“ นับแต่ขุนบูลม ลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปี ขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปี ก็ล่ การแปล - “ นับแต่ขุนบูลม ลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปี ขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปี ก็ล่ ไทย วิธีการพูด

“ นับแต่ขุนบูลม ลงมาตั้งเมืองหลุ่มไ

“ นับแต่ขุนบูลม ลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปี ขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปี ก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวาที่เชียงดงเชียงทอง อันเจ้ารัสสี (ฤาษี) แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแล ยามนั้น ข่ากันฮางปู่มัน พระยานาคอยู่น้ำท่าผาติ่งสบอูหั้น ขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคา จึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แล อันนั้นแม่นข่ากันฮางแล

ยังมีคนชุมหนึ่ง แม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อ พ่อเขานั้นเป็นคนเอากัน เป็นผัวเมียจึงมีลูก เขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้น ชื่อขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทอง บุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้ เขาจึงไปตั้งที่เชียงงวด อัน เฮาว่าขึงมวกบัดนี้แล บ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขา ขุนลอจุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็เอารี้พลมาฮอดท้านขันหั้น ขุนลอก็ไปเลวได้ชนกัน ขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไป ก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวด ทั้งพ่อทั้งลูกเอาไปจมน้ำเสียที่ดอนสิงหั้นแล เชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแล แต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทอง แล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นดินหั้นแล ”

ตามข้อความข้างบน แสดงว่าเมืองชะวานั้นมีชนชาติข่านามว่า กันฮาง ตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อน เมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก็ขับไล่พวกข่ากันฮางไปอยู่ตามป่า ตามภูเขาภูคา เป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้ ยังมีชนพวกหนึ่งมีหัวหน้า 2 พี่น้อง ผู้พี่ขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เป็นโอรสของนาง กางฮี ผีเสื้อ มีบิดาเป็นมนุษย์ ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด (ขี้มวกหรือขึงมวก) ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไป เป็นพระเจ้าแผ่นดินครองเมืองศรีสัตนาคนหุตอุตตมราชธานี โดยเอา “ งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาค เอาสบคานและน้ำของก้ำ (เฉียง) เหนือเป็นหัวนาค จึงได้ชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาคเพื่อดังนั้น อันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิต จึงเรียกว่าเมืองล้านช้างเพื่ออั้นแล”

เมืองหลวงพระบาง จึงมีหลายชื่อ ชาวลาวปัจจุบันนิยมเรียกชื่อเดียวว่า เมืองหลวงพระบาง หมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อ พ.ศ. 2414 ได้เขียนไว้ว่า “ เมืองหลวงพระบางนี้มีลักษณะมั่นคงกว่าหัวเมืองไทยทั้งหลายที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองต่างจากเมืองลาวทั้งปวง พลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมือง ทำเลการทำนาก็อยู่ห่างไกลเมืองออกไป ข้าวที่ส่งเป็นอาหารของชาวเมืองหลวงพระบางได้จากพวกชาวเขาที่ส่งส่วยเป็นภาษีประจำ เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขง มีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุต มีสถูปเจดีย์อยู่บนยอด ลำน้ำแม่คานไหลผ่านตัวเมืองออกไปบรรจบแม่น้ำโขง”

ตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้น เล่าว่า เดิมเมืองหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองผีเสื้อหรือยักษ์ มีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อ นันทา เมียชื่อมหาเทวี ลูกลาวชื่อนางกางฮี (นางเมรี) เขาเจ้าผัวนางตายก่อนเมีย จึงไปเป็นพระยาอินทปัตเกิดลูกชื่อ เจ้าพุทธเสน (พระรถ) มาเอานาง กางฮี เป็นเมีย มีลูกชายผู้หนึ่งชื่อ ท้าวพิสี มีลูกหญิงผู้หนึ่งชื่อนางพิไสย

ผู้เฒ่าชาวเมืองหลวงพระบางเล่าให้ฟังว่า บิดาของนางกางฮีจำแลงกายไปท่องเที่ยว ไปพบหนุ่มน้อยเจ้าพุทธเสนเข้า อยากให้ธิดาของตนลิ้มรสเนื้อมนุษย์ จึงลวงให้เจ้าพุทธเสนไปบ้านเมืองของตน และเขียนหนังสือถึงนางกางฮีว่า “ ถ้าไปถึงกลางวันให้กินกลางวัน ถ้าถึงกลางคืนจงกินกลางคืน” ปิดผนึกมอบให้เจ้าพุทธเสนเดินทางไปหาลูกลาวของตน เจ้าพุทธเสนเอาจดหมายผูกติดเชือกแขวนคอแล้วเดินทางรอนแรมขึ้นเขาข้ามห้วยลำธาน อดๆ อยากๆ ครั้นเดินทางมาถึงริมฝั่งโขง ณ ภูเขาลูกหนึ่งเรียกว่ ผาตัดแก้ (เวลานี้เรียกกับแก้ อยู่ใต้หลวงพระบาง) ก็นอนหลับไป เทพารักษ์รักษาป่าถิ่นนั้นมาเห็นจดหมายผูกแขวนไว้ที่คอของเจ้าพุทธเสน ก็สงสัยจึงลอบเปิดอ่านดู ทราบความแล้วเกิดสงสารจะตายเปล่าไม่เข้าที จึงเขียนข้อความให้ใหม่ว่า “ ไปถึงกลางวันหรือกลางคืนให้เอาเฮ็ดผัว” ครั้นเจ้าพุทธเสนตื่นขึ้นมาเดินทางเข้าต่อไปถึงสวนแถน (เวลานี้อยู่ใต้เมือง) ณ สวนนี้มีมะม่วงมะนาวพูดได้ ชาวพื้นเมืองเรียก มะม่วงรู้หาว มะนาวรู้โห่ ได้พบปะกับนาง กางฮี มอบหนังสือให้ ได้เสียเป็นผัวเมียกัน ครอบราชสมบัติเมืองหลวงพระบาง จนสิ้นพระชนม์ กลายเป็นภูเขา 2 ลูก อยู่ฝั่งเชียงแมนซึ่งตรงกันข้ามกับหลวงพระบาง เรียกภูท้าว ภูนาง ปัจจุบันนี้สุสานที่ฝังศพกษัตริย์ของเมืองลาวอยู่ใต้ภูท้าว เรียกป่าช้าหนองเงิน ภูนางนั้นเป็นรูปผู้หญิงนอน มีศีรษะ คอ หน้าอก และมีสระอยู่ 3 สระ ชาวพื้นเมืองนับถือกันมากไม่มีผู้ใดกล้าไปตัดฟันต้นไม้หรือขุดดิน

ามแม่น้ำโขงนับจากใต้เมืองห้วยทรายลงมายังเมืองหลวงพระบาง และใต้หลวงพระบางลงไปสุดแดนของแขวงนี้ มีเกาะแก่งอันตรายร้ายแรงมากมาย แต่ละแก่งมีชื่อและประวัตินิยายอันน่ากลัว เช่น ผาย่าเฒ่าใต้ปากทา มีก้อนหินอยู่ริมน้ำเป็นรูปหญิงแก่สีขาว เล่าว่า แม่เฒ่าชาวข่ามุจะไปเมืองหลวงพระบาง ล่องเรืองมาเรือล่มจมน้ำตาย กลายเป็นหินรูปหินย่าเฒ่าอยู่ตรงนั้นตราบจนบัดนี้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
"นับ แต่ขุนบูลมลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปีขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปี อันเจ้ารัสสี (ฤาษี) แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแลยามนั้นข่ากันฮางปู่มันขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคาจึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แลอันนั้นแม่นข่ากันฮางแล
ยังมีคนชุมหนึ่งแม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อพ่อเขานั้นเป็นคนเอากันเป็นผัวเมียจึงมีลูกเขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้นชื่อขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทองบุญเขา น้อยมาตั้งบ่ได้อันเฮาว่าขึงมวกบัดนี้แลบ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขา ขุนลอก็ไปเลวได้ชนกันขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไปก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวด"
ตามข้อความข้างบน กันฮางตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อน ตามภูเขาภูคาเป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้2 พี่น้องผู้พี่ขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเป็นโอรสของนางกางฮีผีเสื้อมีบิดาเป็นมนุษย์ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด (ขี้มวกหรือขึงมวก) ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไปโดยเอา "งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาคเอาสบคานและน้ำของก้ำ (เฉียง) เหนือเป็นหัวนาค อันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิต
เมืองหลวงพระบางจึงมีหลายชื่อ เมืองหลวงพระบางหมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อ พ.ศ.2414 ได้เขียนไว้ว่า " พลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมืองเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขงมีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุตมีสถูปเจดีย์อยู่บนยอดตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้นเล่าว่า มีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อนันทาเมียชื่อมหาเทวีลูกลาวชื่อนางกางฮี (นางเมรี) เขาเจ้าผัวนางตายก่อนเมียเจ้าพุทธเสน (พระรถ) มาเอานางกางฮีเป็นเมียมีลูกชายผู้หนึ่งชื่อท้าวพิสีมีลูกหญิงผู้หนึ่งชื่อนางพิไสย
ไปพบหนุ่มน้อยเจ้าพุทธเสนเข้าอยากให้ธิดาของตนลิ้มรสเนื้อมนุษย์"ถ้าไปถึงกลางวันให้กินกลางวันถ้าถึงกลางคืนจงกินกลางคืน" อด ๆ อยาก ๆณ ภูเขาลูกหนึ่งเรียกว่ผาตัดแก้ (เวลานี้เรียกกับแก้อยู่ใต้หลวงพระบาง) ก็นอนหลับไป ก็สงสัยจึงลอบเปิดอ่านดูจึงเขียนข้อความให้ใหม่ว่า " (เวลานี้อยู่ใต้เมือง) ณ สวนนี้มีมะม่วงมะนาวพูดได้ชาวพื้นเมืองเรียกมะม่วงรู้หาวได้พบปะกับนางกางฮีมอบหนังสือให้ได้เสียเป็นผัวเมียกันครอบราชสมบัติเมืองหลวงพระบางจนสิ้นพระชนม์กลายเป็นภูเขา 2 ลูก เรียกภูท้าวภูนางเรียกป่าช้าหนองเงินภูนางนั้นเป็นรูปผู้หญิงนอนมีศีรษะคอหน้าอกและมีสระอยู่ 3 สระมีเกาะแก่งอันตรายร้ายแรงมากมาย เช่นผาย่าเฒ่าใต้ปากทาเล่าว่า ล่องเรืองมาเรือล่มจมน้ำตาย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
"นับแต่ขุนบูลมลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปีขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปีก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวาที่เชียงดงเชียงทองอันเจ้ารัสสี (ฤาษี) แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแลยามนั้นข่ากันฮางปู่มัน ขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคาจึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แลอันนั้นแม่นข่ากันฮางแล

ยังมีคนชุมหนึ่งแม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อพ่อเขานั้นเป็นคนเอากันเป็นผัวเมียจึงมีลูกเขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้นชื่อขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทองบุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้ อันเฮาว่าขึงมวกบัดนี้แลบ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขาขุนลอจุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็เอารี้พลมาฮอดท้านขันหั้นขุนลอก็ไปเลวได้ชนกันขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไปก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวด เชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแลแต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทองแล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นดินหั้นแล "

ตามข้อความข้างบนแสดงว่าเมืองชะวานั้นมีชนชาติข่านามว่ากันฮางตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อนเมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก็ขับไล่พวกข่ากันฮางไปอยู่ตามป่าตามภูเขาภูคาเป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้ 2 พี่น้องผู้พี่ขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเป็นโอรสของนางกางฮีผีเสื้อมีบิดาเป็นมนุษย์ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด (ขี้มวกหรือขึงมวก) ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไป โดยเอา "งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาคเอาสบคานและน้ำของก้ำ (เฉียง) เหนือเป็นหัวนาคจึงได้ชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาคเพื่อดังนั้นอันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิตจึงเรียกว่าเมืองล้านช้างเพื่ออั้นแล"

เมืองหลวงพระบางจึงมีหลายชื่อชาวลาวปัจจุบันนิยมเรียกชื่อเดียวว่าเมืองหลวงพระบางหมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อพ.ศ 2414 ได้เขียนไว้ว่า "เมืองหลวงพระบางนี้มีลักษณะมั่นคงกว่าหัวเมืองไทยทั้งหลายที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองต่างจากเมืองลาวทั้งปวงพลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมืองทำเลการทำนาก็อยู่ห่างไกลเมืองออกไป ลำน้ำแม่คานไหลผ่านตัวเมืองออกไปบรรจบแม่น้ำโขงมีสถูปเจดีย์อยู่บนยอดเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขงมีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุต "

ตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้นเล่าว่าเดิมเมืองหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองผีเสื้อหรือยักษ์มีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อนันทาเมียชื่อมหาเทวีลูกลาวชื่อนางกางฮี (นางเมรี) เขาเจ้าผัวนางตายก่อนเมีย เจ้าพุทธเสน (พระรถ) มาเอานางกางฮีเป็นเมียมีลูกชายผู้หนึ่งชื่อท้าวพิสีมีลูกหญิงผู้หนึ่งชื่อนางพิไสย

ผู้เฒ่าชาวเมืองหลวงพระบางเล่าให้ฟังว่าบิดาของนางกางฮีจำแลงกายไปท่องเที่ยวไปพบหนุ่มน้อยเจ้าพุทธเสนเข้าอยากให้ธิดาของตนลิ้มรสเนื้อมนุษย์จึงลวงให้เจ้าพุทธเสนไปบ้านเมืองของตน "ถ้าไปถึงกลางวันให้กินกลางวันถ้าถึงกลางคืนจงกินกลางคืน" ปิดผนึกมอบให้เจ้าพุทธเสนเดินทางไปหาลูกลาวของตนเจ้าพุทธเสนเอาจดหมายผูกติดเชือกแขวนคอแล้วเดินทางรอนแรมขึ้นเขาข้ามห้วยลำธานอด ๆ อยาก ๆ ณภูเขาลูกหนึ่งเรียกว่ผาตัดแก้ (เวลานี้เรียกกับแก้อยู่ใต้หลวงพระบาง) ก็นอนหลับไปเทพารักษ์รักษาป่าถิ่นนั้นมาเห็นจดหมายผูกแขวนไว้ที่คอของเจ้าพุทธเสนก็สงสัยจึงลอบเปิดอ่านดู จึงเขียนข้อความให้ใหม่ว่า "ไปถึงกลางวันหรือกลางคืนให้เอาเฮ็ดผัว" ครั้นเจ้าพุทธเสนตื่นขึ้นมาเดินทางเข้าต่อไปถึงสวนแถน (เวลานี้อยู่ใต้เมือง) ณสวนนี้มีมะม่วงมะนาวพูดได้ชาวพื้นเมืองเรียกมะม่วงรู้หาว ได้พบปะกับนางกางฮีมอบหนังสือให้ได้เสียเป็นผัวเมียกันครอบราชสมบัติเมืองหลวงพระบางจนสิ้นพระชนม์กลายเป็นภูเขา 2 ลูกอยู่ฝั่งเชียงแมนซึ่งตรงกันข้ามกับหลวงพระบางเรียกภูท้าวภูนาง เรียกป่าช้าหนองเงินภูนางนั้นเป็นรูปผู้หญิงนอนมีศีรษะคอหน้าอกและมีสระอยู่ 3 สระชาวพื้นเมืองนับถือกันมากไม่มีผู้ใดกล้าไปตัดฟันต้นไม้หรือขุดดิน

ามแม่น้ำโขงนับจากใต้เมืองห้วยทรายลงมายังเมืองหลวงพระบางและใต้หลวงพระบางลงไปสุดแดนของแขวงนี้มีเกาะแก่งอันตรายร้ายแรงมากมายแต่ละแก่งมีชื่อและประวัตินิยายอันน่ากลัวเช่นผาย่าเฒ่าใต้ปากทา เล่าว่าแม่เฒ่าชาวข่ามุจะไปเมืองหลวงพระบางล่องเรืองมาเรือล่มจมน้ำตายกลายเป็นหินรูปหินย่าเฒ่าอยู่ตรงนั้นตราบจนบัดนี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
"นับแต่ขุนบูลมลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปีขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปีก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวาที่เชียงดงเชียงทองอันเจ้ารัสสี(ฤาษี)แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแลยามนั้นข่ากันฮางปู่มันขุนลอจึงมาเลวแป้(รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคา จึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แลอันนั้นแม่นข่ากันฮางแล
ตามมาตรฐาน
ยังมีคนชุมหนึ่งแม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อพ่อเขานั้นเป็นคนเอากันเป็นผัวเมียจึงมีลูกเขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้นชื่อขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทองบุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้อันเฮาว่าขึงมวกบัดนี้แลบ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขาขุนลอจุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็เอารี้พลมาฮอดทขุนลอก็ไปเลวได้ชนกันขุนลอก็เลวแป้(รบชนะ)ไล่ไปก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวดเชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแลแต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทอง แล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นด "

ตามข้อความข้างบนแสดงว่าเมืองชะวานั้นมีชนชาติข่านามว่ากันฮางตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อนเมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก็ขับไล่พวกข่ ตามภูเขาภูคา เป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้2 พี่น้องผู้พี่ขุนเค็ดผู้น้องชื่อขุนคานเป็นโอรสของนางกางฮีผีเสื้อมีบิดาเป็นมนุษย์ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด(ขี้มวกหรือขึงมวก)ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไปโดยเอา"งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาคเอาสบคานและน้ำของก้ำ(เฉียง)เหนือเป็นหัวนาคจึงได้ชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาคเพื่อดังนั้นอันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิตจึงเรียกว่าเมืองล้านช้างเพื่ออั้นแล"

เมืองหลวงพระบางจึงมีหลายชื่อชาวลาวปัจจุบันนิยมเรียกชื่อเดียวว่าเมืองหลวงพระบางหมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อพ.ศ..2414 ได้เขียนไว้ว่า"เมืองหลวงพระบางนี้มีลักษณะมั่นคงกว่าหัวเมืและเป็นเมืองต่างจากเมืองลาวทั้งปวงพลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมืองทำเลการทำนาก็อยู่ห่างไกลเมืองออกไปเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขงมีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุตใน Tropical มีสถูปเจดีย์อยู่บนยอดลำน้ำแม่คานไหลผ่านตัวเมืองออกไปบรรจบแม่น้ำ
ตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้นเล่าว่าเดิมเมืองหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองผีเสื้อหรืมีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อนันทาเมียชื่อมหาเทวีลูกลาวชื่อนางกางฮี(นางเมรี)เขาเจ้าผัวนางตายก่อนเมียเจ้าพุทธเสน(พระรถ)มาเอานางกางฮีเป็นเมียมีลูกชายผู้หนึ่งชื่อท้าวพิสีมีลูกหญิงผู้หนึ่งชื่อนางพิไสย
ตามมาตรฐาน
ผู้เฒ่าชาวเมืองหลวงพระบางเล่าให้ฟังว่าบิดาของนางกางฮีจำแลงกายไปท่องเที่ยวไปพบหนุ่มน้อยเจ้าพุทธเสนเข้าอยากให้ธิดาของตนลิ้มรสเนื้อมนุษย์จึงลวงให้เจ้าพุทธเสนไปบ้านเมืองของตน"ถ้าไปถึงกลางวันให้กินกลางวันถ้าถึงกลางคืนจงกินกลางคืน"ปิดผนึกมอบให้เจ้าพุทธเสนเดินทางไปหาลูกลาวขเจ้าพุทธเสนเอาจดหมายผูกติดเชือกแขวนคอแล้วเอดๆอยากๆณ ภูเขาลูกหนึ่งเรียกว่ ผาตัดแก้(เวลานี้เรียกกับแก้อยู่ใต้หลวงพระบาง)ก็นอนหลับไปเทพารักษ์รักษาป่าถิ่นนั้นมาเห็นจดหมายผูกแขก็สงสัยจึงลอบเปิดอ่านดูจึงเขียนข้อความให้ใหม่ว่า"ไปถึงกลางวันหรือกลางคืนให้เอาเฮ็ดผัว"ครั้นเจ้าพุทธเสนตื่นขึ้นมาเดินทางเข้าต่อไป(เวลานี้อยู่ใต้เมือง)ณสวนนี้มีมะม่วงมะนาวพูดได้ชาวพื้นเมืองเรียกมะม่วงรู้หาวได้พบปะกับนางกางฮีมอบหนังสือให้ได้เสียเป็นผัวเมียกันครอบราชสมบัติเมืองหลวงพระบางจนสิ้นพระชนม์ กลายเป็นภูเขา 2 ลูกอยู่ฝั่งเชียงแมนซึ่งตรงกันข้ามกับหลวงพระบา เรียกภูท้าว ภูนางเรียกป่าช้าหนองเงิน ภูนางนั้นเป็นรูปผู้หญิงนอน มีศีรษะคอหน้าอกและมีสระอยู่ชาวพื้นเมืองนับถือกันมากไม่มีผู้ใดกล้าไปตั 3 สระ
ามแม่น้ำโขงนับจากใต้เมืองห้วยทรายลงมายังเมและใต้หลวงพระบางลงไปสุดแดนของแขวงนี้มีเกาะแก่งอันตรายร้ายแรงมากมายแต่ละแก่งมีชื่อและประวัตินิยายอันน่ากลัวเช่นผาย่าเฒ่าใต้ปากทาเล่าว่าแม่เฒ่าชาวข่ามุจะไปเมืองหลวงพระบางล่องเรืองมาเรือล่มจมน้ำตายกลายเป็นหินรูปหินย่าเฒ่าอยู่ตรงนั้นตราบจนบ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: