Projective techniques have been inc

Projective techniques have been increasingly used in qualitative
marketing and consumer research (Boddy, 2005; Donoghue, 2000;
Steinmann, 2009). This group of qualitative techniques are based
on the assumption that the innermost feelings, beliefs, attitudes
and motivations of consumers can be uncovered by presenting
them an unstructured and ambiguous stimulus (Donoghue, 2000;
Guerrero et al., 2010). It has been reported that asking consumers
directly about their opinions, motivations and feelings often leads
to inaccurate results. In many cases, consumers are not able to
understand and explain their own behaviour or they may not share
their true feelings or opinions due to social barriers or fear to be
considered irrational or not clever (Donoghue, 2000; van Kleef
et al., 2005).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคนิค projective ขึ้นใช้ในเชิงคุณภาพวิจัยตลาดและผู้บริโภค (Boddy, 2005 Donoghue, 2000Steinmann, 2009) เทคนิคเชิงคุณภาพกลุ่มนี้อยู่ในที่สุดความรู้สึก ความเชื่อ ทัศนคติและโต่งของผู้บริโภคที่สามารถเปิด โดยการนำเสนอพวกเขากระตุ้นความคลุมเครือ และไม่มีโครงสร้าง (Donoghue, 2000รัฐเกร์เรโรร้อยเอ็ด al., 2010) มีรายงานว่า ถามผู้บริโภคโดยตรงเกี่ยวกับความคิดเห็น ความรู้สึกและโต่งมักเพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ในหลายกรณี ผู้บริโภคจะไม่สามารถเข้าใจ และอธิบายพฤติกรรมของตนเอง หรือพวกเขาอาจใช้ร่วมกันความรู้สึกที่แท้จริงหรือความคิดเห็นเนื่องจากอุปสรรคทางสังคมหรือความกลัวเป็นของพวกเขาถือว่าไม่มีเหตุผล หรือไม่ฉลาด (Donoghue, 2000; van Kleefร้อยเอ็ด al., 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคนิค Projective
มีการใช้มากขึ้นในเชิงคุณภาพด้านการตลาดและการวิจัยผู้บริโภค(Boddy 2005; Donoghue 2000;
Steinmann 2009) กลุ่มของเทคนิคเชิงคุณภาพนี้จะขึ้นอยู่บนสมมติฐานที่ว่าความรู้สึกสุดความเชื่อทัศนคติและแรงจูงใจของผู้บริโภคสามารถเปิดโดยนำเสนอพวกเขากระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่มีโครงสร้างและคลุมเครือ(Donoghue, 2000. เกร์เรโร, et al, 2010) มันได้รับรายงานว่าขอให้ผู้บริโภคโดยตรงเกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขาแรงจูงใจและความรู้สึกที่มักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ในหลายกรณีที่ผู้บริโภคไม่สามารถที่จะเข้าใจและอธิบายพฤติกรรมของตัวเองของพวกเขาหรือพวกเขาอาจไม่เปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงหรือความคิดเห็นของพวกเขาเนื่องจากอุปสรรคทางสังคมหรือความกลัวที่จะถือว่าไม่มีเหตุผลหรือไม่ฉลาด(Donoghue 2000; แวน Kleef. et al, 2005 )

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคนิคการฉายภาพได้มากขึ้นที่ใช้ในทางการตลาดเชิงคุณภาพ
และการวิจัยผู้บริโภค ( Boddy , 2005 ; ดาเนอฮิว , 2000 ;
steinmann , 2009 ) กลุ่มนี้จะใช้เทคนิคเชิงคุณภาพ
บนสมมติฐานว่าสุดความรู้สึก ความเชื่อ ทัศนคติและแรงจูงใจของผู้บริโภคสามารถ

เปิดโดยนำเสนอให้กำกวม และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ( ดาเนอฮิว , 2000 ;
Guerrero et al . ,2010 ) มันได้รับรายงานว่า ขอให้ผู้บริโภค
โดยตรงเกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก แรงจูงใจ และมักจะนำ
เพื่อผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง ในหลายกรณี ผู้บริโภคไม่สามารถ
เข้าใจและอธิบายพฤติกรรมของตัวเองหรือพวกเขาอาจไม่ได้ใช้
ความรู้สึกแท้จริงของพวกเขาหรือความคิดเห็นเนื่องจากอุปสรรคทางสังคม หรือกลัวถูก
ถือว่าไม่มีเหตุผลหรือไม่ฉลาด ( ดาเนอฮิว , 2000 ; ฟาน คลีฟ
et al . , 2005 )