Developing an action plan involves

Developing an action plan involves identifying specific target variables and determining the techniques that will be used to bring about change. Identifying specific target variables (e.g., resistance points, existing policies) allows the intervention strategists to better understand the relative complexity of the change program. Using the earlier example of changing production standards, the change manager may view the union, supervisors, and production workers as possible resisters to change. The union will have to a change in production standards; supervisors must understand the need to change those standards and why their active support is critical to the outcome; and employees need to know that the change will not affect their job security. The next step is to determine the appropriate intervention techniques for instituting change. In the current example, the following techniques may be considered

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนาแผนการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการระบุเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงตัวแปร และการกำหนดเทคนิคต่าง ๆ ที่จะใช้เพื่อนำการเปลี่ยนแปลง ระบุตัวแปรเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (เช่น ต้านทานจุด นโยบายที่มีอยู่) ให้ strategists แทรกแซงเพื่อเปลี่ยนโปรแกรมซับซ้อนญาติเข้าใจ ตัวอย่างก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการผลิต ผู้จัดการการเปลี่ยนแปลงอาจดูแรงงานสหภาพ ผู้บังคับบัญชา และการผลิตเป็น resisters สามารถเปลี่ยน สหภาพจะมีการเปลี่ยนแปลงในมาตรฐานการผลิต ผู้บังคับบัญชาต้องเข้าใจความต้องการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานนั้นและเหตุสนับสนุนการใช้งานมีความสำคัญต่อผลลัพธ์ และพนักงานต้องรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยงาน ขั้นตอนถัดไปคือการ กำหนดเทคนิคการแทรกแซงที่เหมาะสมสำหรับการจัดระบบการแสวงเปลี่ยน ตัวอย่างปัจจุบัน เทคนิคต่อไปนี้อาจพิจารณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การพัฒนาแผนการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการระบุตัวแปรเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและการกำหนดเทคนิคที่จะใช้ในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ระบุตัวแปรเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (เช่นจุดต้านทานนโยบายที่มีอยู่) ช่วยให้ยุทธศาสตร์การแทรกแซงเพื่อให้เข้าใจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ของโปรแกรมการเปลี่ยนแปลง ใช้ตัวอย่างก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการผลิต, ผู้จัดการฝ่ายการเปลี่ยนแปลงอาจดูสหภาพแรงงานผู้บังคับบัญชาและแรงงานการผลิตเป็นไปได้ที่จะต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ยูเนี่ยนจะมีการเปลี่ยนแปลงในมาตรฐานการผลิต; ผู้บังคับบัญชาจะต้องเข้าใจถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานเหล่านั้นและเหตุผลสนับสนุนการใช้งานของพวกเขามีความสำคัญต่อผล; และพนักงานจำเป็นต้องรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยงานของพวกเขา ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดเทคนิคการแทรกแซงที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งการเปลี่ยนแปลง ในตัวอย่างปัจจุบันเทคนิคต่อไปนี้อาจได้รับการพิจารณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนาแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับการระบุตัวแปรเป้าหมายเฉพาะและกำหนดเทคนิคที่จะใช้เพื่อนำมาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง การระบุตัวแปรเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ( เช่นความต้านทานคะแนน นโยบายที่มีอยู่ ) ช่วยให้การแทรกแซงยุทธศาสตร์เข้าใจสัมพันธ์กับความซับซ้อนของโปรแกรมเปลี่ยน ใช้ก่อนหน้านี้ ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการผลิตผู้จัดการการเปลี่ยนแปลงอาจดูสหภาพคนงาน หัวหน้างาน และการผลิตเป็น resisters เป็นไปได้ที่จะเปลี่ยน สหภาพจะต้องเปลี่ยนมาตรฐานการผลิต หัวหน้างานต้องเข้าใจต้องเปลี่ยนมาตรฐานเหล่านั้น และเหตุผลที่สนับสนุนการใช้งานของพวกเขา มี ผล และพนักงานจะต้องทราบว่า การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของพวกเขาขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบเทคนิคการแทรกแซงที่เหมาะสมสำหรับจัดตั้ง เปลี่ยนแปลง ในตัวอย่างปัจจุบัน เทคนิคต่อไปนี้อาจจะพิจารณา