Many states in the U.S. have passed

Many states in the U.S. have passed laws that ban the use of cell phones while driving. The reason is the number of deaths attributed to this seemingly harmless activity: 2,600 deaths nationwide every year, by some estimates [source: Live Science]. In fact, those numbers may actually be too low, due to the continued rise in cell phone use behind the wheel. If you think that talking and texting while driving isn't a big deal, consider this: One researcher compared the reaction time of a 20-year-old driver talking on a cell phone to that of a 70-year-old driver. What's more, working a cell phone behind the wheel can delay reaction times by as much as 20 percent.

It isn't just cell phones that cause distractions, however. Eating, applying makeup, fiddling with electronic devices or interacting with passengers also diverts a driver's attention in potentially deadly ways. Perhaps the best advice on driving distractions came from rocker Jim Morrison: "Keep your eyes on the road, your hands upon the wheel.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายรัฐในสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายที่ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เหตุผลคือ จำนวนเสียชีวิตที่เกิดจากกิจกรรมนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอันตราย: 2600 เสียชีวิตทั่วประเทศทุกปี โดยบางประมาณ [แหล่งที่มา: วิทยาศาสตร์อยู่] ในความเป็นจริง หมายเลขดังกล่าวจริงอาจจะต่ำเกินไป เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใช้โทรศัพท์หลังล้อ หากคุณคิดว่า ที่พูด และ texting ขณะขับรถไม่ใหญ่ พิจารณานี้: นักวิจัยหนึ่งเปรียบเทียบเวลาปฏิกิริยาของโปรแกรมควบคุม 20 ปีพูดคุยในโทรศัพท์ที่ควบคุมอายุ 70 ปี มากขึ้นอะไร ทำงานโทรศัพท์หลังล้อสามารถเลื่อนเวลาปฏิกิริยาถึง 20 เปอร์เซ็นต์ไม่เพียงแค่มือถือที่ทำให้เกิดการรบกวน อย่างไรก็ตาม รับประทานอาหาร ใช้แต่งหน้า fiddling กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโต้ตอบกับผู้โดยสารยัง diverts สนใจของวิธีอาจถึงตาย บางทีคำแนะนำที่ดีที่สุดบนรบกวนขับรถมาจากแร่จิมมอร์ริสัน: "เก็บตาบนถนน มือตามล้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายรัฐในสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายที่ห้ามการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เหตุผลก็คือจำนวนผู้เสียชีวิตมาประกอบกับกิจกรรมที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายนี้: 2,600 ผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเป็นประจำทุกปีโดยประมาณการบาง [ที่มา: สดวิทยาศาสตร์] ในความเป็นจริงตัวเลขเหล่านั้นจริงอาจจะต่ำเกินไปเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการใช้โทรศัพท์มือถืออยู่หลังพวงมาลัย ถ้าคุณคิดว่าการพูดคุยและส่งข้อความขณะขับรถไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่พิจารณานี้นักวิจัยคนหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาการเกิดปฏิกิริยาของคนขับ 20 ปีคุยโทรศัพท์มือถือกับที่ของคนขับ 70 ปี มีอะไรมากกว่าที่ทำงานโทรศัพท์มือถือที่ล้อหลังสามารถชะลอปฏิกิริยาครั้งโดยเท่าร้อยละ 20. มันไม่ได้เป็นเพียงโทรศัพท์มือถือที่ก่อให้เกิดการรบกวนอย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่ใช้แต่งหน้า, เล่นซอกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้โดยสารยังหันเหความสนใจขับรถในรูปแบบที่ร้ายแรงอาจเกิดขึ้น บางทีอาจจะเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดในการรบกวนการขับรถมาจากแร่ Jim Morrison "ทำให้ตาของคุณบนถนนที่มือของคุณอยู่บนล้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายรัฐในสหรัฐฯได้ผ่านกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เหตุผลคือ หมายเลขของการตายที่เกิดจากกิจกรรมที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายนี้ : ตาย 2600 ทั่วประเทศทุกๆ ปี โดยมีประมาณการ [ ที่มา : อาศัยวิทยาศาสตร์ ] ในความเป็นจริง ตัวเลขจริงอาจจะน้อยเกินไป เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในการใช้โทรศัพท์มือถือหลังล้อถ้าคุณคิดว่า พูดคุยและ texting ขณะขับรถไม่ใช่เรื่องใหญ่ พิจารณานี้ : เมื่อเปรียบเทียบเวลาปฏิกิริยา ของอายุ 20 ปี คนขับคุยโทรศัพท์ที่คนขับอายุ 70 ปี มากขึ้นอะไร , ทำโทรศัพท์ที่พวงมาลัยสามารถประวิงเวลาในการเกิดปฏิกิริยาได้มาก ถึงร้อยละ 20

ไม่ใช่แค่มือถือที่ก่อให้เกิดการรบกวน , อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหาร , แต่งหน้าคิดค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือการโต้ตอบกับผู้โดยสารยังเบี่ยงเบนความสนใจของคนขับอาจตายด้วยวิธี บางทีที่ดีที่สุดคำแนะนำเกี่ยวกับสมาธิขับรถมาจากแร่จิม มอร์ริสัน " ให้ดวงตาของคุณอยู่บนท้องถนนของคุณมือของคุณบนล้อ