Students reported that their scienc

Students reported that their science teacherswere themost influential factor in developing STEM
interest, a finding consistent with Microsoft Corporation (2011) reporting that more than half of
STEM college students indicated an interest in STEM derived from their secondary school science
teacher or course. The identification of science teachers is not surprising, particularly in light of the
high percentages of students reporting prior experiences with science fair projects and Science
Olympiads. More than 86 % of the respondents indicated participation in more than two, and 73 %
in more than three science fair projects prior to I-SWEEEP. High participation in these types of
projects corresponds to multiple opportunities for students to interact with their teachers after school
and in traveling to competitions together. Further, teachers would likely have provided help and
guidance as students prepared their science projects, thus providing multiple opportunities for
students to learn from their teachers via observation, imitation, and modeling, much as Bandura
(1977) posited in his social cognitive theory.
While national STEM matriculation statistics indicate that less than 33 % of high school
students matriculate in STEM-related majors (National Center for Education Statistics 2009),
about half of our respondents identified personal interests in STEM subjects as another factor
influencing their decisions to consider a major in STEM. Our findings are congruent with
Maltese and Tai’s (2011) study, which reported that a majority of students concentrating in
STEM majors had strong personal interests in mathematics and science while they were in
high school. Further, analyses in this study revealed that students who had experienced science
fairs for the first time in high school developed stronger interests in STEM areas. Maltese and
Tai’s findings also indicated that most students make their decisions about college majors in
high school, a contradiction to the general belief that students contemplate pursuit of a STEMrelated
major at earlier stages in their education (e.g., see Microsoft Corporation 2011).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนที่รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ teacherswere themost มีอิทธิพลปัจจัยในการพัฒนาเกิดดอกเบี้ย การค้นพบสอดคล้องกับ Microsoft Corporation (2011) รายงานว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของต้นกำเนิดนักเรียนแสดงความสนใจในต้นกำเนิดที่มาจากนักวิทยาศาสตร์มัธยมครูหรือหลักสูตร รหัสของครูวิทยาศาสตร์ไม่น่าแปลกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน light ของเปอร์เซ็นต์สูงของนักเรียนที่รายงานประสบการณ์ก่อน มีโครงการธรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์Olympiads กว่า 86% ของผู้ตอบที่ระบุเข้าร่วมกว่า 2 และ 73%ในสามมากกว่าวิทยาศาสตร์ยุติธรรมโครงการก่อน-SWEEEP มีส่วนร่วมสูงในประเภทนี้โครงการที่สอดคล้องกับหลายโอกาสสำหรับผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับครูของโรงเรียนและ ในการเดินทางไปแข่งขันกัน เพิ่มเติม ครูจะมีแนวโน้มให้ความช่วยเหลือ และคำแนะนำเป็นนักเรียนเตรียมโครงการวิทยาศาสตร์ของพวกเขา จึง ให้โอกาสหลายนักเรียนจะเรียนรู้จากครูของพวกเขาผ่านการสังเกต เทียม และสร้าง โมเดล ถึง Banduraposited (1977) ในทฤษฎีการรับรู้ของสังคมในขณะที่ชาติก้านเตรียมอุดมศึกษาสถิติบ่งชี้ว่า น้อยกว่า 33% ของโรงเรียนนักเรียน matriculate ในก้านเกี่ยวข้องสาขาเอก (ศูนย์แห่งชาติ 2552 สถิติการศึกษา),ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบเราระบุผลประโยชน์ส่วนบุคคลในเรื่องต้นกำเนิดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจต้องพิจารณาหลักในก้าน ผลการวิจัยของเราเป็นแผงด้วยมอลตาและของไต (2011) ศึกษา ซึ่งรายงานว่า ส่วนใหญ่นักศึกษาลสาขาเอกก้านมีผลประโยชน์ส่วนตัวแรงในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในขณะที่อยู่ในโรงเรียนมัธยม เพิ่มเติม เปิดเผยวิเคราะห์ในการศึกษานี้ที่นักเรียนที่มีประสบการณ์วิทยาศาสตร์งานแสดงครั้งแรกในโรงเรียนมัธยมพัฒนาแข็งแกร่งสนใจบริเวณก้าน มอลตา และผลการวิจัยของไทยังระบุว่า นักเรียนส่วนใหญ่ของพวกเขาตัดสินใจเกี่ยวกับวิทยาลัยสาขาเอกในมัธยมปลาย ความขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปที่นักเรียนคิดแสวงหาความ STEMrelatedสำคัญในขั้นตอนก่อนหน้านี้ในการศึกษา (เช่น ดู Microsoft Corporation 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเรียนรายงานว่าวิทยาศาสตร์ teacherswere ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการพัฒนา themost STEM
ที่น่าสนใจที่มีการหาที่สอดคล้องกับไมโครซอฟท์คอร์ปอเรชั่น (2011) รายงานว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของต้นกำเนิดนักศึกษาชี้ให้เห็นความสนใจในต้นกำเนิดมาจากวิทยาศาสตร์โรงเรียนมัธยมครูหรือแน่นอน บัตรประจำตัวของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ไม่น่าแปลกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของเปอร์เซ็นต์สูงของนักเรียนรายงานประสบการณ์ก่อนกับโครงการยุติธรรมวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์แข่ง มากกว่า 86% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุการมีส่วนร่วมในกว่าสองคนและ 73% ในรอบกว่าสามโครงงานวิทยาศาสตร์ที่เป็นธรรมก่อนที่จะมี I-SWEEEP การมีส่วนร่วมสูงในประเภทนี้ของโครงการที่สอดคล้องกับหลายโอกาสสำหรับนักเรียนที่จะโต้ตอบกับครูของพวกเขาหลังจากที่โรงเรียนและในการเดินทางไปแข่งขันด้วยกัน นอกจากนี้ครูผู้สอนมีแนวโน้มว่าจะได้ให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำที่เป็นนักเรียนเตรียมโครงงานวิทยาศาสตร์ของพวกเขาจึงให้โอกาสหลายนักเรียนที่จะเรียนรู้จากครูของพวกเขาผ่านการสังเกตการเลียนแบบและการสร้างแบบจำลองมากที่สุดเท่าที่Bandura (1977) posited ในทฤษฎีองค์ความรู้ของเขาสังคม. ขณะที่ สถิติการบวชต้นกำเนิดแห่งชาติระบุว่าน้อยกว่า 33% ของโรงเรียนมัธยมนักเรียนบวชในสาขาวิชาSTEM ที่เกี่ยวข้อง (ศูนย์แห่งชาติเพื่อการศึกษาสถิติ 2009) ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามของเราระบุความสนใจส่วนตัวในวิชา STEM เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพวกเขาที่จะต้องพิจารณาที่สำคัญใน STEM ผลการวิจัยของเราจะสอดคล้องกับมอลตาและของไท (2011) การศึกษาซึ่งมีรายงานว่านักเรียนส่วนใหญ่มุ่งเน้นในสาขาวิชาSTEM มีความสนใจส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในขณะที่พวกเขาอยู่ในโรงเรียนมัธยม นอกจากนี้การวิเคราะห์ในการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่านักเรียนที่มีประสบการณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์งานแสดงเป็นครั้งแรกในโรงเรียนมัธยมพัฒนาความสนใจมากขึ้นในพื้นที่ STEM มอลตาและค้นพบไทยังชี้ให้เห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่ในการตัดสินใจของพวกเขาเกี่ยวกับสาขาวิชาที่วิทยาลัยในโรงเรียนมัธยมที่ขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปที่นักเรียนคิดแสวงหาSTEMrelated ที่สำคัญในขั้นตอนก่อนหน้านี้ในการศึกษาของพวกเขา (เช่นเห็น Microsoft Corporation 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเวลานานที่เราไม่ค่อยได้คุยกันเป็นทางการแต่ความสัมพันธ์ของเราก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง