A health-promoting schoolThis speci

A health-promoting school
This special school is an ideal setting for becoming a `health-promoting school' [reviewed in (Lynagh et al., 1997)] with the whole school focusing on sun protection by reinforcing and encouraging the good practice already present in the school. The school authorities could support its implementation by scheduling the timing of outdoor activities such as gardening and sport to the early morning or late afternoon, thus avoiding the time of peak UV exposure between 11 a.m. and 3 p.m. The provision of attractive indoor occupations for the pupils will encourage them to spend their leisure time indoors. The girls tend to spend their free time watching television, whereas the boys prefer to play soccer outside, leading to differences in the levels of UV exposure (P. M. Lund, unpublished results). The school and pupils could negotiate a policy on outdoor sports, e.g. `No soccer without sunscreen'.

In their evaluation of a primary school sun safety programme in the UK, McWhirter et al. stress the role of teachers as effective communicators of the sun safety message (McWhirter et al., 2000). Teachers at this special school are, however, all normally pigmented and do not suffer the same sun induced skin problems their pupils with albinism experience. Suitable information packs on albinism and its management aimed at teachers should form part of the intervention programme. They would, however, be transmitting information about sun protective measures without the need to do so themselves and with no personal experience of sunburn. This information would carry more weight if presented by other members of the community with albinism and therefore first-hand knowledge of the health problems. A group of students with albinism at the local university are keen to give talks in schools. They would also be positive role models by showing that those with albinism can achieve university level, despite their visual disabilities.

The involvement of the parents is also crucial to a sustained health intervention plan, as the children often suffer skin damage when they return home during the holidays and are tempted outside to join their normally pigmented friends. If mothers can be educated and informed about albinism they will have more confidence to deal with their child's condition. Outreach programmes, support groups and workshops focusing on albinism and its management should be designed for an interactive, social learning process. These can become instrumental in creating an informed community willing to address albinism in an objective, scientific manner, but interpreted against the background of existing indigenous knowledge about albinism.

In conclusion, this special school provides an ideal environment to promote the health of children with albinism and implement a comprehensive, whole school approach to issues such as sun protection. There is a strong argument for re-orienting medical and welfare facilities so that personnel come to the school to deliver services in an efficient manner. Once an effective intervention programme has been established for this school, attention will be given on how to promote the programme in other settings. A further study is underway at a multi-disability school in the region, where physical, oral and visually impaired pupils are catered for. The intervention proposed here would need to be adapted to this different setting, where children with albinism are in a small minority.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพโรงเรียนนี้พิเศษคือ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็น 'ส่งเสริมสุขภาพโรงเรียน' [ทานใน (Lynagh และ al., 1997)] มีโรงเรียนทั้งหมดที่เน้นป้องกันแสงแดด โดยภาคเอกชน และส่งเสริมการปฏิบัติที่ดีอยู่แล้วในโรงเรียน เจ้าหน้าที่โรงเรียนสามารถสนับสนุนการดำเนินงาน โดยการวางแผนการกำหนดเวลาของกิจกรรมกลางแจ้งเช่นสวน และกีฬาช่วงเช้าหรือบ่าย จึง หลีกเลี่ยงเวลาแสง UV สูงสุดระหว่างเวลา 11.00 น.และ 15.00 น. บทบัญญัติของอาชีพภายในน่าสนใจสำหรับนักเรียนจะส่งเสริมให้พวกเขาใช้เวลาพักผ่อนในร่ม หญิงสาวที่มักใช้เวลาฟรีดูโทรทัศน์ ในขณะที่เด็กผู้ชายชอบเล่นฟุตบอลนอก นำไปสู่ความแตกต่างในระดับของรังสี (P. M. ลุนด์ ยกเลิกประกาศผล) โรงเรียนและนักเรียนสามารถเจรจานโยบายในกีฬากลางแจ้ง เช่น 'ไม่ฟุตบอลไม่ มีครีมกันแดด'ในการประเมินผลของหลักสูตรความปลอดภัยอาทิตย์โรงเรียนสหราชอาณาจักร McWhirter et al. ย้ำบทบาทของครูเป็น communicators มีผลบังคับใช้ของข้อความปลอดภัยซัน (McWhirter et al., 2000) ครูโรงเรียนพิเศษนี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดโดยปกติมีสี และไม่ประสบปัญหาเดียวกันของผิวดวงอาทิตย์ที่เกิดจากประสบการณ์ของนักเรียน มีภาวะผิวเผือก ชุดข้อมูลที่เหมาะสมกับภาวะผิวเผือกและการจัดการที่ครูควรเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแทรกแซง พวกเขา จะ อย่างไรก็ตาม จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันแสงแดดโดยไม่จำเป็นต้องทำตัวเอง และประสบการณ์ส่วนบุคคลไม่โดน ข้อมูลนี้จะมีน้ำหนักมากขึ้นดังนั้นข้อมูลของปัญหาสุขภาพและสมาชิกอื่น ๆ ของชุมชนที่มีภาวะผิวเผือก กลุ่มของนักเรียนที่มีภาวะผิวเผือกที่มหาวิทยาลัยมีความกระตือรือร้นให้เจรจาในโรงเรียน พวกเขายังจะเป็นแบบจำลองบทบาทบวก โดยแสดงว่า ผู้ที่ มีภาวะผิวเผือกสามารถบรรลุระดับมหาวิทยาลัย แม้ มีความพิการของพวกเขามองเห็นมีส่วนร่วมของผู้ปกครองก็ต้องวางแผนจัดการสุขภาพ sustained เป็นเด็กมักจะทุกข์ทรมานผิวความเสียหายเมื่อพวกเขากลับบ้านในช่วงวันหยุด และมีอยากนอกรวมเพื่อนของพวกเขามีสีปกติ ถ้ามารดาสามารถศึกษา และทราบข้อมูลเกี่ยวกับภาวะผิวเผือก ก็จะมีความมั่นใจเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับเงื่อนไขของลูก โครงการบริการวิชาการ กลุ่มสนับสนุน และประชุมเชิงปฏิบัติการเน้นการบริหารและภาวะผิวเผือกควรออกแบบสำหรับกระบวนการเรียนรู้แบบโต้ตอบ สังคม เหล่านี้สามารถกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างชุมชนที่ทราบยินดีที่ภาวะผิวเผือกในวัตถุประสงค์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่ตีความกับพื้นหลังความรู้พื้นเมืองที่มีอยู่เกี่ยวกับภาวะผิวเผือกเบียดเบียน โรงเรียนพิเศษนี้ช่วยให้สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับสุขภาพของเด็กที่มีภาวะผิวเผือก และใช้วิธีการโรงเรียนทั้งหมด ครอบคลุมปัญหาเช่นป้องกันแสงแดด มีข้อโต้เถียงใน orienting ใหม่ทางการแพทย์และสวัสดิการเพื่อให้บุคลากรมาโรงเรียนเพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีการสร้างโครงการการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรงเรียนนี้ จะให้ความสนใจในวิธีการส่งเสริมโครงการในการตั้งค่าอื่น ๆ ศึกษาต่ออยู่ในระหว่างดำเนินเรียนพิการหลายในภูมิภาค จริง ช่องปาก และนักเรียนผู้พิการทางสายตาซึ่งให้บริการ แทรกแซงการนำเสนอที่นี่จะจำเป็นต้องดัดแปลงให้แตกต่างกันตั้งค่านี้ เด็กที่ มีภาวะผิวเผือกอยู่ในชนกลุ่มน้อยขนาดเล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ
โรงเรียนนี้เป็นพิเศษคือการตั้งค่าที่เหมาะสำหรับการเป็น `โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ '[ทบทวน (Lynagh et al., 1997)] กับทั้งโรงเรียนมุ่งเน้นไปที่การป้องกันแสงแดดโดยเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติที่ดีอยู่แล้ว ในโรงเรียน เจ้าหน้าที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานโดยการตั้งเวลาระยะเวลาของกิจกรรมกลางแจ้งเช่นสวนและกีฬาตอนเช้าหรือช่วงบ่ายจึงหลีกเลี่ยงช่วงเวลาของการสัมผัสรังสียูวียอด 11:00-15:00 บทบัญญัติของการประกอบอาชีพในร่มที่น่าสนใจสำหรับนักเรียน จะส่งเสริมให้พวกเขาที่จะใช้เวลาว่างของพวกเขาในบ้าน สาว ๆ มีแนวโน้มที่จะใช้เวลาว่างของพวกเขาดูโทรทัศน์ในขณะที่เด็กผู้ชายชอบที่จะเล่นฟุตบอลนอกที่นำไปสู่ความแตกต่างในระดับของการสัมผัสรังสียูวี (PM ลันด์ที่ไม่ได้เผยแพร่ผล) โรงเรียนและนักเรียนสามารถเจรจานโยบายเกี่ยวกับกีฬากลางแจ้งเช่น `ฟุตบอลโดยไม่ต้องทาครีมกันแดด '. ในการประเมินผลของพวกเขาจากโรงเรียนโปรแกรมความปลอดภัยอาทิตย์หลักในสหราชอาณาจักร McWhirter และคณะ ความเครียดบทบาทของครูในฐานะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของข้อความความปลอดภัยของดวงอาทิตย์ (McWhirter et al., 2000) ครูที่โรงเรียนพิเศษนี้มี แต่ทุกเม็ดสีตามปกติและไม่ประสบอาทิตย์เดียวเหนี่ยวนำให้เกิดปัญหาผิวนักเรียนของพวกเขาที่มีประสบการณ์เผือก ข้อมูลที่เหมาะสมในการแพ็คเผือกและผู้บริหารของ บริษัท ที่มุ่งครูควรเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการแทรกแซง พวกเขาจะอย่างไรจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันแสงแดดโดยไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นกับตัวเองและไม่มีประสบการณ์ส่วนตัวของการถูกแดดเผา ข้อมูลนี้จะมีน้ำหนักมากขึ้นถ้านำเสนอโดยสมาชิกคนอื่น ๆ ของชุมชนที่มีเผือกและดังนั้นจึงรู้มือแรกของปัญหาสุขภาพ กลุ่มของนักเรียนที่มีเผือกที่มหาวิทยาลัยในท้องถิ่นมีความกระตือรือร้นที่จะให้การเจรจาในโรงเรียน พวกเขายังจะเป็นแบบอย่างในเชิงบวกโดยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีผิวเผือกสามารถบรรลุระดับมหาวิทยาลัยแม้จะมีปัญหาทางสายตาของพวกเขา. การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองนอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการแทรกแซงสุขภาพอย่างต่อเนื่องในขณะที่เด็ก ๆ มักจะประสบความเสียหายผิวเมื่อพวกเขากลับบ้านในช่วง วันหยุดและจะล่อลวงนอกที่จะเข้าร่วมเพื่อนสีปกติของพวกเขา หากคุณแม่สามารถได้รับการศึกษาและความรู้เกี่ยวกับเผือกพวกเขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการจัดการกับอาการของลูก โปรแกรมขยายกลุ่มสนับสนุนและการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นไปเผือกและการจัดการของมันควรจะได้รับการออกแบบสำหรับการโต้ตอบและกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม เหล่านี้จะกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างชุมชนแจ้งความเต็มใจที่จะอยู่ในวัตถุประสงค์เผือกลักษณะทางวิทยาศาสตร์ แต่ตีความกับพื้นหลังของที่มีอยู่ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับเผือก. สรุปได้ว่าโรงเรียนพิเศษนี้ให้สภาพแวดล้อมที่เหมาะในการส่งเสริมสุขภาพของเด็กที่มีผิวเผือก และดำเนินการครอบคลุมวิธีการโรงเรียนทั้งปัญหาต่างๆเช่นการป้องกันแสงแดด มีอาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งสำหรับการอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ทิศทางและสวัสดิการเพื่อให้บุคลากรมาโรงเรียนคือการส่งมอบบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อโปรแกรมการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อการโรงเรียนนี้ความสนใจจะได้รับในการที่จะส่งเสริมโปรแกรมในการตั้งค่าอื่น ๆ ศึกษาต่อเป็นชิ้นที่โรงเรียนหลายพิการในภูมิภาคที่ทางกายภาพในช่องปากและนักเรียนพิการทางสายตาได้รับการรองรับ การแทรกแซงเสนอที่นี่จะต้องมีการปรับให้เข้ากับการตั้งค่านี้แตกต่างกันที่เด็กที่มีเผือกอยู่ในชนกลุ่มน้อยที่มีขนาดเล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนพิเศษ
นี่คือการตั้งค่าที่เหมาะสำหรับการเป็น ' ' [ ดูในโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ( lynagh et al . , 1997 ) ] กับทั้งโรงเรียน เน้นป้องกันแสงแดดโดยการเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติที่ดีอยู่แล้วในโรงเรียนเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่สามารถสนับสนุนการใช้งานโดยการจัดตารางเวลาของกิจกรรมกลางแจ้งเช่นสวนและกีฬาตอนเช้าหรือบ่ายจึงหลีกเลี่ยงเวลาของแสง UV สูงสุดระหว่าง 11 น. และ 15.00 น. การมีเสน่ห์ในอาชีพสำหรับนักเรียนที่จะกระตุ้นให้พวกเขาที่จะใช้เวลาว่างของพวกเขาในบ้านผู้หญิงมักจะใช้เวลาว่างดูโทรทัศน์ ส่วนเด็กผู้ชายชอบเล่นฟุตบอลนอก ทำให้เกิดความแตกต่างในระดับของการเปิดรับแสงยูวี ( หน้าม. Lund , ผลประกาศ ) โรงเรียนและนักเรียนสามารถต่อรองนโยบายกีฬากลางแจ้งเช่นฟุตบอลโดยไม่มีสารกันแดด ` ไม่มี ' .

ในการประเมินของพวกเขาที่โรงเรียนอาทิตย์โครงการความปลอดภัยในอังกฤษ mcwhirter et al .ความเครียดในบทบาทของครูเป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของดวงอาทิตย์ความปลอดภัยข้อความ ( mcwhirter et al . , 2000 ) ครูที่โรงเรียนพิเศษนี้ , อย่างไรก็ตาม , ทั้งหมด ปกติสีและไม่ประสบเหมือนกันดวงอาทิตย์เกิดปัญหาผิว นักเรียนของพวกเขากับภาพยนตร์อิสระประสบการณ์ เหมาะสมข้อมูลแพ็คในภาพยนตร์อิสระและการจัดการมีวัตถุประสงค์ที่ครูควรเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการแทรกแซง .พวกเขาจะ , อย่างไรก็ตาม , จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันแสงแดดโดยไม่ต้องทำเอง และด้วยประสบการณ์ส่วนตัวของผิวไหม้ ข้อมูลนี้จะทำให้มีน้ำหนักมากขึ้น ถ้านำเสนอโดยสมาชิกคนอื่น ๆของชุมชนกับภาพยนตร์อิสระและดังนั้นจึงเขียนความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพกลุ่มของนักศึกษากับภาพยนตร์อิสระที่มหาวิทยาลัยท้องถิ่นจะกระตือรือร้นที่จะให้พูดคุยในโรงเรียน พวกเขาจะยังมีบทบาทในเชิงบวก โดยแสดงให้เห็นว่าผู้มีภาวะผิวเผือกสามารถบรรลุระดับของมหาวิทยาลัย แม้จะมีภาพคนพิการ

การมีส่วนร่วมของพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญที่จะยังคงนโยบายสุขภาพแผนเป็นเด็กที่มักจะประสบความเสียหายของผิวหนัง เมื่อพวกเขากลับบ้านในช่วงวันหยุด และถูกล่อลวงนอกเข้าร่วมของพวกเขาโดยปกติจะมีเพื่อน ถ้าแม่จะได้รับการศึกษาและทราบเกี่ยวกับภาวะผิวเผือก พวกเขาจะมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะจัดการกับสภาพของเด็กของพวกเขา การขยายโปรแกรมกลุ่มสนับสนุนและการประชุมเชิงปฏิบัติการเน้นภาพยนตร์อิสระและการจัดการของมันจะถูกออกแบบมาเพื่อโต้ตอบ กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม เหล่านี้สามารถเป็นเครื่องมือในการแจ้งชุมชนเต็มใจที่อยู่อ่านผ่านๆในวัตถุประสงค์ลักษณะทางวิทยาศาสตร์ แต่ตีความกับพื้นหลังของที่มีอยู่ดั้งเดิมความรู้เกี่ยวกับภาวะผิวเผือก .

สรุปโรงเรียนพิเศษนี้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการส่งเสริมสุขภาพของเด็กที่มีภาวะเผือก และใช้ครอบคลุมทั้งโรงเรียนแนวทางปัญหา เช่น การป้องกันแสงแดด มีอาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งสำหรับการปฐมนิเทศแพทย์เป็นสวัสดิการและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้บุคลากรมาโรงเรียนเพื่อให้บริการในลักษณะที่มีประสิทธิภาพเมื่อโครงการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพได้รับการก่อตั้งโรงเรียนนี้ สนใจจะได้รับเกี่ยวกับวิธีการส่งเสริมโปรแกรมในการตั้งค่าอื่น ๆ การศึกษาเพิ่มเติมจะดำเนินการในโรงเรียนคนพิการหลายในภูมิภาค ซึ่งทางช่องปาก และนักเรียนที่บกพร่องเป็น catered สำหรับ การแทรกแซงที่นำเสนอที่นี่จะต้องสามารถปรับให้เข้ากับการตั้งค่าที่แตกต่างกันนี้