Phimai Historical Park is an ancien

Phimai Historical Park is an ancient Khmer city of the Khmer Empire in Thailand situated in Phimai District of Nakhon Ratchasima Province and is about 60 kilometers north from Phimai, the Capital. The ancient Khmer city [ and earlier in 7 - 8 C part of Chenla Kingdom ] is surrounded by a moat adjacent to the Mun River on the east and north boundaries. Phimai is the largest Khmer ruins complex in Thailand and comprises an inner moated city, 565 by 1030 metres, which was built in the 11 – 12 C with further additions in the 13 C.
The Temple City was surrounded by a laterite wall 3,350 feet by 1,900 feet with the Temple enclosed by two walls, the outer measuring 900 feet by 720 feet and the innermost wall 272 by 243 feet. The complex includes the usual structures, naga terraces, gopuras, pavilions, a library. The key feature is the inner court yard which houses three towers. The central and principal tower was built in 11 – 12 C and is made of sandstone. The outer walls are decorated with lintels and bas-reliefs depicting scenes from the Ramayana, illustrating battles between Ravana and Rama. The southern side has bas-reliefs of Shiva and its interior has bas-reliefs of Buddha, Bodhisattvas and Mara. The Temple is Budhist, not Hindu and was part of the Mahayana school which was prevalent in the Mun Valley from the 7 C onwards.
Phimai has large and small ponds to represent the oceans. The central sanctuary is enclosed by narrow corridor galleries. Cruciform entrances [ or Gopuras ] are installed at cardinal points. Carvings of Hindu Gods ornament the pediments and lintels of these entrances. Within the sacred area the central tower [ or prang ] culminates in a lotus bulb shaped finial and represents Mount Meru. This is built of sandstone. The Prang is many tiered and rests on a base, which is a tall re-dented cube like structure which itself is set on other re-dented and ascending sandstone platforms. Below the tiers of the tower and set in the cube re-dented base was placed the linga, or phallic emblem of the God Shiva and later a Buddha image.
The other two towers were built in 13 C. One was made of laterite and the other, of red sandstone. The former houses a large sculpture of King Jayavarman [ of Angkor ] who reigned during its construction. Phimai has similar features to those at Phnom Rung , it has access via a long causeway with terraces, the stone balustrades of which are shaped as serpents or Nagas. These Nagas have multiple flaring heads which are crowned, and act as guardians of the earths' waters and are said to represent the rainbow, the link between the world of men and the Gods. Accordingly when one approaches these sanctuaries [ or Temples ] via these Naga causeways one is reminded that as a devotee he or she is leaving the earthly plan, physically and spiritually, for higher levels of enlightenment.
Just north of Phimai Historical Park, and not to be missed, is the Phimai National Museum which houses Khmer artifacts and works of art from excavations, not only from Phimai, but other Khmer ruins in southern I 'san. This complex is the most outstanding example of Khmer Architecture in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุทยานประวัติศาสตร์พิมายเป็นเมืองเขมรโบร​​าณของอาณาจักรเขมรในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในอำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมาและเป็นเรื่องเกี่ยวกับทางเหนือ 60 กิโลเมตรจากพิมาย, ทุน เมืองโบราณเขมร [และก่อนหน้านี้ใน 7-8 ส่วนหนึ่งของค Chenla ราชอาณาจักร] ล้อมรอบด้วยคูน้ำที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูลทางทิศตะวันออกและทิศเหนือขอบเขตพิมายที่ใหญ่ที่สุดคือซากปรักหักพังเขมรซับซ้อนในประเทศไทยและประกอบด้วยเมืองคูล้อมรอบภายใน 565 โดย 1,030 เมตรซึ่งถูกสร้างขึ้นใน 11 - 12 C เพิ่มเติมด้วยต่อไปในวันที่ 13 ค
วัดเมืองถูกล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง 3,350 ฟุต. โดย 1,900 ฟุตกับวัดล้อมรอบด้วยสองผนังด้านนอกวัด 900 ฟุต 720 ฟุตและลึกที่สุดผนัง 272 โดย 243 ฟุตที่ซับซ้อนรวมถึงโครงสร้างปกติระเบียงนาค gopuras, ศาลา, ห้องสมุด คุณลักษณะที่สำคัญคือลานด้านในซึ่งเป็นที่ตั้งหอคอยสาม หอคอยกลางและหลักถูกสร้างขึ้นใน 11 - 12 C และทำจากหินทราย ผนังด้านนอกตกแต่งด้วยชายคาและรูปปั้นภาพวาดจากรามายณะไทม์ระหว่างการสู้รบทศกัณฐ์และพระรามด้านใต้มีสีสรร-ปั้นของพระอิศวรและการตกแต่งภายในมีสีสรร-ปั้นของพระพุทธเจ้า, พระโพธิสัตว์และมาร วัดเป็น Budhist ไม่ฮินดูและเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนมหายานซึ่งเป็นที่แพร่หลายในหุบเขามูลจาก 7 เป็นต้นไป c.
พิมายมีบ่อขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่จะเป็นตัวแทนของมหาสมุทร วิหารกลางล้อมรอบด้วยแกลเลอรี่ทางเดินแคบทางเข้ากางเขน [หรือ gopuras] มีการติดตั้งที่จุดสำคัญ แกะสลักของชาวฮินดูพระเจ้า pediments เครื่องประดับและกีดขวางทางเข้าเหล่านี้ ภายในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์หอคอยกลาง [หรือพระปรางค์] culminates ใน finial ดอกบัวรูปหลอดไฟและเป็นเขาพระสุเมรุ นี้ถูกสร้างขึ้นจากหินทราย พระปรางค์เป็นหลายชั้นและวางอยู่บนฐาน,ซึ่งเป็นก้อนใหม่เว้าแหว่งสูงเช่นโครงสร้างที่ตัวเองตั้งอยู่บนอื่น ๆ อีกเว้าแหว่งและ ascending แพลตฟอร์มหินทราย ชั้นล่างของหอคอยและตั้งอยู่ในก้อนใหม่เว้าแหว่งฐานถูกนำมาวางองคชาติหรือลึงค์สัญลักษณ์ของพระเจ้าพระอิศวรและต่อมาพระพุทธรูป.
อีกสองอาคารถูกสร้างขึ้นใน 13 C หนึ่งที่ทำจากศิลาแลงและอื่น ๆ ของหินทรายสีแดงบ้านอดีตประติมากรรมขนาดใหญ่ของพระเจ้าชัยวรมัน [ของนคร] ผู้ปกครองในระหว่างการก่อสร้าง พิมายมีคุณสมบัติที่คล้ายกับผู้ที่ Phnom Rung มันมีการเข้าถึงผ่านทางยาวทางหลวงที่มีระเบียงลูกกรงหินที่มีรูปร่างเหมือนงูหรือพญานาค พญานาคเหล่านี้มีหัวหลายบานซึ่งเป็นมงกุฎ,และทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของธาตุน้ำและบอกว่าจะเป็นตัวแทนของรุ้ง, การเชื่อมโยงระหว่างโลกของชายและเหล่าทวยเทพ ตามเมื่อคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เขตรักษาพันธุ์เหล่านี้ [หรือวัด] ผ่านทางเหล่านี้นาค causeways หนึ่งคือการเตือนว่าเป็นผู้ศรัทธาเขาหรือเธอจะออกจากแผนของโลกทางร่างกายและจิตวิญญาณในระดับที่สูงขึ้นของการตรัสรู้.
ตอนเหนือของอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย,และที่ไม่ควรพลาดคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมายซึ่งเป็นที่ตั้งโบราณวัตถุเขมรและงานศิลปะจากการขุดเจาะ, ไม่เพียง แต่จากพิมาย แต่ซากปรักหักพังเขมรอื่น ๆ ในภาคใต้ของ i 'san ความซับซ้อนเช่นนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของสถ​​าปัตยกรรมเขมรในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุทยานประวัติศาสตร์พิมายเป็นเมืองเขมรโบราณของอาณาจักรเขมรในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในพิมายอำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัด และประมาณ 60 กิโลเมตรเหนือจากพิมาย เมืองหลวง เมืองเขมรโบราณ [และก่อนหน้านี้ใน C 7-8 เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรเกสต์] ล้อมรอบ ด้วยคูเมืองที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูลบนขอบเขตเหนือ และตะวันออก พิมายเป็นเขมรโบราณที่ใหญ่ที่สุดซับซ้อนในประเทศไทย และประกอบด้วยเมือง moated การภายใน 565 โดย 1030 เมตร ใน C 11 – 12 มีเพิ่มเติมใน 13 C.
เดอะซิตี้วัดถูกล้อมรอบ ด้วยกำแพงศิลาแลง 3,350 เท้า โดยเท้า 1900 กับวัดล้อมรอบ ด้วยกำแพงสอง นอกเท้า 900 วัด โดย 720 เท้าและเท้า 272 โดย 243 ผนังก้น คอมเพล็กซ์มีโครงสร้างปกติ ระเบียงนาค gopuras ศาลา รี คุณลักษณะสำคัญคือ ลานภายในศาลซึ่งสามอาคาร ทาวเวอร์เซ็นทรัล และหลักถูกสร้างใน C 11 – 12 และทำจากหินทราย ผนังภายนอกตกแต่ง ด้วยทับหลังบรรจงและ bas-reliefs แสดงให้เห็นถึงฉากจากรามายณะ การแสดงการต่อสู้ระหว่างพระรามและทศกัณฐ์ ด้านใต้มี bas-reliefs ของพระอิศวร และการตกแต่งภายในมี bas-reliefs พระ โพธิสัตว์ และโรงแรมมารา วัด Budhist ฮินดูไม่เป็น และเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนมหายานซึ่งมีในหุบเขามูลจาก C 7 เป็นต้นไป .
พิมายมีบ่อขนาดใหญ่ และขนาดเล็กเพื่อแทนมหาสมุทร พันธุ์กลางถูกล้อมรอบ ด้วยระเบียงแคบเก็บ ทางเข้า cruciform [หรือ Gopuras] มีการติดตั้งที่จุดสำคัญ แกะสลักของเทพเจ้าฮินดู ornament pediments และทับหลังบรรจงของทางเข้าเหล่านี้ ภายในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เซ็นทรัลทาวเวอร์ [หรือปรางค์] ผสมใน finial เป็นหลอดรูปทรงบัว และแสดงถึงเขาพระสุเมรุ สร้างของหินทราย ปรางมีหลายชั้น และอยู่บนฐาน ซึ่งเป็น cube ใหม่ dented สูงเช่นโครงสร้างเองซึ่งตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีก dented และน้อยหินทราย ต่ำกว่าระดับของทาวเวอร์และชุดใน cube ฐานใหม่ dented ถูกวางได้ linga หรือ phallic สัญลักษณ์ ของพระ อิศวรเจ้า และภายหลังภาพพระ
สองอาคารอื่น ๆ ถูกสร้างขึ้นในราว 13 หนึ่งที่ทำจากศิลาแลงและอื่น ๆ ของหินทรายสีแดง เดิมบ้านประติมากรรมขนาดใหญ่ของวรมันกษัตริย์ [ของอังกอร์] ที่ reigned ในระหว่างการก่อสร้าง พิมายมีลักษณะคล้ายกับที่พนมรุ้ง มีการเข้าถึงผ่านคอสเวย์ยาวกับระเบียง รั้วหินที่มีรูปร่างเป็นงูหรือนาค นาคนี้มีหลายหัว flaring ซึ่งมีมงกุฎ ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของน่านน้ำของอักษรของโลก และกล่าวถึงรุ้ง เชื่อมโยงระหว่างโลกของมนุษย์และพระเจ้า ดังนั้น เมื่อหนึ่งยื่นนี้ซีก [หรือวัด] ผ่าน causeways นาคเหล่านี้หนึ่งจะนึกถึงว่า เป็นสาวก เขาหรือเธอออกแผนเอิร์ทลี่ พบ และร่างกายในระดับที่สูงขึ้นของธรรม
เพียงแค่จากอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และไม่ควรพลาด เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมายที่บ้านเขมรโบราณวัตถุและงานศิลปะจากทิศ ไม่เพียงแต่จากพิมาย แต่ซากปรักหักเขมรอื่น ๆ พังภาคใต้ฉัน ' ซาน ที่ซับซ้อนเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุทยานประวัติศาสตร์พิมายเป็นเมืองเขมรเก่าแก่ของชาวเขมรที่อยู่ในประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของพิมายจังหวัดนครราชสีมาและเป็นประมาณ 60 กิโลเมตรอยู่ห่างจากด้านทิศเหนือพิมายเมืองหลวง เขมรโบราณเมือง[และก่อนหน้าใน 7 - 8 ส่วนคของ chenla ราชอาณาจักร]ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทพนิยายคูน้ำรอบปราสาทที่อยู่ใกล้กับมูลแม่น้ำที่มีอุปสรรคทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกพิมายมีเขมรซากปรักหักพังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและประกอบด้วยที่ด้านใน moated เมือง, 565 โดย 1030 ตารางเมตรซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นในที่ 11 - 12 C พร้อมด้วยการเพิ่มขึ้นใน 13 c .
ที่วัดเมืองนั้นถูกโอบล้อมไปด้วยผนังที่ลูกรัง 3,350 ฟุตโดย 1,900 ฟุตพร้อมด้วยที่วัดโอบล้อมไปด้วยผนังสอง,ที่ด้านนอกวัด 900 ตารางฟุตโดย 720 ฟุตและที่ใดบนผนัง 272 โดย 243 ฟุต.คอมเพล็กซ์ที่ประกอบด้วยโครงสร้างตามปกติที่ระเบียงนาค gopuras พลับพลาที่ไลบรารี คุณสมบัติที่สำคัญคือพื้นที่ลานกว้างด้านในที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอยสาม อาคารทรงสูงในบริเวณศูนย์กลางเมืองและที่สำคัญได้ถูกสร้างขึ้นในช่วง 11 - 12 C และทำมาจากหินทราย ผนังด้านนอกได้รับการตกแต่งด้วย ภาพ lintels และรูปปั้นนูนต่ำก่อนจะเหวี่ยงบรรยายจากรามเกียรติ์ที่แสดงการต่อสู้ระหว่างทศกัณฐ์พระรามทางด้าน ภาค ใต้ที่มีรูปปั้นนูนต่ำ - ก่อนจะเหวี่ยงของศิวะและ ภายใน ห้องโดยสารที่มีรูปปั้นนูนต่ำก่อนจะเหวี่ยงของพระพุทธรูป bodhisattvas มารและ เป็นวัดที่มี budhist ฮินดูและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนซึ่งเป็นลัทธิมหายานที่แพร่หลายในมูลหุบเขาจาก 7 C เป็นต้นไป. N พิมายมีสระน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กในการเป็นตัวแทนมหาสมุทร Sanctuary ศูนย์กลางที่ถูกโอบล้อมไปด้วยห้องแสดงผลงานทางศิลปะเฉลียงทางเดินแคบๆcruciform ทางเข้า[ gopuras หรือ]จะติดตั้งอยู่ที่จุดสำคัญ งานแกะสลักของพระวัดฮินดูและเครื่องประดับ lintels pediments ของทางเข้าเหล่านี้ ภายใน พื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เซ็นทรัล Tower [หรือพระปรางค์]ที่ท่านสิ้นสุดลงในหลอดไฟ Lotus ซึ่งมีลักษณะ finial และแสดงถึงสุเมรุ โรงแรมแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นจากหินทราย พระปรางค์เป็นจำนวนมากหลายชั้นและตั้งอยู่บนฐานที่อีกครั้งซึ่งเป็นลูกบาศก์ - แหว่งสูงเช่นโครงสร้างซึ่งตั้งอยู่บนแพลตฟอร์มใหม่อีกครั้งจากน้อยไปหามากขึ้นจากหินทรายแหว่งและอื่นๆ ด้านล่างของชั้นของอาคารและตั้งอยู่ในที่ลูกบาศก์อีกครั้งแหว่งฐานถูกวางไว้ที่ณ,ศิวลึงค์หรือเครื่องหมายของพระเจ้าศิวะและใน ภายหลัง พระพุทธรูป.
ที่อื่นๆสองหอคอยได้ถูกสร้างขึ้นใน 13 c .คนหนึ่งทำให้ของลูกรังและที่อื่นๆของหินทรายสีแดง.อดีตที่ตั้งของประติมากรรมขนาดใหญ่ของกษัตริย์พระเจ้าชัยวรมัน[ของนคร]ผู้ที่ครอบครองอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง พิมายมีคุณสมบัติเหมือนกับที่พนมรุ้งมีการเชื่อมต่อผ่านไปยัง Causeway ยาวพร้อมด้วยระเบียงลูกกรงหินที่มีรูปทรงเป็นนาคหรืองู นาคเหล่านี้มีหัวลุกโชติช่วงขึ้นตัดหลายคนซึ่งเป็นมงกุฎและทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของผืนน้ำของออกไซด์ของโลหะจำพวกและกล่าวกันว่าจะเป็นสีรุ้งที่เชื่อมโยงระหว่างโลกของคนและพระ เมื่อหนึ่งจึงเรียนมาเพื่อหาแนวทางหรือวัดสถาน[]นี้ผ่านทางนาคาเหล่านี้เป็นหนึ่งอยู่เหนือเส้นทางหลวงเพื่อจะขอย้ำเตือนว่าเป็นผู้นับถือศรัทธาที่เขาหรือเธอจะออกจากแผนที่โลกมนุษย์ทาง กายภาพ และในทางศาสนาสำหรับระดับที่สูงขึ้นของ.
อยู่ทางด้านทิศเหนือของอุทยานประวัติศาสตร์พิมายและจะต้องไม่พลาดมีพิมาย พิพิธภัณฑ์ แห่งชาติซึ่งเป็นงานศิลปะเขมรและผลงานศิลปะจากการขุดค้นไม่ได้เท่านั้นจากพิมายแต่ซากปรักหักพังเขมรอื่นๆใน ภาค ใต้ผม' San คอมเพล็กซ์แห่งนี้คือตัวอย่างที่โดดเด่นมากที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรในประเทศไทย