In selecting specific inventory ite

In selecting specific inventory items for pricing, emphasis should be put on the larger dollar amounts and on products that are known to have wide fluctuations in price but a representative sample of all types of inventory and departments should be included as well. Stratified variables or monetary unit sampling is commonly used in these tests.
The auditor should list the inventory items that he or she intends to verify for pricing and request the client to locate the appropriate vendor’s invoices. It is important that sufficient invoices be examined to account for the entire quantity of inventory for the item being tested,especially for the FIFO valuation method. Examining sufficient invoices is useful to uncover situations in which clients value their inventory on the basis of the most recent invoice only and, in some cases, to discver obsolete inventory. As an illustration, assume that the client’s valuation of an inventory item is ฿12.00 per unit for 1,000 units, using FIFO. The auditor should examine the most recent invoices for acquisitions of that in ventory item made in the year under audit until the valuation of all of the 1,000 units is accounted for. If the most recent acquisition of the inventory item was for 700 units at ฿12.00 per unit and the immediately preceding acquisition was for 600 units at ฿11.30 per unit, the inventory item in question is overstated by ฿210.00 (300x฿70).
When the client has perpetual inventory master files that include unit costs of acquisitions. It is usually desirable to test the pricing by tracing the unit costs to the perpetuals rather than to vendors’ invoices. In most cases, the effect is to reduce the cost of verifying inventory valuation significantly. Naturally, when the perpetuals are used to verify unit costs, it is essential to test the unit costs on the perpetuals to vendors’ invoices as a part of the tests of the acquisition and payment cycle
Pricing Manufactured InventoryThe auditor must consider the cost of raw materials direct labor, and manufacturing overhead in pricing work-in-process and finished goods. The need to verify each of these has the effect of making the audit of work-in-process and finished goods inventory more complex than the audit of purchased inventory. Nevertheiess. Such considerations as selecting the items to be tested,testing for whether cost or market value is lower,and evaluating the possibility of obsolescence also apply.
In pricing raw materials in manufactured products,it is necessary to consider both the unit cost of the raw materials and the number of units required to manufacture a unit of output. The unit cost can be verified in the same manner as that used for other purchased inventory-by examining vendors’ invoices or perpetual inventory master files. Then it is necessary to examine engineering specifications, inspect the finished product, or find a similar method to determine the number of units it takes to manufacture a product.
Similarly, the hourly costs of direct labor and the number of hours it takes to manufacture a unit of output must be verified while testing direct labor. Hourly labor costs can be verified by comparison with labor payroll or union contracts. The number of hours needed to manufacture the product can be determined from engineering specifications or similar sources.
The proper manufacturing overhead in work-in-process and finished goods is dependent on the approach being used by the client. It is necessary to evaluate the method being used for consistency and reasonableness and to recomputed the costs to determine whether the overhead is correct. For example,if the rate is based on direct labor dollars, the auditor can divide the total manufacturing overhead by the total direct labor dollars to determine the actual overhead rate. This rate can then be compared with the overhead rate used by the client to determine unit costs.
When the client has standard costs records, an efficient and useful method of determining valuation is by the review an analysis of variances. If the variances in material, labor, and manufacturing overhead are small, it is evidence of reliable cost records.
Cost or Market In pricing inventory. It is necessary to consider whether replacement cost or net realizable value is lower than historical cost. For purchased finished goods and raw materials, the most recent cost of an inventory item as indicated on a vendor’s invoice of the subsequent period is a useful way to test for replacement cost. All manufacturing costs must be considered for work-in-process and finished goods for manufactured inventory. It is also necessary to consider the sales of inventory items and the possible effect of rapid fluctuation of prices to determine net realizable value. Finally, it is necessary to consider the possiblility of obsolescence in the valuation process.
INTEGRATION OF THE TESTS
The most difficult part of understanding the audit of the inventory and warehousing cycle is grasping the interrelationships of the many different tests the auditor makes to evaluate whether inventory and cost of goods sold are fairly stated. Figure 20-6 and the discussions that follow are designed to aid the reader in perceiving the audit of the inventory and warehousing cycle as a series of integrated test.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการเลือกรายการสินค้าที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการกำหนดราคาที่เน้นควรจะใส่ในจำนวนเงินขนาดใหญ่ดอลลาร์และเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่รู้จักที่จะมีความผันผวนทั้งในราคา แต่ตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของทุกประเภทของสินค้าคงคลังและหน่วยงานที่ควรจะรวมเป็นอย่างดี ตัวแปรแซดหรือหน่วยเงินตราสุ่มตัวอย่างเป็นที่นิยมใช้ในการทดสอบเหล่านี้.
ผู้สอบบัญชีควรรายการรายการสินค้าที่เขาหรือเธอตั้งใจที่จะตรวจสอบสำหรับการกำหนดราคาและขอให้ลูกค้าที่จะหาใบแจ้งหนี้ผู้ขายที่เหมาะสมของ มันเป็นสิ่งสำคัญว่าใบแจ้งหนี้ที่เพียงพอในการตรวจสอบบัญชีสำหรับปริมาณของสินค้าคงคลังทั้งหมดสำหรับรายการที่ถูกทดสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิธีการประเมินมูลค่า FIFOการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ที่เพียงพอที่จะเป็นประโยชน์ในการค้นพบสถานการณ์ที่ลูกค้าเห็นคุณค่าของสินค้าคงคลังของพวกเขาบนพื้นฐานของใบแจ้งหนี้ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เท่านั้นและในบางกรณีเพื่อ discver สินค้าล้าสมัย เป็นภาพประกอบสมมติว่าการประเมินมูลค่าของลูกค้าของรายการสินค้าคงคลังเป็น฿ 12.00 ต่อหน่วย 1,000 หน่วยโดยใช้ FIFOผู้สอบบัญชีควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้ล่าสุดสำหรับการเข้าซื้อกิจการที่อยู่ในรายการ ventory ทำในปีภายใต้การตรวจสอบจนกว่าจะมีการประเมินมูลค่าทั้งหมดของ 1,000 หน่วยคิดเป็น ถ้าการเข้าซื้อกิจการล่าสุดของรายการสินค้าคงคลังเป็น 700 หน่วยที่฿ 12.00 ต่อหน่วยและการได้มาทันทีก่อนเป็น 600 หน่วยที่฿ 11.30 ต่อหน่วยรายการสินค้าคงคลังในคำถามที่คุยโวโดย฿ 210.00 (300x ฿ 70).
เมื่อลูกค้ามีตลอดไฟล์หลักสินค้าคงคลังที่มีต้นทุนต่อหน่วยของการซื้อกิจการ ก็มักจะเป็นที่น่าพอใจในการทดสอบการกำหนดราคาโดยการติดตามค่าใช้จ่ายในหน่วยที่ perpetuals มากกว่าใบแจ้งหนี้ของผู้ค้า ในกรณีส่วนใหญ่ผลที่ได้คือการลดค่าใช้จ่ายของการตรวจสอบการประเมินมูลค่าสินค้าคงคลังอย่างมีนัยสำคัญ ตามธรรมชาติเมื่อ perpetuals จะใช้ในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในหน่วยมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทดสอบต้นทุนต่อหน่วยใน perpetuals กับใบแจ้งหนี้ของผู้ค้าเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบของการควบรวมและรอบการชำระเงิน
ราคาผลิต inventorythe ผู้สอบบัญชีต้องพิจารณาต้นทุนของวัตถุดิบโดยตรง แรงงานและค่าใช้จ่ายในการผลิตการกำหนดราคาการทำงานในกระบวนการผลิตและสินค้าสำเร็จรูปจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบแต่ละเหล่านี้มีผลทำให้การตรวจสอบของการทำงานในขั้นตอนการดำเนินการเสร็จสิ้นและสินค้าคงคลังที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่าการตรวจสอบของสินค้าคงคลังที่ซื้อ nevertheiess พิจารณาเช่นการเลือกรายการที่จะได้รับการทดสอบการทดสอบไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าการตลาดต่ำและการประเมินความเป็นไปได้ของความล้าสมัยยังใช้. ในการกำหนดราคา
วัตถุดิบในสินค้าที่ผลิตมันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาทั้งต้นทุนต่อหน่วยของวัตถุดิบและจำนวนหน่วยที่จำเป็นในการผลิตต่อหน่วยของการส่งออก ต้นทุนต่อหน่วยสามารถตรวจสอบได้ในลักษณะเดียวกับที่ใช้สำหรับการอื่น ๆ ที่ซื้อสินค้าคงคลังโดยการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของผู้ค้าหรือไฟล์หลักสินค้าคงคลังตลอด แล้วมันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการตรวจสอบคุณสมบัติทางวิศวกรรมตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหรือหาวิธีการที่คล้ายกันในการตรวจสอบจำนวนหน่วยที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์.
ในทำนองเดียวกันค่าใช้จ่ายรายชั่วโมงของแรงงานทางตรงและจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการผลิตต่อหน่วยของการส่งออกจะต้องได้รับการตรวจสอบขณะที่การทดสอบแรงงานทางตรง ต้นทุนค่าแรงงานรายชั่วโมงสามารถตรวจสอบได้โดยการเปรียบเทียบกับเงินเดือนแรงงานหรือสหภาพสัญญาจำนวนชั่วโมงที่จำเป็นในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สามารถได้รับการพิจารณาจากคุณสมบัติทางวิศวกรรมหรือแหล่งที่มาคล้ายกัน. ค่าใช้จ่ายการผลิต
ที่เหมาะสมในสินค้าการทำงานในกระบวนการและการดำเนินการเสร็จสิ้นจะขึ้นอยู่กับวิธีการที่ใช้โดยลูกค้ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการประเมินวิธีการที่ถูกนำมาใช้เพื่อความมั่นคงและความสมเหตุสมผลและต่ำาค่าใช้จ่ายเพื่อตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่นถ้าอัตราจะขึ้นอยู่กับดอลลาร์แรงงานทางตรงผู้สอบบัญชีสามารถแบ่งค่าใช้จ่ายการผลิตโดยรวมทั้งหมดดอลลาร์แรงงานทางตรงในการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงอัตรานี้จากนั้นจะสามารถเทียบกับอัตราค่าใช้จ่ายที่ใช้โดยลูกค้าที่จะกำหนดค่าใช้จ่ายหน่วย.
เมื่อลูกค้ามีการบันทึกค่าใช้จ่ายในมาตรฐานวิธีที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ในการกำหนดมูลค่าโดยการทบทวนการวิเคราะห์ความแปรปรวน ถ้าความแปรปรวนในวัสดุแรงงานและค่าใช้จ่ายในการผลิตที่มีขนาดเล็กจึงเป็นหลักฐานของการบันทึกค่าใช้จ่ายที่น่าเชื่อถือ.
ค่าใช้จ่ายหรือการตลาดในการกำหนดราคาสินค้าคงคลังมันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือมูลค่าสุทธิที่ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายที่ทางประวัติศาสตร์ สำหรับสินค้าสำเร็จรูปที่ซื้อวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาส่วนใหญ่ของรายการสินค้าคงคลังตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ของผู้จำหน่ายในช่วงเวลาต่อมาเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการทดสอบสำหรับค่าใช้จ่ายแทนค่าใช้จ่ายในการผลิตทั้งหมดจะต้องได้รับการพิจารณาสำหรับการทำงานในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตสำหรับสินค้าคงคลัง ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาการขายของรายการสินค้าคงคลังและผลกระทบที่เป็นไปได้ของความผันผวนอย่างรวดเร็วของราคาเพื่อกำหนดมูลค่าสุทธิที่ ในที่สุดก็มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณา possiblility ของล้าสมัยในขั้นตอนการประเมินค่า.
บูรณาการของการทดสอบ
ส่วนที่ยากที่สุดของการทำความเข้าใจการตรวจสอบของวงจรสินค้าคงคลังและคลังสินค้าที่มีการจับความสัมพันธ์ของการทดสอบที่แตกต่างกันจำนวนมากทำให้ผู้สอบบัญชีในการประเมินไม่ว่าจะเป็นสินค้าคงคลังและค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ขายจะมีการระบุไว้อย่างเป็นธรรมรูปที่ 20-6 และการอภิปรายที่ตามที่มีการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจในการตรวจสอบของสินค้าคงคลังและคลังสินค้าวงจรเป็นชุดของการทดสอบแบบบูรณา.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการเลือกสินค้าคงคลังเฉพาะสำหรับการกำหนดราคา เน้นควรวางบนยอดดอลลาร์ใหญ่ และผลิตภัณฑ์ที่ทราบว่ามีความผันผวนมากมายในราคาแต่ตัวอย่างพนักงานทุกประเภทของสินค้าคงคลังและแผนก จะรวมอยู่ด้วย ตัวแปร stratified หรือหน่วยเงินที่สุ่มตัวอย่างโดยทั่วไปใช้ในการทดสอบเหล่านี้
ผู้ตรวจสอบควรแสดงรายการสินค้าคงคลังที่เขาหรือเธอมุ่งมั่นที่จะตรวจสอบสำหรับการกำหนดราคา และการร้องขอไคลเอนต์เพื่อค้นหาใบแจ้งหนี้ของผู้จัดจำหน่ายที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่เพียงพอใบแจ้งหนี้ถูกตรวจสอบบัญชีสำหรับปริมาณทั้งหมดของสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าที่กำลังทดสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิธีการประเมินค่า FIFO ตรวจสอบใบแจ้งหนี้พอมีประโยชน์เผยสถานการณ์ซึ่งลูกค้ามูลค่าของสินค้าคงคลังตามใบแจ้งหนี้ล่าสุดเท่านั้น และ ในบาง กรณี สินค้าคงคลังที่ล้าสมัย discver เป็นภาพประกอบ สมมติว่าประเมินค่าสินค้าคงคลังของลูกค้า ฿12.00 ต่อหน่วย 1000 หน่วย ใช้ FIFO ผู้สอบบัญชีควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้ล่าสุดสำหรับซื้อของที่ในรายการที่ทำในปีภายใต้การตรวจสอบจนกว่าจะคิดมูลค่าของหน่วย 1000 ventory ถ้าซื้อล่าสุดของสินค้าคงคลังสำหรับหน่วย 700 ที่ ฿12.00 ต่อหน่วยและการก่อน ซื้อมี 600 หน่วยใน ฿11.30 ต่อหน่วย สินค้าคงคลังจะระบุมากกว่าความจริง โดย ฿210.00 (300x฿70) .
เมื่อไคลเอนต์มีไฟล์หลักถาวรคงที่รวมต้นทุนต่อหน่วยของการซื้อสินทรัพย์ จึงมักจะต้องการทดสอบการกำหนดราคา โดยการติดตามต้นทุนต่อหน่วย เพื่อ perpetuals แทนใบแจ้งหนี้ของผู้จัดจำหน่าย ในกรณีส่วนใหญ่ ผลคือการ ลดต้นทุนของสินค้าคงคลังการตรวจสอบอย่างมีนัยสำคัญ ธรรมชาติ เมื่อ perpetuals ที่ใช้ในการตรวจสอบต้นทุนต่อหน่วย มันเป็นสิ่งสำคัญในการทดสอบต้นทุนต่อหน่วยบน perpetuals ใบแจ้งหนี้ของผู้จัดจำหน่ายเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบของวงจรการซื้อและการชำระเงิน
ราคาผลิต InventoryThe ผู้สอบบัญชีต้องพิจารณาต้นทุนของวัตถุดิบแรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายในการผลิตในการกำหนดราคาสินค้างานการทำ และสำเร็จ จำเป็นต้องตรวจสอบแต่ละเหล่านี้มีผลทำให้การตรวจสอบงานการทำ และสำเร็จรูปสินค้าคงซับซ้อนกว่าการตรวจสอบสินค้าคงคลังที่สั่งซื้อ Nevertheiess ข้อควรพิจารณาดังกล่าวเป็นการเลือกสินค้าที่จะทดสอบ ทดสอบว่าต้นทุนหรือราคาตลาดจะลดลง และประเมินความเป็นไปได้ของ obsolescence ยังใช้
ในราคาวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์จึงจำเป็นต้องพิจารณาทั้งต้นทุนต่อหน่วยของวัตถุดิบวัสดุและจำนวนหน่วยที่ต้องใช้ในการผลิตต่อหน่วยของผลผลิต คุณสามารถตรวจสอบต้นทุนต่อหน่วยในลักษณะเดียวกับที่ใช้สำหรับใบแจ้งหนี้อื่นซื้อสินค้าคงคลังโดยพิจารณาสถานะของผู้ขายหรือแฟ้มหลักของสินค้าคงคลังตลอด แล้วจำเป็นต้องตรวจสอบข้อกำหนดด้านวิศวกรรม การตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป หรือวิธีที่คล้ายกันเพื่อกำหนดจำนวนของหน่วยที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ค้นหา
รับ ต้นทุนต่อชั่วโมงของแรงงานโดยตรงและจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการผลิตต่อหน่วยของผลผลิตต้องตรวจสอบขณะทดสอบแรงงานโดยตรง คุณสามารถตรวจสอบค่าแรงรายชั่วโมง by comparison with ค่าจ้างแรงงานหรือสัญญาสหภาพ สามารถกำหนดจำนวนชั่วโมงที่จำเป็นในการผลิตผลิตภัณฑ์จากข้อกำหนดทางวิศวกรรมขึ้นคล้ายแหล่ง
ค่าโสหุ้ยการผลิตที่เหมาะสมในงานการทำ และสำเร็จรูปสินค้าจะขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ โดยไคลเอนต์ได้ มันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อประเมินวิธีการที่ใช้ความสอดคล้องและ reasonableness และ recomputed ต้นทุนเพื่อตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายในการแก้ไข ตัวอย่าง ถ้าอัตราขึ้นอยู่กับแรงงานโดยตรงดอลลาร์ ผู้ตรวจสอบสามารถแบ่งทั้งหมดที่ผลิต โดยแรงงานทางตรงรวมเหรียญเพื่อกำหนดอัตราจ่ายจริง อัตรานี้สามารถแล้วเปรียบเทียบกับอัตราการจ่ายที่ใช้ โดยไคลเอนต์เพื่อกำหนดต้นทุนต่อหน่วยได้
เมื่อไคลเอนต์มีระเบียนต้นทุนมาตรฐาน วิธีการมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ในการกำหนดค่าคือการตรวจทาน การวิเคราะห์ผลต่างได้ ถ้าผลต่างวัสดุ แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิตมีขนาดเล็ก เป็นหลักฐานของต้นทุนความน่าเชื่อถือระเบียน
ต้นทุนหรือตลาดในการกำหนดราคาสินค้าคงคลัง จึงจำเป็นต้องพิจารณาการเปลี่ยนต้นทุนหรือมูลค่าสุทธิ realizable ว่าต่ำกว่าต้นทุนในอดีต สำหรับซื้อสินค้าสำเร็จรูปและวัตถุดิบ ต้นทุนสินค้าคงคลังตามที่ระบุในใบแจ้งหนี้ของผู้จัดจำหน่ายของรอบระยะเวลาต่อมาล่าสุดเป็นวิธีมีประโยชน์การทดสอบต้นทุนทดแทน ต้องพิจารณาต้นทุนการผลิตทั้งหมดสำหรับงานการทำ และสำเร็จรูปสินค้าในสินค้าคงคลังการผลิต ก็ยังจำเป็นต้องพิจารณาการขายของสินค้าคงคลังและผันผวนอย่างรวดเร็วของราคาเพื่อกำหนดค่า realizable สุทธิผลได้ ในที่สุด จำเป็นต้องพิจารณา possiblility ของ obsolescence ในกระบวนการประเมินค่า
รวมของทดสอบ
ส่วนยากที่สุดของเข้าใจการตรวจสอบสินค้าคงคลัง และคลังสินค้ารอบจะเรียง interrelationships ทดสอบแตกต่างกันมากทำให้ผู้ตรวจสอบเพื่อประเมินว่าสินค้าคงคลังและต้นทุนของสินค้าที่ขายจะระบุไว้ค่อนข้าง รูปที่ 20-6 และสนทนาตามถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้อ่าน perceiving ตรวจสอบสินค้าคงคลัง และคลังสินค้าวงจรเป็นชุดของการทดสอบรวมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการเลือกรายการสินค้าคงคลังข้อมูลเฉพาะสำหรับการตั้งราคาการเน้นย้ำควรจะมีในจำนวนเงินที่มีขนาดใหญ่กว่าและใน ผลิตภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงในด้านการมีความผันผวนของหลากหลายในราคาแต่ตัวอย่างผู้แทนที่ของทุก ประเภท ของฝ่ายและสินค้าคงคลังควรจะถูกรวมไว้เป็นอย่างดี การสุ่มตัวอย่างหน่วยการเงินหรือตัวแปรมีโครงสร้างสังคมมีการใช้ในการทดสอบนี้โดยทั่วไปแล้ว.
ผู้สอบบัญชีจะรายการสินค้าคงคลังที่เขาหรือเธอตั้งใจในการตรวจสอบสำหรับการกำหนดราคาและการร้องขอเครื่องลูกข่ายในการค้นหาใบแจ้งหนี้ที่เหมาะสมของผู้จำหน่าย เป็นสิ่งสำคัญที่ใบแจ้งหนี้ไม่เพียงพอต้องผ่านการตรวจสอบไปยังบัญชีของจำนวนทั้งหมดของสินค้าคงคลังสำหรับรายการที่ทำการทดสอบโดยเฉพาะสำหรับวิธีการประเมิน FIFOตรวจสอบใบแจ้งหนี้ไม่เพียงพอจะเป็นประโยชน์ในการเปิดเผยสถานการณ์ซึ่งลูกค้ามูลค่าสินค้าคงคลังของตนอยู่บนพื้นฐานของใบแจ้งหนี้มากที่สุดเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้นและในบางกรณีเพื่อ discver สินค้าคงคลังเลิกใช้ไปแล้ว เป็น ภาพ ประกอบที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบที่ประเมินราคาของเครื่องลูกข่ายนั้นในรายการสินค้าคงคลังที่มี ฿ 12.00 ต่อหน่วยสำหรับ 1 , 000 ชุดโดยใช้ FIFOผู้สอบบัญชีที่ควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้มากที่สุดเมื่อไม่นานมานี้สำหรับการซื้อกิจการของที่อยู่ในรายการ ventory ทำให้ในปีนี้ ภายใต้ การตรวจสอบจนกว่าราคาประเมินของ 1 , 000 ชุดที่ทั้งหมดได้รับการใส่ใจ หากการควบรวมกิจการมากที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ในรายการสินค้าคงคลังที่มีต่อ 700 ชุดที่ ฿ 12.00 ต่อหน่วยและการได้มาซึ่งในทันทีที่ผ่านมาเป็น 600 คันที่ ฿ 11.30 ต่อชุดรายการสินค้าคงคลังในคำถามคือสักนิดโดย ฿ 210.00 ( 300 x฿ 70 )..
เมื่อเครื่องลูกข่ายที่มีไฟล์หลักสินค้าคงคลังแบบถาวรซึ่งรวมถึงต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของการควบรวมกิจการ โดยปกติแล้วเป็นการทดสอบการตั้งราคาโดยการติดตามต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่จะ perpetuals มากกว่าจะมาใบกำกับสินค้าของผู้จำหน่าย ในกรณีที่มีผลบังคับใช้จะสามารถลดต้นทุนของการตรวจสอบประเมินราคาสินค้าคงคลังอย่างมีนัยสำคัญ อย่างเป็นธรรมชาติเมื่อ perpetuals จะใช้ในการตรวจสอบชุดค่าใช้จ่าย,มีความจำเป็นในการทดสอบชุดค่าใช้จ่ายที่ perpetuals กับผู้จำหน่ายของใบแจ้งหนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบของการได้มาซึ่งการชำระเงินและการตั้งราคาการ
ซึ่งจะช่วยผลิต inventorythe ผู้สอบบัญชีจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนของวัตถุดิบแรงงานโดยตรง,การผลิตและค่าใช้จ่ายในการตั้งราคางานในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูป.ความต้องการที่จะตรวจสอบแต่ละอย่างเหล่านี้มีผลให้การตรวจสอบสินค้าคงคลังทำงาน - ในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปมากกว่าการตรวจสอบสินค้าคงคลังซื้อ nevertheiess . ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับเช่นการเลือกรายการที่จะได้รับการทดสอบสำหรับการทดสอบว่ามูลค่าตลาดหรือต้นทุนต่ำและมีการประเมินความเป็นไปได้ของล้าสมัยยังใช้.
ในการตั้งราคาวัตถุดิบในการผลิต ผลิตภัณฑ์ ผลิตเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพิจารณาต้นทุนต่อหน่วยที่มีวัตถุดิบและหมายเลขของหน่วยที่จำเป็นในการผลิตเครื่องที่ของเอาต์พุตทั้งสอง ต้นทุนต่อหน่วยที่สามารถตรวจสอบได้ในลักษณะเดียวกับที่ใช้สำหรับใบกำกับสินค้าของผู้ผลิตสินค้าคงคลัง - ด้วยการตรวจสอบซื้ออื่นๆหรือไฟล์หลักสินค้าคงคลังแบบถาวร จากนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลจำเพาะด้านวิศวกรรมตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์ ที่เสร็จสมบูรณ์หรือค้นหาวิธีการที่คล้ายคลึงกันเพื่อกำหนดจำนวนของหน่วยที่ใช้ในการผลิต ผลิตภัณฑ์ ที่.
ในทำนองเดียวกันค่าใช้จ่ายทุกชั่วโมงของแรงงานโดยตรงและจำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการผลิตชุดของเอาต์พุตจะต้องได้รับการตรวจสอบในขณะที่การทดสอบการใช้แรงงานโดยตรง ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานทุกชั่วโมงจะสามารถได้รับการรับรองโดยการเปรียบเทียบกับสัญญา สหภาพ แรงงานหรือบัญชีเงินเดือนจำนวนชั่วโมงที่จำเป็นในการผลิต ผลิตภัณฑ์ ที่สามารถกำหนดจากข้อมูลจำเพาะทางวิศวกรรมหรือแหล่งกำเนิดความเหมือน.
อยู่เหนือศีรษะการผลิตที่เหมาะสมในการทำงานในกระบวนการและสินค้าสำเร็จรูปมีขึ้นอยู่กับวิธีการที่ใช้โดยเครื่องลูกข่ายมีความจำเป็นในการประเมินวิธีที่ถูกใช้งานและสมเหตุสมผลสอดคล้องกันและ recomputed ค่าใช้จ่ายในการพิจารณาว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่นหากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่บนพื้นฐานดอลลาร์สรอ.แรงงานโดยตรงผู้สอบบัญชีที่สามารถแบ่งค่าใช้จ่ายการผลิตทั้งหมดโดยดอลลาร์สรอ.แรงงานโดยตรงรวมในการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายจริงค่านี้จะถูกเปรียบเทียบกับอัตราค่าใช้จ่ายที่ใช้งานจากเครื่องลูกข่ายในการกำหนดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยแล้ว.
เมื่อเครื่องลูกข่ายที่มีข้อมูลต้นทุนมาตรฐานวิธีการที่มี ประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ของการกำหนดค่าได้โดยตรวจสอบการวิเคราะห์ของฯ หากฯอยู่เหนือศีรษะและการผลิตวัสดุเชื่อมต่อในแรงงานมีขนาดเล็กและมีหลักฐานบันทึกข้อมูลต้นทุนและเชื่อถือได้.
หรือค่าใช้จ่ายในการตั้งราคาสินค้าคงคลังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องพิจารณาว่าต้นทุนการเปลี่ยนทดแทนหรือค่าเปลี่ยนเป็นเงินได้สุทธิต่ำกว่าต้นทุนทางประวัติศาสตร์ สำหรับสินค้าที่ซื้อและการที่ราคาวัตถุดิบที่ใช้ค่าใช้จ่ายมากที่สุดเมื่อไม่นานมานี้ในรายการสินค้าคงคลังที่ตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ของผู้จำหน่ายของช่วงที่เป็นทางที่เป็นประโยชน์ในการทดสอบสำหรับต้นทุนการเปลี่ยนต้นทุนการผลิตทั้งหมดจะต้องได้รับการพิจารณาให้ได้รับงานในกระบวนการผลิตและสินค้าสำเร็จรูปเพื่อผลิตสินค้าคงคลัง ยังจำเป็นที่จะต้องพิจารณาการขายของรายการสินค้าคงคลังและมีผลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมีความผันผวนของราคาในการกำหนดค่าเปลี่ยนเป็นเงินได้สุทธิ สุดท้ายมีความจำเป็นในการพิจารณา possiblility ของล้าสมัยในการประเมินค่าทรัพย์สิน.
การประกอบการทดสอบที่
เป็นเรื่องยากที่สุดในการทำความเข้าใจการตรวจสอบของวงจรการจัดเก็บสินค้าและสินค้าคงคลังที่มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันจับของการทดสอบที่หลากหลายที่ผู้สอบบัญชีจะทำให้การประเมินผลไม่ว่าจะราคาถูกและสินค้าคงคลังของสินค้าที่จำหน่ายมีกำหนดไว้ค่อนข้างมากรูปที่ 20-6 20-6 20-6 20-6 และการแสดงความคิดเห็นที่ทำตามได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเห็นในการตรวจสอบของวงจรการจัดเก็บสินค้าและสินค้าคงคลังที่เป็นชุดการทดสอบแบบอินทิเกรต.