient proof of safety. The Food and Drug Administration (FDA) has published rules which limit the amount of caffeine that can be added to foods.
( “The health Effects of caffeine” by American council on Science and Health)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้เครื่องดื่มที่ประกอบด้วยคาเฟอีนมีการถกเถียงกันมานานหลายศตวรรษ ในเกือบทุกส่วนของโลกที่ได้กาแฟและชาได้รับบริการ ศาสนาหรือรัฐบาล ผู้นำได้พยายามที่จะห้าม หรือจำกัดการใช้ เช่นความพยายามทั้งหมด จนถึงเวลาปัจจุบัน ขาดความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ศึกษาใหม่ 2 ที่เชื่อมโยงคาเฟอีนใช้ปัญหาของระบบประสาทส่วนกลาง และเกิดข้อบกพร่องในการทดสอบสัตว์มีพร้อมท์นักวิทยาศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐพิจารณาทบทวนสถานะการกำกับดูแลของคาเฟอีน นี้เป็นงานซับซ้อน อย่างไรก็ตาม เพราะคาเฟอีนถูกควบคุมภายใต้สามส่วนต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางอาหาร ยา และพระราช บัญญัติเครื่องสำอาง มันเป็นส่วนผสมเป็นธรรมชาติในชาและกาแฟ อาหารเครื่องดื่ม และเพิ่มส่วนผสมในยาเสพติดยาเสพติด3 อาหารที่ประกอบด้วยสารพิษ หรืออันตรายใด ๆ กำหนดไว้เป็นการปลอมปน และต้องห้าม โดยอาหารและพระราชบัญญัติยาเสพติด อย่างไรก็ตาม อาหารที่ประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายอาจได้รับอนุญาตหากจำนวนของสารปกติทำร้ายสุขภาพ ดังนั้น การได้รับการรับรองอาหารที่ประกอบด้วยคาเฟอีน กาแฟและชา แม้ มีผลกระทบต่อสุขภาพของคาเฟอีนในปริมาณสูงระดับ4 ฐานะ คาเฟอีนควบคุมเป็นแบบ "โดยทั่วไปรู้จักปลอดภัย" (กราส์) สาร เนื่องจากสถานะนี้บังคับ อาหารไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความปลอดภัยของคาเฟอีนก่อนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ของพวกเขา แทน ประวัติยาวนาน และแพร่หลายของคาเฟอีนการใช้เป็นหลักฐานเพียงพอเกรงด้านความปลอดภัย อาหารและยา (FDA) ได้เผยแพร่กฎที่จำกัดปริมาณของคาเฟอีนที่คุณสามารถเพิ่มอาหาร("สุขภาพผลกระทบของคาเฟอี" โดยสภาอเมริกันด้านวิทยาศาสตร์และสุขภาพ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้งานของเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีมีการถกเถียงกันมานานหลายศตวรรษ ในเกือบทุกส่วนของโลกที่กาแฟและชาได้รับการบริการทางศาสนาหรือผู้นำรัฐบาลมีความพยายามที่จะห้ามหรือ จำกัด การใช้งาน ทุกความพยายามดังกล่าวจนกว่าจะถึงเวลาปัจจุบันขาดความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์.
2 การศึกษาใหม่เชื่อมโยงการใช้คาเฟอีนในการแก้ไขปัญหาของระบบและเกิดข้อบกพร่องประสาทส่วนกลางในสัตว์ทดลองได้รับแจ้งนักวิทยาศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายในสหรัฐเพื่อพิจารณาสถานะการกำกับดูแลของคาเฟอีน นี้เป็นงานที่ซับซ้อนอย่างไรเพราะคาเฟอีนจะถูกควบคุมภายใต้สามส่วนที่แตกต่างกันของ Federal อาหารยาเครื่องสำอางและวางตัว มันเป็นส่วนผสมธรรมชาติในกาแฟและชา เสพติดอาหารในเครื่องดื่มและส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาในยาเสพติดมากกว่าที่เคาน์เตอร์.
3 อาหารที่มีสารพิษหรืออันตรายใด ๆ จะถูกกำหนดเป็นปลอมปนและต้องห้ามตามพระราชบัญญัติอาหารและยา แต่อาหารที่เป็นธรรมชาติประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายอาจได้รับอนุญาตถ้าปริมาณของสารที่ไม่ปกติทำร้ายสุขภาพ ดังนั้นอาหารที่มีคาเฟอีนเช่นกาแฟและชาได้รับการอนุมัติแม้จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของคาเฟอีนในระดับปริมาณสูง.
4 เป็นสารเติมแต่งอาหารคาเฟอีนจะถูกควบคุมเป็น "โดยทั่วไปตระหนักถึงความปลอดภัย" (GRAS) สาร เพราะสถานะของกฎระเบียบนี้โปรเซสเซอร์อาหารไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความปลอดภัยของคาเฟอีนก่อนที่จะเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา แต่คาเฟอีนของประวัติศาสตร์อันยาวนานและแพร่หลายในการใช้เป็นหลักฐานเพียงพอน้ำใจของความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ได้รับการตีพิมพ์กฎที่ จำกัด จำนวนของคาเฟอีนที่สามารถเพิ่มในอาหาร.
( "ผลกระทบต่อสุขภาพของคาเฟอีน" โดยอเมริกันสภาวิทยาศาสตร์และสุขภาพ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนได้รับการถกเถียงมานานหลายศตวรรษ ในเกือบทุกส่วนของ โลก ที่ ชา กาแฟ และได้มีผู้นำศาสนาหรือรัฐบาลได้พยายามที่จะห้ามหรือ จำกัด การใช้ของมัน ความพยายามดังกล่าว จนกระทั่งเวลาปัจจุบันไม่มีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์2 การศึกษาใหม่เชื่อมโยงคาเฟอีนใช้กลางระบบประสาทเกิดข้อบกพร่องในสัตว์ทดลอง และทำให้นักวิทยาศาสตร์ และนโยบายในสหรัฐอเมริกาพิจารณาคาเฟอีนหรือสถานะ นี้เป็นงานที่ซับซ้อน แต่เนื่องจากคาเฟอีนถูกควบคุมภายใต้สามส่วนที่แตกต่างกันของรัฐบาลกลาง อาหาร ยา เครื่องสำอางและการกระทำ . มันเป็นส่วนผสมธรรมชาติในกาแฟและชา อาหารเสพติดในเครื่องดื่ม และเป็นส่วนผสมในยาเกินกว่าที่เคาน์เตอร์ .3 อาหารที่มีสารพิษหรืออันตรายใด ๆเจือปนและถูกกำหนดเป็นสิ่งต้องห้ามโดยอาหารและยาทำ อย่างไรก็ตาม อาหารที่เป็นธรรมชาติมีสารที่เป็นอันตรายอาจได้รับอนุญาต ถ้าปริมาณของสารที่ไม่เว้นสทำร้ายสุขภาพ ดังนั้น อาหารที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ และชา ที่ได้รับการอนุมัติแม้ว่าคาเฟอีนของผลกระทบต่อสุขภาพในระดับปริมาณรังสีสูง4 เป็นสารเติมแต่งอาหาร คาเฟอีนจะถูกควบคุมโดย " มักจะจำปลอดภัย ( GRAS ) สาร เพราะฐานะของกฎระเบียบนี้ โปรเซสเซอร์อาหารไม่ต้องพิสูจน์ความปลอดภัยของคาเฟอีนก่อนเพิ่มลงในผลิตภัณฑ์ของตน แต่คาเฟอีนที่ยาวและแพร่หลายประวัติใช้เป็นหลักฐานเพียงพอใจในความปลอดภัย อาหารและยา ( FDA ) ได้เผยแพร่กฎระเบียบที่ จำกัด ปริมาณของคาเฟอีนที่สามารถเพิ่มในอาหาร( " ผลกระทบต่อสุขภาพจากคาเฟอีน โดยสภาอเมริกันเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และสุขภาพ )