Gigantic fossilized oyster shells a

Gigantic fossilized oyster shells aged more than 8 million years were found here. The temple was just built in 1995 by Phra Khru Sunthon Khun Thada or Luang Pho Thongklueng Suntharo. Its history is very interesting because it was caused by Luang Pho’s pilgrimage to Myanmar. After knowing Phra Ajan Silabanta for one month, Luang Pho Thongklueng undertook a thorough study of magic and returned to Ong Chuk Den in Si Sawat district of Kanchanaburi province, where he saw an omen that 8 million years ago it was a big city called Rattanawadi governed by him. He therefore travelled to follow his vision and intended to build this land to become a temple. While he was digging a well to store water, he saw enormous giant oyster shells that were buried deep underground and were thousands years old. Finally, the discovered oyster shells were used to build a pagoda called “Wat Chedi Hoi” until now.Phra Khru Sunthon Khun Thada (Luang Pho Thongklueng Suntharo) used the fossilized oyster shells to build one pagoda at the entrance and a large one in the temple. People flow in to see giant oyster shells and people of faith donated their money to build the temple.Moreover, there is a museum that collects Buddha images, unique objects and ancient utensils, eg, Sam Khok jars, potteries, engraved wood panels, calculators, a giant clam shell that is the biggest in the world brought by Luang Pho Thongklueng from Ranong province. It is very large and wide more than one meter. In addition, there are “Wishing Gongs,” that could resound without being hit by a stick or baton but simply by being touched and rubbed by hand.Within the compound, another highlight is an herb garden, a turtle raising well and a fish pond so that the visitors can feed them and relax. At present, several people of faith come to visit them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลือกหอยนางรมยักษ์โบราณอายุมากกว่า 8 ล้านปีพบที่นี่ เพียงวัดถูกสร้างขึ้นในปี 1995 โดยพระครูสุนทรคุณษรบูติกหรือหลวงพ่อ Thongklueng Suntharo ประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก เพราะมันเกิดขึ้น โดยหลวงพ่อแสวงบุญพม่า หลังจากทราบว่าพระพุทโธรักษา Silabanta หนึ่งเดือน Thongklueng โพธิ์หลวง undertook การศึกษาเวทมนตร์อย่างละเอียด และส่งกลับไปอ๋องสามชุก Den ในจังหวัดเขตกาญจนบุรีศรีสวัสดิ์ ที่เขาเห็นลางที่ 8 ปีที่ผ่านมามันเป็นเมืองใหญ่เรียกว่า Rattanawadi ตามเขา เขาจึงเดินทางไปตามวิสัยทัศน์ของเขา และมุ่งหวังเพื่อสร้างแผ่นดินนี้กลายเป็น วัด ในขณะที่เขาถูกขุดบ่อเก็บน้ำ เขาเห็นเปลือกหอยนางรมยักษ์ขนาดมหึมาที่ฝังลึกใต้ดิน และหลายพันปี ในที่สุด เปลือกหอยนางรมที่พบถูกใช้ในการสร้างเจดีย์ที่เรียกว่า "วัดเจดีย์หอย" จนถึงขณะนี้ พระครูสุนทรคุณษรบูติก (หลวงโพธิ์ Thongklueng Suntharo) ใช้เปลือกหอยนางรมแล้้วสร้างเจดีย์หนึ่งที่ทางเข้าและหนึ่งใหญ่ในวัด คนไหลในดูเปลือกหอยนางรมยักษ์ และคนศรัทธาบริจาคเงินเพื่อสร้างวัด นอกจากนี้ มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูป เฉพาะวัตถุ และเครื่องใช้โบราณ เช่น สามโคก ไห เครื่องคำนวณ แผงไม้แกะสลัก เครื่องปั้นดินเผา เปลือกหอยมือเสือยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนำ โดยหลวงพ่อ Thongklueng จากจังหวัดระนอง มันเป็นขนาดใหญ่มาก และกว้างมากกว่าหนึ่งเมตร นอกจากนี้ มี "ประสงค์ฆ้อง ที่สามารถ resound โดยถูกตี ด้วยไม้หรือบาตัน แต่เพียงแค่การสัมผัส และลูบด้วยมือ ภายในสารประกอบ ยังมีสวนสมุนไพร เต่าเลี้ยงดีและบ่อปลาเพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถอาหารพวกเขา และผ่อนคลาย ปัจจุบัน หลายคนศรัทธามาเข้าเยี่ยมชม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนาดยักษ์เปลือกหอยนางรมฟอสซิลที่มีอายุมากกว่า 8 ล้านปีถูกพบได้ที่นี่ วัดถูกสร้างขึ้นในปี 1995 โดยพระครูสุนทรคุณธาดาหรือหลวงพ่อ Thongklueng Suntharo ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมากเพราะมันมีสาเหตุมาจากการแสวงบุญหลวงพ่อของพม่า หลังจากที่ทราบว่าพระอาจารย์ Silabanta สำหรับหนึ่งเดือนหลวงพ่อ Thongklueng มารับการศึกษาอย่างละเอียดของเวทมนตร์และกลับไปที่องค์สามชุก Den ในศรีอำเภอศรีสวัสดิ์จังหวัดกาญจนบุรีที่เขาเห็นลางบอกเหตุที่ 8 ล้านปีที่ผ่านมามันเป็นเมืองใหญ่ที่เรียกว่า Rattanawadi ปกครอง โดยเขา. ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปทำตามวิสัยทัศน์ของเขาและตั้งใจที่จะสร้างดินแดนแห่งนี้จะกลายเป็นวัด ขณะที่เขากำลังขุดน้ำดีที่จะเก็บเขาเห็นมหาศาลเปลือกหอยนางรมยักษ์ที่ถูกฝังอยู่ลึกลงไปใต้ดินและอายุพันปี สุดท้ายพบเปลือกหอยนางรมถูกนำมาใช้ในการสร้างเจดีย์ที่เรียกว่า "วัดเจดีย์ฮอยอัน" จนกระทั่ง now.Phra ครุสุนทรคุณธาดา (หลวงพ่อ Thongklueng Suntharo) ใช้เปลือกหอยนางรมฟอสซิลในการสร้างหนึ่งเจดีย์ที่ทางเข้าและขนาดใหญ่หนึ่งใน วัด. คนไหลเข้าเพื่อดูเปลือกหอยนางรมยักษ์และผู้คนของความศรัทธาบริจาคเงินของพวกเขาในการสร้าง temple.Moreover มีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปวัตถุที่ไม่ซ้ำกันและเครื่องใช้โบราณเช่นไหสามโคก, เครื่องปั้นดินเผาแกะสลักแผงไม้, เครื่องคิดเลข เปลือกหอยยักษ์ที่เป็นที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นำโดยหลวงพ่อ Thongklueng จากจังหวัดระนอง มันมีขนาดใหญ่มากและกว้างมากขึ้นกว่าหนึ่งเมตร นอกจากนี้ยังมี "ฆ้องวิชชิ่ง" ที่สามารถสะท้อนโดยไม่ต้องถูกตีด้วยไม้กระบองหรือ แต่เพียงด้วยการสัมผัสและลูบโดย hand.Within สารประกอบไฮไลท์อีกอย่างก็คือสวนสมุนไพร, เต่าเพิ่มดีและบ่อปลา เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถให้อาหารพวกเขาและผ่อนคลาย ในปัจจุบันหลายคนมีความเชื่อมาเยี่ยมชมพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟอสซิลเปลือกหอยนางรมยักษ์อายุกว่า 8 ล้านปีถูกพบที่นี่ วัดถูกสร้างขึ้นในปี 1995 โดย พระครูสุนทรคุณธาดา หรือ หลวงพ่อโต thongklueng suntharo . ประวัติความเป็นมาน่าสนใจมากๆ เพราะมันเกิดจากหลวงพ่อโตก็จาริกไปพม่า หลังจากทราบว่าพระ พระภิกษุสงฆ์ silabanta เป็นเวลาหนึ่งเดือน หลวงพ่อโต thongklueng undertook การศึกษาอย่างละเอียดของเวทมนตร์และกลับไปลองจุกเด่นในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ที่เขาเห็นลางว่า 8 ล้านปีก่อน มันเป็นเมืองใหญ่ เรียก rattanawadi ควบคุมโดยเขา เขาจึงเดินทางไปตามวิสัยทัศน์ของเขา และตั้งใจที่จะสร้างดินแดนนี้กลายเป็นวัด ในขณะที่เขากำลังขุดบ่อเก็บน้ำ เขาเห็นเปลือกหอยนางรมขนาดใหญ่ยักษ์ที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินลึกและเป็นพันๆปี ในที่สุด พบเปลือกหอยนางรมที่ถูกใช้เพื่อสร้างเจดีย์ เรียกว่า " วัดเจดีย์หอย " จนถึงตอนนี้ พระครูสุนทรคุณธาดา ( หลวงพ่อ thongklueng suntharo ) ใช้ฟอสซิลเปลือกหอยนางรม เพื่อสร้างเจดีย์ทางเข้า และขนาดใหญ่หนึ่งในวัด การไหลของคนมาหาหอยหอยนางรมยักษ์ และผู้ศรัทธาบริจาคเงินเพื่อสร้างวัด นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์รวบรวมพระพุทธรูปโบราณวัตถุที่เป็นเอกลักษณ์และภาชนะ เช่น ไห เครื่องปั้นดินเผาสามโคก , แกะสลักไม้ , แผง , เครื่องคิดเลข , เปลือกหอยยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำโดย หลวงพ่อโต thongklueng จากจังหวัดระนอง มันมีขนาดใหญ่มากและกว้างกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ยังมี " ฆ้องอธิษฐาน " ที่ดังก้องอยู่โดยไม่ต้องถูกตีด้วยไม้หรือไม้แต่ก็ถูกจับแล้วลูบด้วยมือ ภายในนี้ จุดเด่นอีกอย่างคือ สวนสมุนไพร เต่าเลี้ยงดี และบ่อเลี้ยงปลา เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารพวกเขาและผ่อนคลาย ปัจจุบัน หลาย ๆ คนศรัทธามาเยี่ยมพวกเขา