The systematic destruction of the b

The systematic destruction of the buffalo herds dealt the most devastating blow to the Indians. In the societies of the Plains tribes, the meat of the bison supplied food, while the hides provided shelter and clothes. Removal of these resources was calamitous, but the cultural impact was even more ruinous. Buffalo represented the continuity of nature and the renewal of life cycles. Destruction of the buffalo ended the Indians' capacity to resist white incursions. As one Crow warrior observed after the herds had gone, "Nothing happened after that. We just lived. There were no more war parties, no capturing horses from the Piegan and the Sioux, no buffalo to hunt. There is nothing more to tell."

The decline of the buffalo herds began during the 1860s when drought, disease, and erosion shrank the animals' habitat. Then an expanding eastern market for buffalo robes and such products as pemmican (dried buffalo meat, berries, and fat) spurred the intensive hunting of buffalo. As railroads penetrated the West, hunters could transport their products to customers with relative ease. The result was virtual extermination of the buffalo. More than 5 million buffalo were slaughtered during the early 1870s. Along the Arkansas River, a British traveler reported, "there was a continual line of putrescent carcasses, so that the air was rendered pestilential and offensive to the last degree." By the end of the nineteenth century, only a few buffalo remained alive.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำลายระบบของฝูงควายจัดการระเบิดที่ร้ายแรงที่สุดที่อินเดีย ในสังคมของชนเผ่าที่ราบเนื้อของวัวกระทิงที่ให้อาหารในขณะที่หนังให้ที่พักพิงและเสื้อผ้า การกำจัดแหล่งข้อมูลเหล่านี้เป็นความหายนะ แต่ผลกระทบทางวัฒนธรรมก็ยิ่งโชคร้ายมากขึ้น บัฟฟาโลเป็นตัวแทนของความต่อเนื่องของธรรมชาติและการต่ออายุของวงจรชีวิต การล่มสลายของควายสิ้นสุดวันที่กำลังการผลิตของอินเดียที่จะต่อต้านการรุกรานสีขาว เป็นหนึ่งในนักรบอีกาฝูงสังเกตหลังจากที่ได้หายไป "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น. เราเพียงแค่อาศัยอยู่. มีบุคคลที่ไม่มีสงครามอีกไม่จับม้าจาก PIEGAN และซูควายล่าไม่ได้. มีอะไรที่จะบอกคือ " การลดลงของฝูงควายเริ่มในช่วงยุค 1860 เมื่อภัยแล้งโรคและการกัดเซาะหดตัวที่อยู่อาศัยของสัตว์ แล้วตลาดภาคตะวันออกขยายตัวสำหรับเสื้อคลุมควายและผลิตภัณฑ์เช่น pemmican (เนื้อควายแห้งเบอร์รี่และไขมัน) กระตุ้นการล่าสัตว์อย่างควาย เป็นทางรถไฟทะลุตะวันตกนักล่าสามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ของตนให้กับลูกค้าได้อย่างง่ายดายญาติ ผลที่ได้ขุดรากถอนโคนเสมือนควาย มากกว่า 5 ล้านควายถูกฆ่าในช่วงต้นยุค 1870 ไปตามแม่น้ำอาร์คันซอเดินทางของอังกฤษรายงาน "มีเส้นอย่างต่อเนื่องของซากเน่าเพื่อให้อากาศได้กลายเป็นน่ารำคาญและน่ารังเกียจในระดับสุดท้าย". ในตอนท้ายของศตวรรษที่สิบเก้าเพียงไม่กี่ควายยังคงมีชีวิตอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทำลายระบบของควายฝูงกระเป่าแรงที่สุด เพื่อความ ในสังคมของที่ราบเผ่า , เนื้อของกระทิงจัดอาหาร ในขณะที่ซ่อนให้ที่พักพิง และเสื้อผ้า การกำจัดของทรัพยากรเหล่านี้คือหายนะ แต่ผลกระทบทางวัฒนธรรมจะย่อยยับมากกว่านี้ ควายที่แสดงความต่อเนื่องของธรรมชาติและการต่ออายุของวงจรชีวิตการทำลายของควายจบอินเดีย ' ความจุเพื่อต่อต้านการรุกรานสีขาว เป็นหนึ่งในนักรบอีกาสังเกตหลังจากฝูงไปแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราแค่เคยอยู่ ไม่มีสงครามอีกฝ่าย ไม่จับม้าจาก piegan และซู ไม่ควาย ต้องล่า ไม่มีอะไรจะบอก . . . "

การลดลงของควายฝูงเริ่มขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1840 เมื่อฝนแล้งโรค และการลดลงของสัตว์ที่อยู่อาศัย แล้วขยายตลาดตะวันออกกระบือผ้าไตรและผลิตภัณฑ์เช่นเพมมิแคน ( แห้งเนื้อควาย , เบอร์รี่ , และไขมัน ) ออกล่าเข้มข้นของควาย เป็นทางรถไฟทะลุตะวันตก นักล่าสามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ของตนให้กับลูกค้าได้อย่างง่ายดายญาติ ผลที่ได้คือการทำลายล้างเสมือนของควายมากกว่า 5 ล้าน ควายถูกฆ่าในระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1850 แต่เช้า ไปตามแม่น้ำอาร์คันซอนักท่องเที่ยว , อังกฤษ รายงานว่า " มีเส้นอย่างต่อเนื่องของซากสัตว์ที่เน่าเปื่อย เพื่อให้อากาศถูกแสดงที่นำโรคติดต่อและก้าวร้าวต่อระดับสุดท้าย . " ในตอนท้ายของศตวรรษที่สิบเก้า , เพียงไม่กี่ควายยังคงมีชีวิตอยู่