Inventories have a significant effe

Inventories have a significant effect on profits. A business that makes or buys goods to sell must keep track of inventories of goods under all accounting and income tax rules. An example illustrates why. Fred buys auto parts and resells them. In 2008, Fred buys $100 worth of parts. He sells parts for $80 that he bought for $30, and has $70 worth of parts left. In 2009, he sells the remainder of the parts for $180. If he keeps track of inventory, his profit in 2008 is $50, and his profit in 2009 is $110, or $160 in total. If he deducted all the costs in 2008, he would have a loss of $20 in 2008 and a profit of $180 in 2009. The total is the same, but the timing is much different. Most countries' accounting and income tax rules (if the country has an income tax) require the use of inventories for all businesses that regularly sell goods they have made or bought.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คงมีผลกำไรเป็นสำคัญ ธุรกิจที่ทำ หรือซื้อสินค้าไปขายต้องเก็บติดตามของสินค้าคงคลังของสินค้าภายใต้กฎทางบัญชีและภาษีทั้งหมด ตัวอย่างการแสดงเหตุผล Fred ซื้ออะไหล่ และ resells พวกเขา ใน 2008, Fred ซื้อ $100 มูลค่าของชิ้นส่วน เขาขายชิ้นส่วนสำหรับ $80 ที่เขาซื้อในราคา $30 และมี $70 มูลค่าส่วนซ้าย ในปี 2552 เขาขายส่วนเหลือของชิ้นส่วนสำหรับ $180 ถ้าเขาเก็บของสินค้าคงคลัง กำไรของเขาในปี 2008 เป็น $50 และกำไรของเขาในปี 2009 $110 หรือ $160 รวม ถ้าเขาหักต้นทุนทั้งหมดในปี 2008 เขาจะสูญเสีย $20 ในปี 2551 และได้กำไรของ $180 ในปี 2552 ผลรวมจะเหมือนกัน แต่ระยะเวลาจะแตกต่างกันมาก ส่วนใหญ่ประเทศกฎทางบัญชีและภาษีเงินได้ (ถ้าประเทศมีภาษีเงินได้) ต้องใช้สินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจทั้งหมดที่ขายสินค้านั้นได้ทำ หรือซื้อเป็นประจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สินค้าคงเหลือมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับผลกำไร ธุรกิจที่ทำให้หรือซื้อสินค้าที่จะขายต้องติดตามสินค้าคงคลังของสินค้าภายใต้กฎการบัญชีและภาษีรายได้ ตัวอย่างแสดงให้เห็นว่าทำไม เฟร็ดซื้อชิ้นส่วนรถยนต์และพวกเขาเป็นตัวแทนจำหน่าย ในปี 2008 เฟร็ดซื้อมูลค่า $ 100 ของชิ้นส่วน เขาขายชิ้นส่วนสำหรับ $ 80 ที่เขาซื้อราคา $ 30 และ $ 70 มูลค่าของส่วนที่เหลือ ในปี 2009 เขาขายที่เหลือของชิ้นส่วนสำหรับ $ 180 ถ้าเขาติดตามสินค้าคงคลังกำไรของเขาในปี 2008 เป็น $ 50, และกำไรของเขาในปี 2009 เป็น $ 110, $ 160 หรือรวม ถ้าเขาหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2008 เขาจะมีการสูญเสีย $ 20 ในปี 2008 และมีกำไร 180 $ ในปี 2009 ทั้งหมดจะเหมือนกัน แต่ระยะเวลาที่แตกต่างกันมาก บัญชีส่วนใหญ่ของประเทศและกฎระเบียบภาษีรายได้ (ถ้าประเทศที่มีรายได้ภาษี) ต้องใช้สินค้าคงเหลือสำหรับทุกธุรกิจที่ประจำการขายสินค้าพวกเขาได้ทำหรือซื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สินค้าคงคลังมีผลกาไร ธุรกิจที่ทำให้ หรือซื้อสินค้าที่จะขายต้องติดตามสินค้าคงคลังของสินค้าภายใต้บัญชีและกฎระเบียบภาษีรายได้ ตัวอย่างแสดงให้เห็นทำไม เฟร็ดซื้อชิ้นส่วนรถยนต์และ resells พวกเขา ใน 2008 , เฟร็ดซื้อ $ 100 มูลค่าของชิ้นส่วน เขาขายชิ้นส่วนสำหรับ $ 80 ที่เค้าซื้อมา 30 บาท และมีมูลค่า $ 70 ส่วนที่เหลือ ในปี 2009เขาขายส่วนที่เหลือของชิ้นส่วนสำหรับ $ 180 ถ้าเขาติดตามสินค้าคงคลังกำไรของเขาในปี 2008 คือ $ 50 และกำไรของเขาในปี 2009 เป็น $ 110 , หรือ $ 160 รวม ถ้าเขาหักต้นทุนทั้งหมดในปี 2008 เขาจะสูญเสีย $ 20 ใน 2008 และกำไรของ $ 180 บาท ทั้งหมดเดียวกันแต่เวลาต่างกันมากประเทศส่วนใหญ่กฎการบัญชีและภาษี ( ถ้าประเทศมีรายได้ภาษี ) ต้องใช้ของสินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำอย่างสม่ำเสมอขายสินค้าหรือซื้อ