In the U.S. House of Representative

In the U.S. House of Representatives (1789-97), Madison helped frame and ensure passage of the Bill of Rights. He also assisted in organizing the executive department and creating a system of federal taxation. As leaders of the opposition to Hamilton's policies, he and Jefferson founded the Democratic-Republican Party.

In 1794 Madison married a vivacious widow who was 16 years his junior, Dolley Payne Todd, who had a son; they were to raise no children of their own. Madison spent the period 1797-1801 in semiretirement, but in 1798 he wrote the Virginia Resolutions, which attacked the Alien and Sedition Acts. While he served as Secretary of State (1801-9), his wife often served as President Jefferson's hostess.

In 1809 Madison succeeded Jefferson. Like the first three Presidents, Madison was enmeshed in the ramifications of European wars. Diplomacy had failed to prevent the seizure of U.S. ships, goods, and men on the high seas, and a depression wracked the country. Madison continued to apply diplomatic techniques and economic sanctions, eventually effective to some degree against France. But continued British interference with shipping, as well as other grievances, led to the War of 1812.

The war, for which the young nation was ill prepared, ended in stalemate in December 1814 when the inconclusive Treaty of Ghent which nearly restored prewar conditions, was signed. But, thanks mainly to Andrew Jackson's spectacular victory at the Battle of New Orleans (Chalmette) in January 1815, most Americans believed they had won. Twice tested, independence had survived, and an ebullient nationalism marked Madison's last years in office, during which period the Democratic-Republicans held virtually uncontested sway.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสหรัฐฯ ราษฎร (ค.ศ. 1789-97), เมดิสันช่วยเฟรม และให้แน่ใจว่าเนื้อเรื่องของสิทธิของตั๋ว นอกจากนี้เขายังช่วยในการจัดการภาควิชาบริหาร และสร้างระบบการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลกลาง เป็นผู้นำ การต่อต้านนโยบายของแฮมิลตันและเจฟเฟอร์สันก่อตั้งประชาธิปไตย–พรรคใน 1794 เมดิสันแต่งงานม่ายยอดในสิงคโปร์ซึ่งมีอายุ 16 ปีเขาจูเนียร์ Dolley Payne ทอดด์ ที่มีลูกชาย พวกเขาจะยกลูกของตนเองไม่ เมดิสันใช้ระยะค.ศ. 1797-1801 ใน semiretirement แต่ใน 1798 เขาเขียนแก้ปัญหาที่เวอร์จิเนีย ซึ่งโจมตีคนต่างด้าวและ Sedition กระทำ ในขณะที่เป็นเสนาบดี (1801-9), ภรรยามักจะเสิร์ฟเป็นประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สันปฏิคมใน 1809 เมดิสันสำเร็จเจฟเฟอร์สัน เช่นประธานาธิบดีครั้งแรกสาม เมดิสันได้ enmeshed ramifications ของสงครามยุโรป การทูตได้ล้มเหลวในการป้องกันการเป็นลมสหรัฐฯ เรือ สินค้า และคนในทะเล และภาวะซึมเศร้าการ wracked ประเทศ เมดิสันยังคงใช้เทคนิคทางการทูตและการลงโทษทางเศรษฐกิจ ในที่สุดมีผลบังคับใช้กับกับฝรั่งเศส แต่ต่ออังกฤษรบกวนจัดส่ง ตลอดจนข้อร้องทุกข์อื่น ๆ นำไปสู่สงคราม 1812สงคราม ที่ประเทศเล็กป่วยเตรียม สิ้นสุดในเดือนเมษายนใน 1814 ธันวาคมเมื่อลงทะเบียนที่ inconclusive สนธิสัญญาของเกนท์ที่คืนค่าเงื่อนไข prewar เกือบ แต่ ขอบคุณส่วนใหญ่แอนดรูแจ็กสันงดงามชัยชนะในการต่อสู้ของนิวออร์ลีนส์ (Chalmette) ในเดือน 1815 มกราคม ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่า พวกเขาชนะ ทดสอบสอง เอกราชผมรอดชีวิต และชาตินิยม ebullient การทำเครื่องหมายปีของเมดิสันในสำนักงาน ในระหว่างรอบระยะเวลาประชาธิปไตย-Republicans จัดกทาง uncontested แทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา (1789-1797), เมดิสันช่วยกรอบและให้แน่ใจว่าทางเดินของบิลสิทธิ นอกจากนี้เขายังช่วยในการจัดระเบียบฝ่ายบริหารและการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลกลาง ในฐานะที่เป็นผู้นำของความขัดแย้งกับนโยบายของแฮมิลตันเขาและเจฟเฟอร์สันผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์รีพับลิกัน. 1794 ในเมดิสันแต่งงานกับหญิงม่ายมีชีวิตชีวาซึ่งเป็น 16 ปีจูเนียร์เดลลีเพนโทดด์ที่มีบุตรชายคนหนึ่ง พวกเขาจะยกเด็กไม่มีของพวกเขาเอง เมดิสันใช้เวลาในช่วงเวลา 1797-1801 semiretirement แต่ใน 1798 เขาเขียนเวอร์จิเนียมติที่โจมตีการกระทำของคนต่างด้าวและปลุกระดม ในขณะที่เขาทำหน้าที่เป็นเลขานุการของรัฐ (1801-9) ภรรยาของเขามักจะเสิร์ฟเป็นพนักงานต้อนรับประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน. 1809 ในเมดิสันสเจฟเฟอร์สันประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับครั้งแรกที่สามประธานาธิบดีเมดิสันพัวพันอยู่ในเครือข่ายของสงครามในยุโรป การทูตล้มเหลวที่จะป้องกันไม่ให้ยึดเรือสหรัฐสินค้าและคนในทะเลสูงและภาวะซึมเศร้าทำลายประเทศ เมดิสันยังคงใช้เทคนิคการทูตและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็ในระดับกับฝรั่งเศสบาง แต่ยังคงรบกวนอังกฤษพร้อมจัดส่งเช่นเดียวกับข้อกล่าวหาอื่น ๆ ที่จะนำไปสู่สงคราม 1812 สงครามซึ่งประเทศที่อ่อนเยาว์พร้อมป่วยจบลงจนมุมในธันวาคม 1814 เมื่อสนธิสัญญาค้างคาเกนท์ซึ่งเกือบจะเรียกคืนสภาพสงคราม, ได้ลงนาม แต่ต้องขอบคุณส่วนใหญ่ไปสู่ชัยชนะที่งดงามของ Andrew Jackson ที่รบนิวออร์ (ชัลเม) ในเดือนมกราคม 1815 ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขาได้รับรางวัล การทดสอบครั้งที่สองเป็นอิสระยังมีชีวิตอยู่และชาตินิยมทำเครื่องหมายปีที่ผ่านมาเมดิสันเดือดพ่ลานในที่ทำงานช่วงที่ประชาธิปไตยรีพับลิกันจัดขึ้นแกว่งไปแกว่งมาแทบไม่มีใครโต้แย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ( 1789-97 ) เมดิสันช่วยกรอบและให้แน่ใจว่า ทางเดินของบิลสิทธิ นอกจากนี้เขายังช่วยในการจัดระบบบริหารแผนก และการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลกลาง ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของนโยบายของแฮมิลตัน เขา และ เจฟเฟอร์สัน ก่อตั้งพรรคสาธารณรัฐประชาธิปไตย

ใน 1794 เมดิสันแต่งงานกับแม่ม่ายมีชีวิตชีวาที่ 16 ปีของเขา จูเนียร์โดลลีย์ เพย์น ทอดด์ ใครมีลูกชาย เขายกไม่มีลูกของตนเอง แมดิสันใช้เวลาช่วง 1797-1801 ใน semiretirement แต่ถ้าเขาเขียนเวอร์จิเนียมติที่โจมตีการกระทำของมนุษย์ต่างดาวและการจลาจล . ในขณะที่เขาทำหน้าที่เป็นเลขานุการของรัฐ ( 1801-9 ) , ภรรยาของเขามักจะทำหน้าที่เป็นประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สันปฏิคม

ใน 1256 เมดิสันสำเร็จ เจฟเฟอร์สัน ชอบสามประธานาธิบดีก่อนเมดิสันเป็น enmeshed ใน ramifications ของสงครามในยุโรป การทูตล้มเหลวที่จะป้องกันไม่ให้ยึดเรือ และสหรัฐฯ และชายในทะเลสูงและภาวะซึมเศร้า wracked ประเทศ เมดิสัน ยังคงใช้เทคนิคทางการทูตและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ในที่สุดมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่งกับฝรั่งเศส แต่ยังคงอังกฤษรบกวนจัดส่ง ตลอดจนข้อร้องเรียนอื่น ๆนำไปสู่สงคราม 1812 .

สงคราม ซึ่งประชาชนยังป่วยเตรียมสิ้นสุดลงตันในธันวาคม 1814 เมื่อสนธิสัญญาเกนต์ที่เกือบไม่ได้ของคืนสภาพสงครามลงนาม แต่ขอบคุณส่วนใหญ่ของแอนดรูแจ็คสันงดงามชัยชนะในศึกนิวออร์ลีนส์ ( chalmette ) ในเดือนมกราคมค.ศ. 1815 , ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าพวกเขามีชนะ สองทดสอบความเป็นอิสระรอดชีวิตและชาตินิยมกระตือรือร้นมากเครื่องหมายเมดิสันเป็นปีสุดท้ายในสำนักงาน ซึ่งในระหว่างระยะเวลาประชาธิปไตยรีพับลิกันถือแทบไม่มีใครหวั่นไหว