Florida is one of the 11 states in

Florida is one of the 11 states in the country that have yet to pass a law prohibiting texting while driving. In fact, Florida has yet to establish any laws prohibiting cell phone use while driving. This type of distracted driving causes thousands of car accidents and injuries every year. Accessing social media from your mobile device while driving is just as dangerous as texting and driving and even drinking and driving. During 2012, 54.9% of mobile phone users in the U.S. were using smartphones, or phones that have access to the Internet. By May of 2012, the number of smartphone users reached 110 million nationwide. According to a study done by the European telecom giant 02, smartphone users spend approximately two hours per day looking at their phone. Between 2009 and 2011, drivers accessing the Internet while behind the wheel increased from 29 percent to 43 percent. Drivers checking social media networks increased from 21 percent to 37 percent. In 2012, State Farm reported that 48 percent of drivers admitted to accessing the Internet behind the wheel.

Social Media Activity in Personal Injury Claims
The rise in smartphones and the use of social media has paved the way for a new type of distracted driver. As a result, many insurance investigators and prosecuting attorneys are looking at social media activity during trials. If you have suffered a serious injury during a car accident, you may need to file a lawsuit. The first thing you need to do is hire an experienced Orlando Car Accident Attorney. Your attorney will look at social media activity at the time of the accident to try and prove the other driver breached his or her duty of care. If there is substantial evidence that social media on a mobile device distracted the other driver during the time of the accident, the other driver has breached his or her duty of care.
Dangers of Using Social Media While Driving
According to a study done by the University of Utah, the use of a mobile device can affect a driver’s reaction time as much as having a blood alcohol level of .08 percent. Drivers using their phones are four times as likely to be involved in an auto accident. Texting and driving has been a problem for a number of years; however, using social media on a mobile device can be just as dangerous due to the driver’s lack of attention to the road. Drivers who are distracted by social media on mobile devices are more likely to ignore traffic lights and stop signs, swerve into other lanes and rear-end vehicles when coming to a stop. Depending on the roadway and speed at the time of the accident, these types of accidents can cause serious property damage and injury to those involved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟลอริด้าเป็นหนึ่งในอเมริกา 11 ประเทศที่ยังไม่ได้ผ่านกฎหมายห้าม texting ขณะขับรถ ในความเป็นจริง ฟลอริด้ายังไม่ได้สร้างใช้กฎหมายใด ๆ ห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ ชนิดนี้ต้องคอยกังวลขับสาเหตุรถอุบัติเหตุและบาดเจ็บนับพันทุกปี เข้าถึงสื่อสังคมจากอุปกรณ์มือถือขณะขับรถเป็นเพียงเป็นอันตรายเป็น texting และขับรถได้ดื่ม และขับรถ ใน 2012, 54.9% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาได้ใช้สมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดย 2012 may จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนถึง 110 ล้านทั่วประเทศ ตามการศึกษาทำ โดยเทเลคอมยุโรป 02 ยักษ์ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวันโทรศัพท์ของพวกเขา ระหว่างไดรเวอร์ 2009 และ 2011 เข้าถึงอินเทอร์เน็ตในขณะที่ล้อหลังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29 43 เปอร์เซ็นต์ ควบคุมตรวจสอบเครือข่ายสังคมที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21 37 เปอร์เซ็นต์ ใน 2012 ฟาร์มรัฐรายงานว่า ร้อยละ 48 ของไดรเวอร์ชมอินเทอร์เน็ตหลังล้อ กิจกรรมสื่อสังคมในการเรียกร้องการบาดเจ็บส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในสมาร์ทโฟนและการใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้ปูทางสำหรับชนิดใหม่ของโปรแกรมควบคุมที่ต้องคอยกังวล ผล ประกันนักสืบและทนายความ prosecuting หลายกำลังมองหาที่สังคมกิจกรรมในระหว่างการทดลอง ถ้าคุณประสบปัญหาบาดเจ็บที่ร้ายแรงในอุบัติเหตุรถยนต์ คุณอาจต้องการแฟ้มคดี สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ จ้างทนายความมีประสบการณ์ออร์แลนโดรถยนต์อุบัติเหตุ ทนายความของคุณจะดูที่สังคมกิจกรรมในเวลาเกิดเหตุ และพยายามพิสูจน์ไดรเวอร์พอหน้าที่ดูแลเขา หรือเธอ ถ้ามีหลักฐานพบว่า สังคมบนอุปกรณ์โมบายฟุ้งซ่านไดรเวอร์อื่น ๆ ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ไดรเวอร์มีพอหน้าที่ดูแลเขา หรือเธออันตรายของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในขณะขับรถตามการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยยูทาห์ การใช้อุปกรณ์โมบายสามารถผลของปฏิกิริยาเวลาเท่าที่มีระดับแอลกอฮอล์เลือดร้อยละ.08 โปรแกรมควบคุมโดยใช้โทรศัพท์ของพวกเขาเป็นครั้งที่สี่เป็นแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุรถยนต์ Texting และขับรถได้รับปัญหาจำนวนปี อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อสังคมออนไลน์บนอุปกรณ์มือถือได้เพียงเป็นอันตรายขาดไดรเวอร์ความสนใจอยู่ คนฟุ้งซ่าน โดยสังคมบนอุปกรณ์มือถือมีแนวโน้มที่จะละเว้นไฟสัญญาณจราจรและเครื่องหมายหยุด หักเลี้ยวเข้าถนนหนทางอื่น ๆ และ rear-end คันเมื่อมาถึงการหยุด ถนนและความเร็วในเวลาเกิดเหตุ อุบัติเหตุชนิดนี้สามารถทำร้ายทรัพย์สินและการบาดเจ็บผู้ที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟลอริด้าเป็นหนึ่งใน 11 รัฐในประเทศที่ยังไม่ได้ผ่านกฎหมายห้ามการส่งข้อความขณะขับรถ ในความเป็นจริง, ฟลอริด้ายังไม่ได้สร้างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ประเภทของการขับรถฟุ้งซ่านนี้ทำให้พันของการเกิดอุบัติเหตุรถและได้รับบาดเจ็บทุกปี การเข้าถึงสื่อทางสังคมจากอุปกรณ์มือถือของคุณในขณะขับรถเป็นเพียงเป็นอันตรายตามที่การส่งข้อความและการขับรถและแม้กระทั่งการดื่มและการขับรถ ในช่วงปี 2012 ที่ 54.9% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาได้ใช้มาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมของปี 2012 จำนวนผู้ใช้มาร์ทโฟนถึง 110 ล้านทั่วประเทศ จากการศึกษาทำโดยยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมยุโรป 02 ผู้ใช้มาร์ทโฟนใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงต่อวันกำลังมองหาที่โทรศัพท์ของพวกเขา ระหว่างปี 2009 และปี 2011 ไดรเวอร์เข้าถึงอินเทอร์เน็ตขณะที่ล้อหลังเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29 ถึงร้อยละ 43 ไดรเวอร์การตรวจสอบเครือข่ายสื่อสังคมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21 ถึงร้อยละ 37 ในปี 2012 สเตทฟาร์มรายงานว่าร้อยละ 48 ของคนขับรถเข้ารับการรักษาเข้าถึงอินเทอร์เน็ตล้อหลัง. กิจกรรมสื่อทางสังคมในการเรียกร้องการบาดเจ็บส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในมาร์ทโฟนและการใช้สื่อทางสังคมที่มีการปูทางสำหรับรูปแบบใหม่ของคนขับรถฟุ้งซ่าน เป็นผลให้นักวิจัยหลายประกันและทนายความอัยการกำลังมองหาที่กิจกรรมสื่อสังคมในระหว่างการทดลอง หากคุณได้รับความเดือดร้อนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงที่คุณอาจจำเป็นต้องยื่นฟ้อง สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการจ้างงานที่มีประสบการณ์ออร์แลนโดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทนายความของคุณจะดูที่กิจกรรมสื่อสังคมในช่วงเวลาของการเกิดอุบัติเหตุที่จะลองและพิสูจน์ไดรเวอร์อื่น ๆ ที่ละเมิดหน้าที่ของเขาหรือเธอในการดูแล หากมีหลักฐานมากมายว่าสื่อสังคมบนโทรศัพท์มือถือฟุ้งซ่านไดรเวอร์อื่น ๆ ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุขับอื่น ๆ ได้ละเมิดการปฏิบัติหน้าที่ของเขาหรือเธอในการดูแล. อันตรายจากการใช้สื่อสังคมในขณะที่ขับรถตามการศึกษาทำโดยมหาวิทยาลัยยูทาห์, การใช้งานของโทรศัพท์มือถือที่สามารถส่งผลกระทบต่อเวลาปฏิกิริยาขับรถมากที่สุดเท่าที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดร้อยละ 0.08 ไดร์เวอร์ที่ใช้โทรศัพท์ของพวกเขาจะเป็นครั้งที่สี่มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุรถยนต์ texting และการขับรถมีปัญหาสำหรับจำนวนของปีที่ผ่านมานั้น แต่การใช้สื่อสังคมบนโทรศัพท์มือถือสามารถเช่นเดียวกับที่เป็นอันตรายเนื่องจากการขาดของคนขับรถให้ความสนใจไปที่ถนน คนขับรถที่จะฟุ้งซ่านโดยสื่อสังคมบนโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจสัญญาณไฟจราจรและหยุดสัญญาณหักเลี้ยวเข้าไปในถนนและรถอื่น ๆ ท้ายเมื่อมาหยุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับถนนและความเร็วในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ประเภทของการเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างจริงจังและได้รับบาดเจ็บที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟลอริด้าเป็นหนึ่งใน 11 รัฐในประเทศที่ยังไม่ได้ผ่านกฎหมายห้ามการส่งข้อความขณะขับรถ ในความเป็นจริง , Florida ยังสร้างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ประเภทของการขับรถฟุ้งซ่าน สาเหตุของอุบัติเหตุทางรถยนต์ และได้รับบาดเจ็บนับพันทุกปีการเข้าถึงสื่อสังคมจากโทรศัพท์มือถือของคุณในขณะขับรถก็อันตรายเช่น texting และการขับรถและแม้กระทั่งการดื่มแล้วขับ ใน 2012 , 54.9 % ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกาใช้สมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์ที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต พฤษภาคม 2012 , จำนวนของผู้ใช้มาร์ทโฟนถึง 110 ล้านบาท ตามการศึกษาทำโดยยุโรปโทรคมนาคมยักษ์ 02 ,ผู้ใช้มาร์ทโฟนใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงต่อวัน มองโทรศัพท์ของตน ระหว่างปี 2009 และ 2011 , โปรแกรมควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในขณะที่ล้อหลังที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29 ถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ไดรเวอร์การตรวจสอบเครือข่ายสื่อทางสังคมเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 21 ถึง 37 เปอร์เซ็นต์ 2012 ฟาร์มของรัฐรายงานว่า ร้อยละ 48 ของไดรเวอร์ยอมรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหลังล้อ .

สื่อสังคมกิจกรรมในการเรียกร้องการบาดเจ็บส่วนบุคคล
เพิ่มขึ้นของมาร์ทโฟนและใช้สื่อสังคมมี paved วิธีสำหรับชนิดใหม่ของฟุ้งซ่านไดรเวอร์ เป็นผลให้พนักงานสอบสวนและอัยการทนายความประกันภัยหลายจะมองสังคมสื่อกิจกรรมในระหว่างการทดลอง ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บสาหัสในอุบัติเหตุรถยนต์ , คุณอาจต้องการที่จะแฟ้มคดีสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการจ้างที่มีประสบการณ์ออร์แลนโดทนายความอุบัติเหตุรถยนต์ . ทนายความของคุณจะดูสื่อสังคมกิจกรรมในเวลาของอุบัติเหตุและพยายามพิสูจน์ว่าไดรเวอร์อื่น ๆการละเมิดหน้าที่ของเขาหรือเธอดูแล หากมีหลักฐานสําคัญที่สื่อทางสังคมบนโทรศัพท์มือถือฟุ้งซ่านไดรเวอร์อื่น ๆในระหว่างเวลาของอุบัติเหตุไดรเวอร์อื่น ๆของเขาหรือเธอได้ละเมิดหน้าที่ดูแล
อันตรายของการใช้สื่อทางสังคมในขณะขับรถ
ตามการศึกษาทำโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐยูท่าห์ การใช้โทรศัพท์มือถืออาจมีผลต่อปฏิกิริยาของคนขับมากที่สุดเท่าที่จะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของ . 08 ) ไดรเวอร์ที่ใช้โทรศัพท์ของพวกเขาเป็นสี่ครั้งเป็นโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถนะtexting และการขับรถได้รับปัญหาสำหรับจำนวนของปี อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อทางสังคมบนโทรศัพท์มือถือสามารถเป็นเพียงอันตรายเนื่องจากคนขับขาดความสนใจกับถนน ไดรเวอร์ที่เป็นฟุ้งซ่านโดยสื่อทางสังคมบนโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจไฟจราจรและป้ายหักหลบรถอีกเลนและท้ายเมื่อมาหยุดขึ้นอยู่กับถนนและความเร็วในเวลาของอุบัติเหตุเหล่านี้ประเภทของอุบัติเหตุร้ายแรงสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้อง