When one’s jīva has attained suffic

When one’s jīva has attained sufficient purity, it can be released from its karmic attachment to ajīva.

In other words, in final spiritual liberation, the individual’s soul (jīva) has been liberated from attachment to the world of forms and perceptions (ajīva).

As one nears the final stages of spiritual liberation, one loses one’s last bits of karma (a process called nirjara), and no longer produces any new karma (called “karma stopping” or saṃvara).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อ jīva หนึ่งได้บรรลุความบริสุทธิ์เพียงพอ มันสามารถจะออกจากของที่แนบมา ajīva karmic ในคำอื่น ๆ ในขั้นสุดท้ายปลดปล่อยจิตวิญญาณ จิตของแต่ละบุคคล (jīva) มีการพ้นโลกแนว (ajīva) และแบบฟอร์มที่แนบมา เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปลดปล่อยจิตวิญญาณใกล้หนึ่ง หนึ่งสูญเสียของสุดท้ายบิตของกรรม (กระบวนการเรียกว่า nirjara), และไม่สร้างกรรมใหม่ใด ๆ (เรียกว่า "กรรมหยุด" หรือ saṃvara)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อ Jiva หนึ่งของได้บรรลุความบริสุทธิ์เพียงพอที่จะสามารถปล่อยออกมาจากสิ่งที่แนบมากรรมที่จะajīva. ในคำอื่น ๆ ในการปลดปล่อยจิตวิญญาณสุดท้ายวิญญาณของแต่ละบุคคล (Jiva) ได้รับการปลดปล่อยจากสิ่งที่แนบมากับโลกของรูปแบบและการรับรู้ (ajīva) เป็นหนึ่งในตอนจบขั้นตอนสุดท้ายของการปลดปล่อยจิตวิญญาณหนึ่งสูญเสียบิตสุดท้ายของกรรม (กระบวนการที่เรียกว่า nirjara) และไม่ก่อกรรมใหม่ใด ๆ (เรียกว่า "กรรมหยุด" หรือsaṃvara)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อหนึ่งคือ J ī VA ได้บรรลุความบริสุทธิ์เพียงพอก็สามารถที่จะออกจากกรรมผูกพันกับเอเจīเอส

ในคำอื่น ๆในการปลดปล่อยวิญญาณสุดท้ายของแต่ละจิตวิญญาณ ( J ī VA ) ได้รับการปลดปล่อยจากความผูกพันกับโลกของรูปแบบและการรับรู้ ( AJ ī VA )

เป็นหนึ่งเกือบขั้นตอนสุดท้ายของการปลดปล่อยวิญญาณหนึ่ง แพ้หนึ่ง เมื่อเศษกรรม ( กระบวนการที่เรียกว่า nirjara )และไม่ก่อให้เกิดกรรมใหม่ ( เรียกว่า " กรรมการ " หรือในṃวารา )