เขากลายเป็นพวกไร้บ้าน – Homeless – ไม่มีที่ซุกหัวนอน ก่อน 5 โมงเย็นทุกวัน เขาต้องรีบละจากภาระ(บ้าบอ) เพื่อไปรับลูกชาย ณ สถานรับเลี้ยงเด็กผิวสี และ ต้องรีบไปแย่งยืนคิวยาวเหยียด เพื่อแบมือขอเศษเงิน เพื่อขออาหารเย็น–เย็น รวมถึง เพื่อเตียงนอนแคบๆ … สวัสดิการจากรัฐ (รัฐสวัสดิการ)
หากเขาไปไม่ทันเวลา สวัสดิการเหล่านั้นจะไม่พอถึงเขา รวมถึง ไม่มีที่ให้ซุกนอน ในค่ำคืนหนาวเหน็บ(บ้าบอ)นั่น
ตลกดี นอกจากจะต้องแบบมือขออะไรบ้าบอจากรัฐแล้ว ในเวลาเดียวกัน เขาต้องหลบๆซ่อนๆ จากการถูกฟ้องร้องโดยกองสวัสดิการเด็ก(บ้าบอ)อีกด้วย โทษฐานไม่มีมีเวลาเลี้ยงลูก (สวัสดิการจากรัฐอีกแล้ว)
คริสโตเฟอร์น้อย (Christopher Jr.) … นอกจากจะลูกชาย วัยช่างซักช่างถามแล้ว ยังเป็นเสมือนสมุดเล่มน้อย ซึ่งผู้เป็นพ่อบันทึกความรัก ความห่วงใย รวมถึง ทัศนคติสู้ชีวิต ลงไป แทบจะทุกเวลา มากเท่าที่โอกาสอำนวยอวยให้
ในช่วงเวลาห่วยแหกสาแหรกวิ่นของเขา ความฝันที่เป็น “ซัมวัน” เพื่อหาเงินกินข้าว เช่าบ้าน เพื่อความอยู่รอดในเมืองใหญ่ และ เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อเป็นพ่อของลูกต่อไป … fcuk! – ไม่ง่ายเลย
จริงอยู่! พระเจ้ามีพรวิเศษ แต่พรวิเศษที่ว่านั่น ก็มีโควต้าในตัวของมัน(โดยธรรมชาติ) แต่ก็นั่นแหละ ทุกกฎบนโลกใบนี้ มีข้อยกเว้นเสมอ และ บังเอิญ Christopher Gardner ได้รับพรเล็กๆ ที่เขาวอนขอก่อนนอนทุกคืน … พรเล็กๆ ที่มีชื่อเรียกว่า “ความสุข”
ณ วินาทีแย่ที่สุดของชีวิต วันสุดท้ายของการทดลองงาน เต็มไปด้วยความขลุกขลักทุลักทุเล–สิ้นดี! เขาได้รับเลือกให้ทำงานเป็น stock broker ในบริษัทค้าเงินแห่งหนึ่ง กลางมหานครนิวยอร์ค
ความทรงจำของเขา (Gardner‘s book of memoirs) ได้รับการตีพิมพ์ในปี 2006 และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ มีชื่อว่า The Pursuit of Happyness ในปีเดียวกัน และ อีก 2-3 ปีถัดมา เขาเปิดบริษัทค้าเงินของตัวเอง และ ขายหุ้นได้กำไรหลายล้านเหรียญ