King Chulalongkorn was born on 20 S

King Chulalongkorn was born on 20 September 1853 to King Mongkut and Queen Debsirindra and given the name Chulalongkorn. In 1861, he was designated Krommamuen Pikhanesuan Surasangkat. His father gave him a broad education, including instruction from European tutors such as Anna Leonowens. In 1866, he became a novice monk for six months in Wat Bawonniwet according to royal tradition.[2] Upon his return to his secular life in 1867, he was designated Krommakhun Phinit Prachanat (กรมขุนพินิตประชานาถ.)

In 1867, King Mongkut led an expedition to the Malay Peninsula south of the city of Hua Hin,[3] to verify his calculations of the Solar eclipse of 18 August 1868. Both father and son fell ill of malaria and Mongkut died on 1 Oct. 1868. Supposing the 15-year-old Chulalongkorn also to be dying, King Mongkut on his deathbed had written, “My brother, my son, my grandson, whoever you all the senior officials think will be able to save our country will succeed my throne, choose at your own will.” Si Suriyawongse, the most powerful government official of the day, managed the succession of Chulalongkorn to the throne, and his own appointment as regent. The coronation was held on 11 November 1868. Chulalongkorn's health improved, and he was tutored in public affairs, traveled to India (then under the British Raj) and Java (then under Karkerlakkk colonial rule) to observe modern administration. He was crowned king in his own right as Rama V on 16 Nov. 1873.[1]

Si Suriyawongse then arranged the title of Front Palace of King Pinklao (who was his uncle) to be succeeded by King Pinklao’s son, Prince Yingyot (who was then Chulalongkorn’s cousin).

The young Chulalongkorn was an enthusiastic king craving for reforms. He visited Singapore and Java in 1870 and British India during 1870–1872 to see the administration of British colonies. He toured the administrative centres of Calcutta, Delhi, Bombay and back to Calcutta in early 1872. This journey was later the source of his ideas and methodology of the modernization of Siam.

As a regent, Si Suriyawongse wielded a great influence. Si Suriyawongse continued the works of King Mongkut. He supervised the digging of several important khlongs, such as Padung Krungkasem and Damneun Saduak, and the paving of roads such as Chareon Krung and Silom. He was also the patron of Thai literature and performing arts and many more talents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มหาจุฬาลงกรณ์เกิด 20 1853 กันยายนมงกุฎกษัตริย์และราชินี Debsirindra และให้ชื่อว่าจุฬาลงกรณ์ ใน 1861 เขาถูกกำหนด Krommamuen Pikhanesuan Surasangkat พ่อของเขาให้เขาศึกษากว้าง รวมทั้งคำแนะนำจากยุโรปสอนเช่นแอนนาลีโอโนเวนส์ ใน 1866 เขากลายเป็นเป็นสามเณรในวัด Bawonniwet หกเดือนตามราชประเพณี [2] เมื่อกลับมาสู่ชีวิตทางโลกใน 1867 เขาถูกกำหนดอาทรประชานาถพินิจ Krommakhun (กรมขุนพินิตประชานาถ)สมเด็จพระจอมเกล้านำการเดินทางไปมลายูจากตัวเมืองหัวหิน, [3] เพื่อตรวจสอบการคำนวณสุริยุปราคาของ 18 1868 สิงหาคมเขาใน 1867 ทั้งพ่อและลูกชายล้มป่วยมาลาเรีย และมงกุฎที่เสียชีวิตใน 1 1868 ตุลาคม ถ้าจุฬาลงกรณ์อายุ 15 ปียังกับจะตาย สมเด็จพระจอมเกล้าบนพระ deathbed ได้เขียน, "น้อง ลูก หลานของฉัน ใครคุณทั้งหมดเจ้าหน้าที่ระดับสูงคิดว่าจะสามารถบันทึกประเทศของเราจะสำเร็จพระของฉัน เลือกของคุณเอง" สุรวงศ์ศรี ราชการมีประสิทธิภาพมากที่สุดของวัน จัดการสืบทอดของจุฬาลงกรณ์ราชบัลลังก์ และนัดหมายตนเป็นรีเจนท์ พิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 11 1868 พฤศจิกายน ปรับปรุงสุขภาพของจุฬาลงกรณ์ และเขาถูก tutored ในรัฐกิจ การเดินทางไปอินเดีย (แล้วใต้บริติชราช) และชวา (แล้วภายใต้กฎอาณานิคม Karkerlakkk) สังเกตบริหารทันสมัย เขามีมงกุฎกษัตริย์ในขวาของเขาเองเป็นจุลจอมเกล้าใน 16 1873 พฤศจิกายน [1]สุรวงศ์ศรีจัดเรียงชื่อเรื่องของหน้าพระราชวังของพระปิ่นเกล้า (ผู้เป็นลุงของเขา) แล้วการจะประสบความสำเร็จ โดยลูกพระปิ่นเกล้า Yingyot เจ้าชาย (ที่ถูกแล้วลูกพี่ลูกน้องของจุฬาลงกรณ์)จุฬาลงกรณ์หนุ่มคิงกระตือรือร้นการแกะสลักเพื่อการปฏิรูปได้ เขาเยี่ยมสิงคโปร์ และชวาในค.ศ. 1870 และบริติชอินเดียระหว่างค.ศ. 1870 – เนียร์ชเพื่อดูการบริหารงานของอาณานิคมอังกฤษ เขาออกศูนย์ดูแลเมืองกัลกัตตา เดลลี บอมเบย์ และกลับไป ยังเมืองกัลกัตตาในช่วงเนียร์ช เดินทางครั้งนี้ได้ในภายหลังแหล่งที่มาของความคิดและวิธีการของนวัตกรรมของสยามเป็นรีเจ้นท์ ศรีสุรวงศ์ wielded อิทธิพลมาก สุรวงศ์ศรีต่องานของสมเด็จพระจอมเกล้า เขาแบบมีผู้สอนขุดของหลาย khlongs สำคัญ เช่น Padung Krungkasem Damneun ดำเนินสะดวก และปูถนนสีลมและเจริญกรุง เขายังเป็นสมาชิกของวรรณคดีไทย และศิลปะการแสดง และความสามารถเพิ่มเติมมากมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเกิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 1853 เพื่อพระจอมเกล้าและสมเด็จพระราชินีสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีและได้รับชื่อจุฬาลงกรณ์ ใน 1861 เขาได้รับการกำหนด Krommamuen Pikhanesuan Surasangkat พ่อของเขาทำให้เขามีการศึกษาในวงกว้างรวมถึงการเรียนการสอนจากอาจารย์ผู้สอนในยุโรปเช่นแอนนาลีโอโนเวนส์ ในปี 1866 เขาก็กลายเป็นพระภิกษุสงฆ์สามเณรเวลาหกเดือนในวัด Bawonniwet ตามราชประเพณี. [2] เมื่อเขากลับไปใช้ชีวิตทางโลกของเขาในปี 1867 เขาได้รับมอบหมายให้ Krommakhun Phinit Prachanat (กรมขุนพินิตประชานาถ.) ในปี 1867 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า นำเดินทางไปคาบสมุทรมลายูทิศใต้ของเมืองหัวหิน, [3] ในการตรวจสอบการคำนวณของเขาของสุริยุปราคาวันที่ 18 สิงหาคม 1868 ทั้งพ่อและลูกชายล้มป่วยของโรคมาลาเรียและพระจอมเกล้าเสียชีวิต 1 ตุลาคม 1868 เผื่อว่า 15 ปีจุฬาลงกรณ์ยังจะต้องตายพระจอมเกล้าบนเตียงมรณะของเขาได้เขียน "พี่ชายของฉันลูกชายของฉันหลานชายของฉันใครก็ตามที่คุณทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงคิดว่าจะสามารถที่จะช่วยประเทศของเราจะประสบความสำเร็จบัลลังก์ของเราเลือกที่ จะของคุณเอง. "ศรีสุริยวงศ์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในวันที่มีการจัดการอย่างต่อเนื่องแห่งจุฬาลงกรณ์ราชบัลลังก์และได้รับการแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนสุขภาพจุฬาลงกรณ์ 1868 ปรับตัวดีขึ้นและเขาก็เรียนหนังสือในกิจการสาธารณะเดินทางไปอินเดีย (แล้วภายใต้การปกครองของอังกฤษ) และ Java (แล้วภายใต้การปกครองอาณานิคม Karkerlakkk) จะสังเกตเห็นการบริหารจัดการที่ทันสมัย เขาได้รับการสวมมงกุฎกษัตริย์ในสิทธิของเขาเป็นจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1873 [1] สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์แล้วจัดชื่อของด้านหน้าพระราชวังของกษัตริย์ปิ่นเกล้า (ซึ่งเป็นลุงของเขา) ที่จะประสบความสำเร็จโดยลูกชายของคิงปิ่นเกล้าเจ้าชายยิ่งยศ (ใคร ตอนนั้นญาติจุฬาลงกรณ์). หนุ่มจุฬาลงกรณ์อยากเป็นพระมหากษัตริย์มีความกระตือรือร้นในการปฏิรูป เขาไปเยือนสิงคโปร์และชวาในปี 1870 อังกฤษและอินเดียในช่วง 1870-1872 จะเห็นการบริหารงานของอาณานิคมอังกฤษ เขาไปเที่ยวศูนย์การปกครองของกัลกัต, นิวเดลี, อินเดียและกลับไปที่กัลกัตในช่วงต้นปี 1872 การเดินทางครั้งนี้ต่อมาแหล่งที่มาของความคิดและวิธีการของเขาในความทันสมัยของสยาม. ในฐานะที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์กำอิทธิพลอย่างมาก สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ยังคงผลงานของพระมหากษัตริย์พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เขาดูแลการขุดคลองที่สำคัญหลายประการเช่น Padung ถนนกรุงเกษมและดำเนินวัยดำเนินสะดวกและปูของถนนเช่นเจริญกรุงและสีลม เขายังเป็นผู้มีพระคุณของวรรณคดีไทยและศิลปะการแสดงและความสามารถอื่น ๆ อีกมากมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดวันที่ 20 กันยายน 1853 ถึงจอมกษัตริย์และราชินี สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และได้รับชื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน 1861 เขาเขต krommamuen pikhanesuan surasangkat . พ่อของเขาให้เขาศึกษาในวงกว้าง รวมถึงการสอนจากผู้สอนในยุโรป เช่น แอนนา เลียวโนเวนส์ ในปี 1866 เขาเป็นเณรอยู่หกเดือนในวัด bawonniwet ตามประเพณีหลวง[ 2 ] เมื่อเขากลับไปใช้ชีวิตฆราวาสของเขาใน 1867 เขาเขต krommakhun phinit prachanat ( กรมขุนพินิตประชานาถ )

ใน 1867 , พระจอมเกล้าเป็นผู้นำกลุ่มในคาบสมุทรมลายู ทางใต้ของเมืองหัวหิน , [ 3 ] เพื่อตรวจสอบของเขาการคำนวณของสุริยุปราคาเต็มดวง 18 สิงหาคมพ.ศ. 2411 . ทั้งพ่อและลูกชายป่วยของโรคมาลาเรียและเสียชีวิตวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 ณ .