The twenty-first century saw the co

The twenty-first century saw the company return to independence when it was purchased from Diageo by a group of investment firms led by TPG Capital for US$1.5 billion in 2002.[16][27] The new owners rapidly moved to revitalize and reorganize the company, culminating with the company being taken public in 2006 with a highly successful initial public offering.[28][29] The firms' strategy for turning the chain around included a new advertising agency and new ad campaigns,[30][31][32] a revamped menu strategy,[33] a series of programs designed to revamp individual stores,[34] a new restaurant concept called the BK Whopper Bar,[35] and a new design format called 20/20.[35] These changes successfully re-energized the company, leading to a score of profitable quarters.[36] Yet, despite the successes of the new owners, the effects of the financial crisis of 2007–2010 weakened the company's financial outlooks while those of its immediate competitor McDonald's grew.[36][37] The falling value of Burger King eventually led to TPG and its partners divesting their interest in the chain in a US$3.26 billion sale to 3G Capital of Brazil.[38][39] Analysts from financial firms UBS and Stifel Nicolaus agreed that 3G would have to invest heavily in the company to help reverse its fortunes.[39][40] After the deal was completed, the company's stock was removed from the New York Stock Exchange, ending a four-year period as a public company.[41][42] The delisting of its stock was designed to help the company repair its fundamental business structures and continue working to close the gap with McDonald's without having to worry about pleasing shareholders.[40] In the United States domestic market, the chain has fallen to third place in terms of same store sales behind Ohio-based Wendy's. The decline is the result of 11 consecutive quarters of same store sales decline.[43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเห็นบริษัทคืนเอกราชเมื่อซื้อจากดิอาจิโอ โดยกลุ่มของบริษัทลงทุนนำ โดยทุนทีพีจีสำหรับ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน 2002 [16] [27] เจ้าของใหม่อย่างรวดเร็วย้ายไปฟื้นฟู และจัดระเบียบบริษัท สูงสุดกับบริษัทถูกนำในปี 2549 ด้วยการประสบความสำเร็จเสนอ [28] [29 กลยุทธ์ของบริษัท]สำหรับโซ่รอบรวมเป็นสื่อโฆษณาใหม่และแคมเปญโฆษณาใหม่, [30] [31] [32] กลยุทธ์เมนูที่ปรับปรุงใหม่, [33] ชุดของโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงร้าน, [34] แนวคิดร้านอาหารใหม่ที่เรียกว่าบาร์ Whopper BK, [35] และใหม่รูปแบบออกเรียกว่า 20/20 [35] เปลี่ยนแปลงเหล่านี้เสร็จเรียบร้อยแล้วใหม่มีพลังบริษัท นำคะแนนมีกำไรไตรมาสนี้ [36] ยัง แม้ความสำเร็จของเจ้าของใหม่ ผลกระทบของวิกฤตการเงิน 2007 – 2010 อ่อนแอของบริษัท outlooks เงินขณะที่คู่แข่งทันทีการเติบโตของ [36] [37] ลดลงค่าของเบอร์เกอร์คิงในที่สุดนำไปสู่ทีพีจีและพันธมิตร divesting ทางห่วงโซ่ในการขาย 3.26 ล้านเหรียญสหรัฐทุนของ 3 G ของบราซิล [38] [39] นักวิเคราะห์จากงบการเงินบริษัทยูบีเอสและ Stifel Nicolaus ตกลงว่า 3G จะต้องลงทุนมากในการช่วยย้อนความมั่งคั่ง [39] [40] หลังจากการเจรจาเสร็จสิ้น หุ้นของบริษัทถูกเอาออกจากนิวยอร์กทรัพย์ สิ้นสุดระยะเวลา 4 ปีเป็นบริษัทมหาชน [41] [42]ตลาดหุ้นถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทซ่อมแซมโครงสร้างของธุรกิจ และทำงานเพื่อปิดช่องว่างกับของ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นที่ชื่นชอบต่อไป [40] ในตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา โซ่ได้ลดลงการแข่งขันในแง่ของการขายของร้านเดียวกันหลังจากโอไฮโอของเวนดี้ ลดลงเป็นผลของเศษติดต่อกัน 11 ปฏิเสธขายร้านเดียวกัน [43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด บริษัท เห็นกลับไปเป็นอิสระเมื่อมันถูกซื้อมาจากดิอาจิโอโดยกลุ่ม บริษัท เพื่อการลงทุนที่นำโดย TPG ทุนสหรัฐ $ 1.5 พันล้านในปี 2002 [16] [27] ​​เจ้าของคนใหม่อย่างรวดเร็วย้ายไปฟื้นฟูและจัดระเบียบ บริษัท ปิดท้ายด้วย บริษัท ถูกนำประชาชนในปี 2006 ด้วยความสำเร็จอย่างสูงเสนอขายครั้งแรก. [28] [29] กลยุทธ์ บริษัท 'สำหรับการเปิดห่วงโซ่รอบรวม​​ถึงเอเจนซี่โฆษณาใหม่และแคมเปญโฆษณาใหม่ [30] [31] [32] กลยุทธ์เมนูปรับปรุงใหม่ [33] ชุดของโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงร้านค้าแต่ละ [34] ร้านอาหารแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า BK สิ่งที่ใหญ่โตบาร์, [35] และรูปแบบการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า 20/20. [35] การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ประสบความสำเร็จอีกครั้งลุ้น บริษัท ที่นำไปสู่​​การให้คะแนนของไตรมาสที่มีกำไร. [36] แต่แม้จะมีความสำเร็จของเจ้าของใหม่ที่ผลกระทบของวิกฤตการเงินของ 2007-2010 ลดลงแนวโน้มทางการเงินของ บริษัท ขณะที่ของมันทันที คู่แข่งของ McDonald เติบโต. [36] [37] มูลค่าที่ลดลงของเบอร์เกอร์คิงในที่สุดก็นำไปสู่​​การ TPG และหุ้นส่วนปลดสนใจของพวกเขาในห่วงโซ่ในสหรัฐ 3.26 $ พันล้านขายให้ทุน 3G ของบราซิล. [38] [39] นักวิเคราะห์จากการเงิน บริษัท ยูบีเอสและ Stifel Nicolaus ตกลงกันว่า 3G จะต้องมีการลงทุนอย่างมากใน บริษัท ที่จะช่วยให้ย้อนกลับมั่งคั่ง. [39] [40] หลังจากที่ข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์หุ้นของ บริษัท ออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กตอนจบสี่ ช่วงเดียวกันของปีเป็น บริษัท มหาชน. [41] [42] ในการเพิกถอนหุ้นของ บริษัท ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยให้ บริษัท ซ่อมแซมโครงสร้างธุรกิจพื้นฐานและการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปิดช่องว่างกับโดนัลด์โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นที่ชื่นชอบ. [40] ใน ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา, ห่วงโซ่ได้ลดลงไปยังสถานที่ที่สามในแง่ของยอดขายสาขาเดิมที่อยู่เบื้องหลังโอไฮโอตามเวนดี้ ลดลงเป็นผลมาจาก 11 ไตรมาสติดต่อกันจากเดิมยอดขายลดลงการจัดเก็บ. [43]