Hindenburg was born in Posen, Pruss

Hindenburg was born in Posen, Prussia (Polish: Poznań; until 1793 and since 1919 part of Poland[3]), the son of Prussian aristocrat Robert von Beneckendorff und von Hindenburg (1816–1902) and wife Luise Schwickart (1825–1893), the daughter of medical doctor Karl Ludwig Schwickart and wife Julie Moennich. Hindenburg was embarrassed by his mother's non-aristocratic background, and hardly mentioned her at all in his memoirs. His paternal lineage was considered highly distinguished and one of the most respected ancient noble families in Prussia, and ultimately Germany as a whole. His paternal grandparents were Otto Ludwig von Beneckendorff und von Hindenburg (1778–18 July 1855), through whom he was remotely descended from the illegitimate daughter of Count Heinrich VI of Waldeck, and his wife Eleonore von Brederfady und Brederlow (died 1863). Hindenburg was also a descendant of Martin Luther and his wife Katharina von Bora, through their daughter Margareta Luther. Hindenburg's younger brothers and sister were Otto, born 24 August 1849, Ida, born 19 December 1851 and Bernhard, born 17 January 1859.
After his education at Wahlstatt (now Legnickie Pole) and Berlin cadet schools, he was commissioned a lieutenant in 1866. He fought in the Austro-Prussian War (1866) and the Franco-Prussian War (1870–1871). Hindenburg was selected for prestigious duties: serving the widow of King Frederick William IV of Prussia, being present – as one of a group of young officers decorated for bravery in battle, who had been chosen to represent their regiments – in the Palace of Versailles when the German Empire was proclaimed on 18 January 1871, and as Honour Guard prior to the Military funeral of Emperor William I in 1888. He was promoted to captain in 1878, major in 1881, lieutenant-colonel in 1891, colonel in 1893, major-general (brigadier general) in 1897 and lieutenant general (major-general) in 1900. Hindenburg remained in the army, eventually commanding a corps and being promoted to General of the Infantry (equivalent to a British or US lieutenant-general; the German equivalent to four-star rank was Colonel-General) in 1903. Meanwhile, he married Gertrud von Sperling (1860–1921), also an aristocrat, by whom he had two daughters, Irmengard Pauline (1880) and Annemaria (1891) and one son, Oskar

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิด Hindenburg ในคโพเซน ปรัสเซีย (โปแลนด์: Poznań; 1793 และ ตั้งแต่ภาค Poland[3]) บุตรของอริสโตแครท Prussian แดนโรเบิร์ตฟอน Beneckendorff 1919 Hindenburg ฟอน (1816-1902) และภรรยา Luise Schwickart (1825-1893), ลูกสาวของแพทย์แพทย์คาร์ลลุดวิกแห่ง Schwickart และภรรยา Moennich จูลี่ Hindenburg ได้อับอาย โดยแม่ของเขาไม่ใช่รูปพื้นหลัง และแทบไม่กล่าวถึงเธอเลยในจดหมายเหตุของเขา ลินเนจที่ปู่ของเขาถูกถือว่าแตกต่างอย่างมาก และหนึ่งในสุดยอมรับครอบครัวโบราณโนเบิลในปรัสเซีย และเยอรมนีทั้งหมด ปู่ย่าตายายปู่ของเขาถูกแดน Beneckendorff ฟอนลุดวิกแห่งออตโตฟอน Hindenburg (1778-18 1855 กรกฎาคม), ผ่านที่ ที่เขาได้จากระยะไกล descended จากลูกนอกกฎหมายของ VI ไฮน์ริชนับแห่งวัลเด็ค และภรรยาแดน Eleonore Brederfady ฟอน Brederlow (เสียชีวิตวันที่ 1863) Hindenburg ยังเป็นหลานของมาร์ตินลูเธอร์และภรรยา Katharina ฟอนโบ โดยลูเทอร์มาร์กาเรตาลูกสาวของพวกเขา พี่ชายและน้องสาวอายุของ Hindenburg ถูกออตโต เกิด 24 1849 สิงหาคม Ida เกิด 19 1851 ธันวาคมและ Bernhard เกิด 17 มกราคมปี 1859After his education at Wahlstatt (now Legnickie Pole) and Berlin cadet schools, he was commissioned a lieutenant in 1866. He fought in the Austro-Prussian War (1866) and the Franco-Prussian War (1870–1871). Hindenburg was selected for prestigious duties: serving the widow of King Frederick William IV of Prussia, being present – as one of a group of young officers decorated for bravery in battle, who had been chosen to represent their regiments – in the Palace of Versailles when the German Empire was proclaimed on 18 January 1871, and as Honour Guard prior to the Military funeral of Emperor William I in 1888. He was promoted to captain in 1878, major in 1881, lieutenant-colonel in 1891, colonel in 1893, major-general (brigadier general) in 1897 and lieutenant general (major-general) in 1900. Hindenburg remained in the army, eventually commanding a corps and being promoted to General of the Infantry (equivalent to a British or US lieutenant-general; the German equivalent to four-star rank was Colonel-General) in 1903. Meanwhile, he married Gertrud von Sperling (1860–1921), also an aristocrat, by whom he had two daughters, Irmengard Pauline (1880) and Annemaria (1891) and one son, Oskar

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบอร์กเกิดใน Posen ปรัสเซีย (โปแลนด์: Poznań; จนกระทั่ง 1793 และตั้งแต่ 1919 เป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์ [3]) บุตรชายของขุนนางปรัสเซียนโรเบิร์ตฟอน Beneckendorff คาดไม่ถึงฟอนเบอร์ก (1816-1902) และภรรยา Luise Schwickart (1825-1893) ลูกสาวของแพทย์คาร์ลลุดวิก Schwickart และภรรยาจูลี่ Moennich เบอร์กได้อายพื้นหลังที่ไม่ใช่ชนชั้นสูงของแม่ของเขาและเธอแทบจะไม่กล่าวถึงที่ทุกคนในความทรงจำของเขา พ่อของวงศ์ตระกูลก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงและเป็นหนึ่งในการยอมรับมากที่สุดครอบครัวขุนนางโบราณในปรัสเซียเยอรมนีและในที่สุดโดยรวม ปู่ย่าตายายบิดาของเขาเป็นอ็อตโตลุดวิกฟอน Beneckendorff คาดไม่ถึงฟอนเบอร์ก (1778-18 กรกฎาคม 1855) ผ่านคนที่เขากำลังเดินลงมาจากระยะไกลจากลูกนอกสมรสของเคาเฮ็นที่หกของ Waldeck และภรรยาของเขา Eleonore ฟอน Brederfady และ Brederlow (เสียชีวิตปี 1863) เบอร์กก็ยังเป็นลูกหลานของมาร์ตินลูเธอร์และภรรยาของเขา Katharina ฟอน Bora ผ่านลูกสาวของพวกเขามาร์กาลูเทอร์ เบอร์กของน้องชายและน้องสาวเป็นอ็อตโต, เกิด 24 สิงหาคม 1849 ไอด้า, เกิด 19 ธันวาคม 1851 และเบอร์นาร์ด, เกิด 17 มกราคม 1859
หลังจากการศึกษาของเขาที่ Wahlstatt (ตอนนี้ Legnickie Pole) และโรงเรียนนายร้อยเบอร์ลินเขาได้รับหน้าที่รองผู้ว่าในปี 1866 เขาต่อสู้ในออสเตรียปรัสเซียนสงคราม (1866) และฝรั่งเศสปรัสเซียนสงคราม (1870-1871) เบอร์กได้รับเลือกให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ: ให้บริการภรรยาม่ายของกษัตริย์วิลเลียมที่สี่ของปรัสเซียเป็นปัจจุบัน - เป็นหนึ่งในกลุ่มของนายทหารหนุ่มได้รับการตกแต่งสำหรับความกล้าหาญในการต่อสู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทหารของพวกเขา - ในพระราชวังแวร์ซายเมื่อ จักรวรรดิเยอรมันได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 18 มกราคม 1871 และเป็นเกียรติยามก่อนที่จะมีพิธีฝังศพทหารของจักรพรรดิวิลเลี่ยมผมในปี 1888 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นกัปตันทีมในปี 1878, ที่สำคัญในปี 1881 เอกใน 1891 พันเอกในปี 1893, major- ทั่วไป (นายพลจัตวา) ในปี 1897 และพลโท (เมเจอร์ทั่วไป) ในปี 1900 เบอร์กยังคงอยู่ในกองทัพในที่สุดผู้บังคับบัญชากองกำลังและการส่งเสริมให้ทั่วไปของทหารราบ (เทียบเท่ากับอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกานายพลนั้นเทียบเท่าเยอรมัน ถึงสี่ดาวยศเป็นพันเอกทั่วไป) ในปี 1903 ในขณะที่เขาแต่งงานกับเกอร์ทรูดฟอน Sperling (1860-1921) ยังเป็นผู้ดีโดยที่เขามีลูกสาวสองคน Irmengard พอลลีน (1880) และ Annemaria (1891) และลูกชายหนึ่ง ออสการ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฮินเดนบวร์กเกิด Posen ปรัสเซีย ( โปแลนด์ : , พอซนาน เมื่อตั้งแต่ปีค.ศ. 1793 และเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์ [ 3 ] ) ลูกชายของปรัสเซียน โรเบิร์ต ฟอน beneckendorff และฟอนฮินเดนบวร์ก ( 888 ( 1902 ) และภรรยาเรียก schwickart ( 1825 – 1892 ) ลูกสาวของหมอคาร์ล ลุดวิก schwickart และภรรยาจูลี่ moennich . ฮินเดนบวร์กอายโดยแม่ของเขา ไม่ใช่ฐานันดรภูมิหลังและแทบจะไม่กล่าวถึงเลยในชีวประวัติ เชื้อสายบิดาของเขาเป็นอย่างสูงที่แตกต่างและเป็นหนึ่งในการยอมรับมากที่สุดโบราณขุนนางชั้นสูงสุดในปรัสเซียและเยอรมนีที่เป็นทั้ง คุณย่าของเขา อ๊อตโต้ ลุดวิก ฟอน ฟอน ฮินเดนเบอร์ก ( 1608 beneckendorff และ 18 กรกฎาคม– 1855 )ผ่านทางที่เขาจากระยะไกลสืบเชื้อสายมาจากลูกสาวนอกสมรสของนับไฮน์ริช 6 วาล์เดค และภรรยา เอเลียนอร์ ฟอน brederfady และ brederlow ( ย 1 ) ฮินเดนบวร์กก็เป็นลูกหลานของมาร์ติน ลูเธอร์ และภรรยาของเขา katharina ฟอนโบรา ลูกสาวของพวกเขาผ่านมาร์กาเรตต้าลูเธอร์ บังเกิดเป็นน้องชายและน้องสาวมาโต เกิด 24 สิงหาคม 1849 ไอด้าเกิด 19 ธันวาคม 1851 และเบอร์นาร์ด เกิด 17 มกราคม 1859 .
หลังจากจบการศึกษาของเขาที่ wahlstatt ( ตอนนี้ legnickie เสา ) และโรงเรียนเบอร์ลินทหารเขาได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนใน 1866 . เขาได้ต่อสู้ในสงคราม austro ปรัสเซีย ( 1866 ) และฝรั่งเศสปรัสเซียสงคราม ( 1870 – 1871 ) ฮินเดนบวร์กได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติ รับใช้ภรรยาม่ายของกษัตริย์เฟรดเดอริควิลเลียมแห่งปรัสเซีย IV ,เป็นปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในกลุ่มของหนุ่มเจ้าหน้าที่ตกแต่งสำหรับความกล้าหาญในการต่อสู้ ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของทหารของพวกเขา–ในพระราชวังแวร์ซายส์เมื่อจักรวรรดิเยอรมันประกาศวันที่ 18 มกราคม 2414 และเป็นเกียรติยามก่อนงานศพทหารของจักรพรรดิวิลเลี่ยมผมใน 1888 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันใน 1878 , หลักใน 1881 พันโท 1891พันเอกในปี 1893 นายพล ( นายพล ) ในปี ค.ศ. 1897 และพลโท ( พลตรี ) ในปี ค.ศ. 1900 บังเกิดอยู่ในกองทัพ ในที่สุด ผู้บังคับบัญชาทหารและเป็นการทั่วไปของทหารราบ ( เทียบเท่ากับอังกฤษหรือสหรัฐพลโท ; เทียบเท่าเยอรมัน อันดับสี่คือ พันเอกทั่วไป ) ใน 1903 . ในขณะเดียวกัน เขาแต่งงานกับ เกอร์ทรูด ฟอน สเปอร์ลิ่ง ( ค.ศ. 1860 ) )ยังเป็นผู้ดี โดยคนที่เขามีบุตรสาวสองคน irmengard พอลลีน ( 1880 ) และ annemaria ( 1891 ) และลูกชาย 1 , ออสการ์