Turmeric is a plant. You probably k

Turmeric is a plant. You probably know turmeric as the main spice in curry. It has a warm, bitter taste and is frequently used to flavor or color curry powders, mustards, butters, and cheeses. But the root of turmeric is also used widely to make medicine.
Turmeric is used for arthritis, heartburn (dyspepsia), stomach pain, diarrhea, intestinal gas, stomachbloating, loss of appetite, jaundice, liver problems and gallbladder disorders.
It is also used for headaches, bronchitis, colds, lung infections, fibromyalgia, leprosy, fever, menstrual problems, and cancer. Other uses include depression, Alzheimer’s disease, water retention, worms, and kidney problems.
Some people apply turmeric to the skin for pain, ringworm, bruising, leech bites, eye infections, inflammatory skin conditions, soreness inside of the mouth, and infected wounds.
In food and manufacturing, the essential oil of turmeric is used in perfumes, and its resin is used as a flavor and color component in foods.
Curcumin is also a powerful antioxidant. Antioxidants scavenge molecules in the body known as free radicals, which damage cell membranes, tamper with DNA, and even cause cell death. Antioxidants can fight free radicals and may reduce or even help prevent some of the damage they cause.
In addition, curcumin lowers the levels of two enzymes in the body that cause inflammation. It also stops platelets from clumping together to form blood clots.


Research suggests that turmeric may be helpful for the following conditions:
Indigestion or Dyspepsia
Curcumin stimulates the gallbladder to produce bile, which some people think may help improve digestion. The German Commission E, which determines which herbs can be safely prescribed in Germany, has approved turmeric for digestive problems. And one double-blind, placebo-controlled study found that turmeric reduced symptoms of bloating and gas in people suffering from indigestion.
Ulcerative colitis
Turmeric may help people with ulcerative colitis stay in remission. Ulcerative colitis is a chronic disease of the digestive tract where symptoms tend to come and go. In one double-blind, placebo-controlled study, people whose ulcerative colitis was in remission took either curcumin or placebo, along with conventional medical treatment, for 6 months. Those who took curcumin had a significantly lower relapse rate than those who took placebo.
Stomach Ulcers
Turmeric does not seem to help treat stomach ulcers. In fact, there is some evidence that it may increase stomach acid, making existing ulcers worse. (See "Precautions" section.)


Osteoarthritis
Because of turmeric's ability to reduce inflammation, researchers have wondered if it may help relieve osteoarthritis pain. One study found that people using an Ayurvedic formula of herbs and minerals with turmeric, winter cherry (Withinia somnifera), boswellia (Boswellia serrata), and zinc had less pain and disability. But it's impossible to know whether turmeric, one of the other supplements, or all of them together, was responsible for the effects.
Heart Disease
Early studies suggested that turmeric may help prevent atherosclerosis, the buildup of plaque that can block arteries and lead to heart attack or stroke. In animal studies, an extract of turmeric lowered cholesterol levels and kept LDL (bad) cholesterol from building up in blood vessels. Because it stops platelets from clumping together, turmeric may also prevent blood clots from building up along the walls of arteries. But a double-blind, placebo-controlled study found that taking curcumin, the active ingredient in turmeric, at a dose of up to 4 g per day did not improve cholesterol levels.

Cancer
There has been a great deal of research on turmeric's anti-cancer properties, but results are still very preliminary. Evidence from test tube and animal studies suggests that curcumin may help prevent or treat several types of cancers, including prostate, breast, skin, and colon cancer. Tumeric's preventive effects may relate to its antioxidant properties, which protect cells from damage. More research is needed. Cancer should be treated with conventional medications. Don't use alternative therapies alone to treat cancer. If you choose to use complementary therapies along with your cancer treatment, make sure you tell all your doctors.

Uveitis
A preliminary study suggests curcumin may help treat uveitis, an inflammation of the eye's iris. Preliminary research suggests that curcumin may be as effective as corticosteroids, the type of medication usually prescribed. More research is needed.

Neurodegenerative Conditions
Tumeric's powerful antioxidant, anti-inflammatory, and circulatory effects may help prevent and treat neurodegenerative diseases, including Alzheimer disease, Parkinson disease, multiple sclerosis, and other conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขมิ้นเป็นพืช คุณคงทราบว่าขมิ้นเป็นเครื่องเทศหลักในแกง มันมีรสขม อบอุ่น และมักใช้ผงกะหรี่รสหรือสี mustards, butters และเนยแข็ง แต่รากของขมิ้นยังใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อทำยาขมิ้นใช้สำหรับโรคไขข้ออักเสบ จุกเสียด (แบคทีเรีย), ปวดท้อง ท้องเสีย แก๊สในลำไส้ stomachbloating สูญเสียความอยากอาหาร jaundice ตับ และถุงน้ำดีผิดปกตินอกจากนี้ยังใช้สำหรับอาการปวดหัว โรคหลอดลมอักเสบ colds ปอดติดเชื้อ fibromyalgia, leprosy ไข้ ปัญหาประจำเดือน และโรคมะเร็ง การใช้งานอื่น ๆ รวมถึงภาวะซึมเศร้า โรคอัลไซเมอร์ รักษาน้ำ หนอน และปัญหาเกี่ยวกับไตบางคนใช้ขมิ้นผิวสำหรับอาการปวด ชาสมุนไพร ช้ำ ทากกัด ติดตา สภาพผิวอักเสบ มีอาการเจ็บภายในปาก และแผลติดเชื้อในอาหารและการผลิต มีใช้น้ำมันหอมระเหยของขมิ้นในน้ำหอม และเรซิ่นที่ใช้เป็นส่วนประกอบรสและสีในอาหารเคอร์คูมินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ สารต้านอนุมูลอิสระ scavenge โมเลกุลในร่างกายที่เรียกว่าอนุมูลอิสระ การทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ ยุ่งเกี่ยวกับดีเอ็นเอ และก่อให้เกิดเซลล์ตาย สารต้านอนุมูลอิสระสามารถต่อสู้กับอนุมูลอิสระ และอาจลด หรือแม้กระทั่งช่วยป้องกันของเสียที่เกิดนอกจากนี้ เคอร์คูมินช่วยลดระดับของเอนไซม์ในร่างกายสองที่ทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้มันยังหยุดเกล็ดเลือดจาก clumping ร่วมกันเพื่อฟอร์มเลือด clotsงานวิจัยแนะนำว่า ขมิ้นอาจจะมีประโยชน์สำหรับเงื่อนไขต่อไปนี้:อาหารไม่ย่อยหรือแบคทีเรียเคอร์คูมินกระตุ้นถุงน้ำดีในการผลิตน้ำดี คิดว่าคนบางที่อาจช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร เยอรมันเสริม E ซึ่งกำหนดสมุนไพรซึ่งสามารถมีกำหนดอย่างปลอดภัยในเยอรมนี ได้อนุมัติขมิ้นสำหรับปัญหาทางเดินอาหาร และหนึ่งคู่คนตาบอด การควบคุม ด้วยยาหลอกการศึกษาพบว่า ขมิ้นลดอาการของ bloating และในคนที่ทุกข์ทรมานจากอาหารไม่ย่อยUlcerative colitisขมิ้นอาจช่วยคนน่า ulcerative colitis ในปลด Ulcerative colitis เป็นโรคเรื้อรังของระบบทางเดินอาหารซึ่งอาการมักจะ มา ในหนึ่งคู่คนตาบอด การควบคุม ด้วยยาหลอกการศึกษา คน colitis ulcerative ถูกปลดเอาเคอร์คูมินหรือยาหลอก พร้อมแพทย์แซลมอน 6 เดือน คนที่เอาเคอร์คูมินมีอัตราการกลับไปเสพที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าผู้ที่ใช้ยาหลอกแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารขมิ้นไม่ได้ดูเหมือนจะ ช่วยรักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร ในความเป็นจริง มีหลักฐานบางอย่างที่มันอาจเพิ่มกรดกระเพาะอาหาร แผลเปื่อยอยู่ทำเลว (ดูส่วน "ข้อควรระวัง")โรคข้อเข่าเสื่อมเนื่องจากความสามารถของขมิ้นเพื่อลดการอักเสบ นักวิจัยได้สงสัยว่า ถ้า มันอาจช่วยบรรเทาอาการปวดของโรคข้อเข่าเสื่อม การศึกษาหนึ่งพบว่า คนที่ใช้เป็นสูตรแบบอายุรเวทของสมุนไพรและแร่ธาตุกับขมิ้น หนาวเชอร์รี่ (Withinia somnifera), boswellia (ตาเทอร์เรซ Boswellia), และสังกะสีมีน้อยความเจ็บปวดและความพิการ แต่ไม่รู้ว่า ขมิ้น อาหารเสริมอื่น ๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งหมดด้วยกัน เป็นผู้รับผิดชอบผลโรคหัวใจศึกษาก่อนแนะนำว่า ขมิ้นอาจช่วยป้องกันหลอดเลือด โลหิตของหินปูนที่สามารถบล็อกหลอดเลือดแดง และทำให้หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ในการศึกษาสัตว์ การสกัดขมิ้นลดลงระดับไขมัน และเก็บ LDL ไขมัน (ไม่ดี) จากการสร้างขึ้นในหลอดเลือด เนื่องจากเกล็ดเลือดจาก clumping ร่วมกันหยุดมัน ขมิ้นอาจยังป้องกันเลือด clots สร้างตามผนังของหลอดเลือดแดง แต่การศึกษาคนตาบ อดสอง ควบคุม ด้วยยาหลอกพบว่า การเคอร์ ส่วนประกอบ ขมิ้นในปริมาณ 4 กรัมต่อวันได้ไม่เพิ่มระดับไขมันโรคมะเร็งได้มีการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติต้านมะเร็งของขมิ้นมาก แต่ยังเป็นผลลัพธ์เบื้องต้นมาก หลักฐานจากหลอดทดสอบและศึกษาสัตว์แนะนำเคอร์คูมินที่อาจช่วยป้องกัน หรือรักษามะเร็ง มะเร็งต่อมลูกหมาก เต้านม ผิว และลำไส้ใหญ่รวมหลายชนิด ลักษณะการป้องกันของ Tumeric อาจเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การปกป้องเซลล์จากความเสียหาย วิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น ควรจะรักษาโรคมะเร็ง ด้วยยาทั่วไป ไม่ใช้เลือกการรักษาเพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาโรคมะเร็ง ถ้าคุณเลือกที่จะใช้การรักษาเสริมกับการรักษามะเร็ง ให้แน่ใจว่า คุณบอกว่า แพทย์ของคุณม่านตาอักเสบการศึกษาเบื้องต้นแนะนำเคอร์คูมินอาจช่วยรักษาม่านตาอักเสบ การอักเสบของตาไอริส การวิจัยเบื้องต้นแนะนำเคอร์คูมินที่อาจมีผลที่ corticosteroids มักจะกำหนดชนิดของยา วิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเงื่อนไข Neurodegenerativeของ Tumeric มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และระบบไหลเวียนโลหิตผลอาจช่วยป้องกัน และรักษาโรค neurodegenerative ไซเมอร์โรค พาร์กินโรค เส้นโลหิตตีบหลาย และเงื่อนไขอื่น ๆ ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขมิ้นเป็นพืช คุณอาจจะรู้ว่าขมิ้นเป็นเครื่องเทศหลักในแกง แต่ก็มีความอบอุ่นรสขมและมักจะถูกใช้เพื่อรสชาติหรือสีผงกะหรี่ Mustards, เนย, และชีส แต่รากของขมิ้นยังใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อให้ยา.
ขมิ้นถูกนำมาใช้สำหรับโรคอิจฉาริษยา (อาการอาหารไม่ย่อย) อาการปวดท้องท้องเสียก๊าซลำไส้ stomachbloating สูญเสียความกระหายดีซ่านปัญหาเกี่ยวกับตับและโรคถุงน้ำดี.
นอกจากนี้ยังใช้ สำหรับอาการปวดหัว, โรคหลอดลมอักเสบหวัด, การติดเชื้อปอด fibromyalgia โรคเรื้อนไข้ปัญหาประจำเดือนและมะเร็ง การใช้งานอื่น ๆ ได้แก่ ภาวะซึมเศร้าและโรคอัลไซเมกักเก็บน้ำ, เวิร์มและปัญหาไต.
บางคนใช้ขมิ้นเพื่อผิวสำหรับอาการปวดเกลื้อนช้ำกัดปลิงติดเชื้อที่ตา, สภาพผิวอักเสบรุนแรงภายในของปากและแผลติดเชื้อ .
ในอาหารและการผลิตน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นถูกนำมาใช้ในน้ำหอมและเรซินของมันจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบรสชาติและสีในอาหาร.
Curcumin ยังเป็นสารที่มีประสิทธิภาพ สารต้านอนุมูลอิสระไล่โมเลกุลในร่างกายที่เรียกว่าอนุมูลอิสระซึ่งความเสียหายของเซลล์เยื่อ, ยุ่งเกี่ยวกับดีเอ็นเอและยังก่อให้เกิดการตายของเซลล์ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถต่อสู้กับอนุมูลอิสระและอาจลดหรือแม้กระทั่งช่วยป้องกันไม่ให้บางส่วนของความเสียหายที่พวกเขาทำให้เกิด.
นอกจากนี้ขมิ้นชันช่วยลดระดับของทั้งสองเอนไซม์ในร่างกายที่ทำให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังหยุดเกล็ดเลือดจาก clumping กันแบบเลือดอุดตัน. การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขมิ้นอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับเงื่อนไขต่อไปนี้ไม่ย่อยหรืออาการอาหารไม่ย่อยCurcumin ช่วยกระตุ้นถุงน้ำดีในการผลิตน้ำดีที่บางคนคิดว่าอาจจะช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร เยอรมันคณะกรรมาธิการอีซึ่งกำหนดสมุนไพรสามารถกำหนดได้อย่างปลอดภัยในประเทศเยอรมนีได้มีมติอนุมัติขมิ้นสำหรับปัญหาทางเดินอาหาร และเป็นหนึ่งในแบบ double-blind ศึกษา placebo-controlled ขมิ้นพบว่าอาการที่ลดลงของท้องอืดและก๊าซในคนที่ทุกข์ทรมานจากการย่อย. ลำไส้ใหญ่ขมิ้นอาจช่วยให้คนที่มีอาการลำไส้ใหญ่บวม ulcerative เข้าพักในการให้อภัย ลำไส้ใหญ่เป็นโรคเรื้อรังของระบบทางเดินอาหารที่มีอาการมักจะไปไหนมาไหน หนึ่งใน double-blind ศึกษา placebo-controlled, คนที่มีลำไส้ใหญ่เป็นในการให้อภัยเอาทั้งขมิ้นชันหรือยาหลอกร่วมกับการรักษาพยาบาลทั่วไปเป็นเวลา 6 เดือน ผู้ที่เอาขมิ้นชันมีอัตราการกำเริบของโรคต่ำกว่าผู้ที่เอายาหลอก. กระเพาะอาหารแผลขมิ้นไม่ได้ดูเหมือนจะช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในความเป็นจริงมีหลักฐานบางอย่างที่อาจจะเพิ่มขึ้นกรดในกระเพาะอาหารทำให้แผลที่มีอยู่แย่ลง (ดู "ข้อควรระวัง" ส่วน.) โรคข้อเข่าเสื่อมเพราะความสามารถของขมิ้นเพื่อลดการอักเสบนักวิจัยสงสัยว่ามันอาจจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อเข่าเสื่อม การศึกษาพบว่าคนที่ใช้สูตรอายุรเวทของสมุนไพรและแร่ธาตุด้วยขมิ้น, เชอร์รี่ในช่วงฤดูหนาว (Withinia somnifera) Boswellia (Boswellia serrata) และสังกะสีมีความเจ็บปวดน้อยลงและความพิการ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าขมิ้นซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ หรือทั้งหมดของพวกเขาร่วมกันรับผิดชอบผลกระทบ. โรคหัวใจก่อนการศึกษาชี้ให้เห็นว่าขมิ้นอาจช่วยป้องกันหลอดเลือดสะสมของคราบจุลินทรีย์ที่สามารถป้องกันหลอดเลือดแดงและนำไปสู่หัวใจการโจมตีหรือโรคหลอดเลือดสมอง ในการศึกษาสัตว์สารสกัดจากขมิ้นลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และเก็บไว้ (ไม่ดี) คอเลสเตอรอลจากการสร้างขึ้นในหลอดเลือด เพราะมันหยุดเกล็ดเลือดจาก clumping กันขมิ้นอาจป้องกันไม่ให้เลือดอุดตันจากการสร้างขึ้นตามผนังของหลอดเลือดแดง แต่ double-blind ศึกษา placebo-controlled พบว่าการ curcumin, สารออกฤทธิ์ในขมิ้น, ขนาดไม่เกิน 4 กรัมต่อวันไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล. มะเร็งมีการจัดการที่ดีของการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันขมิ้นของคุณสมบัติมะเร็ง แต่ผลยังคงเบื้องต้นมาก หลักฐานจากหลอดทดลองและสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่า curcumin อาจช่วยป้องกันหรือรักษาหลายประเภทของการเกิดโรคมะเร็งรวมทั้งต่อมลูกหมากเต้านม, ผิวหนังและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผลกระทบของการป้องกันขมิ้นอาจเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งปกป้องเซลล์จากความเสียหาย จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม มะเร็งควรจะได้รับการรักษาด้วยยาธรรมดา อย่าใช้การรักษาทางเลือกเพียงอย่างเดียวในการรักษามะเร็ง หากคุณเลือกที่จะใช้การรักษาที่สมบูรณ์พร้อมกับการรักษาโรคมะเร็งของคุณให้แน่ใจว่าคุณบอกแพทย์ทั้งหมดของคุณ. Uveitis การศึกษาเบื้องต้นแสดงให้เห็น curcumin อาจช่วยรักษา uveitis, การอักเสบของม่านตาของตา การวิจัยเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า curcumin อาจจะเป็นผลเป็น corticosteroids ชนิดของยาที่กำหนดมักจะ จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม. สภาพทางระบบประสาทสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพของขมิ้น, ต้านการอักเสบและผลกระทบที่อาจจะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทรวมทั้งโรคอัลไซเมโรคพาร์กินหลายเส้นโลหิตตีบและเงื่อนไขอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขมิ้นเป็นพืช คุณอาจจะรู้ว่า ขมิ้นเป็นเครื่องเทศหลักในแกง มันอบอุ่น รสชาติขม และมักถูกใช้เพื่อรสหรือผงแกงสีมัสตาร์ดโดยเนยและชีส . แต่รากขมิ้นยังใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อให้ยา
ขมิ้นใช้สำหรับโรคข้ออักเสบ , อาการจุกเสียด ( อาหารไม่ย่อย ) อาการปวดท้อง ท้องเสีย ลำไส้ แก๊ส stomachbloating , การสูญเสียความกระหาย , โรคดีซ่านปัญหาความผิดปกติของตับและถุงน้ำดี
นอกจากนี้ยังใช้สำหรับอาการปวดหัว , โรคหลอดลมอักเสบ หวัด ปอดติดเชื้อ , fibromyalgia , เรื้อน , ไข้ , ปัญหาการมีประจำเดือนและมะเร็ง ใช้อื่น ๆรวมถึงภาวะซึมเศร้า , โรค ชะลอการไหลของน้ำ หนอน และปัญหาไต .
บางคนใช้ขมิ้นกับผิวสำหรับความเจ็บปวด , กลาก , bruising , ปลิงกัด เชื้อตา , เงื่อนไขการอักเสบผิวมีอาการเจ็บภายในปากและแผลติดเชื้อ
ในอาหารและผลิตน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นที่ใช้ในน้ำหอม และ เรซิน ใช้เป็นส่วนประกอบในรสชาติและสีอาหาร ที่สำคัญยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
. สารต้านอนุมูลอิสระกรองโมเลกุลในร่างกายที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ยุ่งกับดีเอ็นเอ และอาจทำให้เซลล์ตายได้สารต้านอนุมูลอิสระช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดหรือแม้กระทั่งช่วยป้องกันบางส่วนของความเสียหายที่พวกเขาก่อให้เกิด
นอกจากนี้ ขมิ้นชันช่วยลดระดับของเอนไซม์ในร่างกายที่ก่อให้เกิดการอักเสบ มันยังหยุดเกล็ดเลือดจาก clumping ร่วมกันเพื่อฟอร์ม clots เลือด


การวิจัยชี้ให้เห็นว่าขมิ้นอาจเป็นประโยชน์สำหรับเงื่อนไขต่อไปนี้ :

หรือ อาหารไม่ย่อย ท้องอืดขมิ้นชันจะช่วยกระตุ้นให้ถุงน้ำดีเพื่อผลิตน้ำดี ซึ่งบางคนคิดว่าอาจช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร เยอรมันคณะกรรมาธิการ E ซึ่งกำหนดสมุนไพรได้อย่างปลอดภัย ตามที่กำหนดใน เยอรมนีได้อนุมัติขมิ้นสำหรับปัญหาการย่อยอาหาร และอีกหนึ่งที่สำคัญ และพบว่า ขมิ้น ลดอาการท้องอืด และก๊าซในคนทุกข์ทรมานจากอาการอาหารไม่ย่อย .
ลำไส้ใหญ่
ขมิ้นอาจช่วยให้ผู้คนกับลำไส้ใหญ่อยู่ในการให้อภัย ลำไส้ใหญ่เป็นโรคเรื้อรังของทางเดินอาหาร ซึ่งอาการมักจะมาและไป ในเมือง และการศึกษา คนที่มี ulcerative colitis คือการให้อภัยในเอาทั้งขมิ้นชันหรือยาหลอก พร้อมกับการรักษาทางการแพทย์ตามปกติ เป็นเวลา 6 เดือนผู้ที่เอาขมิ้นชันได้ลดอัตราการกำเริบของโรคมากกว่าผู้ที่เอายาหลอก แผลกระเพาะขมิ้นชัน

ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในความเป็นจริง มีหลักฐานบางอย่างที่อาจเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้แผลที่มีอยู่แย่ลง ( ดู " ข้อควรระวัง " ส่วน )



เพราะโรคของขมิ้นสามารถลดการอักเสบนักวิจัยสงสัยว่า มันอาจช่วยบรรเทาอาการปวด การศึกษาหนึ่งพบว่า คนที่ใช้สูตรอายุรเวทของสมุนไพรและแร่ธาตุที่มีขมิ้น , เชอร์รี่ฤดูหนาว ( withinia somnifera ) boswellia ( บอ ิเลีย เซอร์ราตา ) และสังกะสีมีความเจ็บปวดน้อยลงและความพิการ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าขมิ้นเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆหรือทั้งหมดของพวกเขาเข้าด้วยกันเป็นผู้รับผิดชอบผล .
โรคหัวใจ
ก่อนการศึกษาพบว่าขมิ้นอาจช่วยป้องกันหลอดเลือด buildup ของคราบจุลินทรีย์ที่สามารถป้องกันหลอดเลือดแดงและนำไปสู่หัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง ในการศึกษาสัตว์ , สารสกัดจากขมิ้น ลดระดับคอเลสเตอรอล และเก็บ LDL ( ไม่ดี ) คอเลสเตอรอลจากการสร้างขึ้นในหลอดเลือด เพราะมันหยุดเกล็ดเลือดจาก clumping ร่วมกันขมิ้นสามารถป้องกันเส้นเลือดอุดตันจากการสร้างขึ้นตามผนังของหลอดเลือดแดง แต่ที่สำคัญ และพบว่า ถ่ายคิวมินส่วนประกอบในขมิ้นชันในขนาดได้ถึง 4 กรัมต่อวัน ไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล มะเร็ง


มีการจัดการที่ดีของการวิจัยในคุณสมบัติต้านมะเร็งขมิ้น แต่ผลยังคงเป็นเบื้องต้นหลักฐานจากหลอดทดลองและสัตว์การศึกษาแสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันอาจช่วยป้องกันหรือรักษาโรคหลายประเภทของโรคมะเร็ง ได้แก่ ต่อมลูกหมาก เต้านม ผิวหนัง และมะเร็งลำไส้ ขมิ้นชันคือการป้องกันผลอาจเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น มะเร็งควรรักษาด้วยยาตามปกติ