Hearing loss is still one of the mo

Hearing loss is still one of the most prevalent occupational diseases in the United States and most other
industrialized countries (1-3).

In the United States at least one million workers in manufacturing are estimated to have sustained job-related hearing impairment, and about a half million of these workers have moderate to severe hearing impairment (I ).

Occupational hearing loss has long been recognized as a direct health effect of overexposure to noise, but only
recently has expo sure to solvents been consideredasa contributor to the development of hearing impairment (4-10).

There is evidence which suggests that noise interact'> synergistically with various drugs and chemicals (11-18).

Evidence is also beginning to accumulate which suggests that anototraumatic interaction may exist between noise and organic solvents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สูญเสียการได้ยินยังคงเป็นหนึ่งของโรคอาชีวแพร่หลายมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและอื่น ๆ ส่วนใหญ่กลุ่มประเทศ (1-3) ในสหรัฐอเมริกามีประเมินอย่างน้อยหนึ่งล้านคนในการผลิต เพื่อได้ยั่งยืน กับงานฟังผล และประมาณ ครึ่งล้านของแรงงานเหล่านี้ได้ปานกลางถึงรุนแรงยิน (I) ขาดทุนอาชีวได้ยินได้รับรู้เป็นผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงของ overexposure ให้เสียง แต่เฉพาะล่าสุด เอ็กซ์โปหรือสารทำละลายให้ได้ consideredasa ผู้พัฒนาของยิน (4-10) มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เสียงโต้ตอบ ' > เป็นกับยาต่าง ๆ และสารเคมี (11-18) หลักฐานยังเริ่มสะสมซึ่งแสดงให้เห็นว่า anototraumatic โต้ตอบอาจมีเสียงรบกวนและอินทรีย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูญเสียการได้ยิน ยังเป็น หนึ่งในโรคที่แพร่หลายมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและประเทศอุตสาหกรรมอื่น ๆ
( 1-3 )

ในสหรัฐอเมริกาอย่างน้อยหนึ่งล้านคน ในการผลิต คาดว่าจะได้จากงานที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินและประมาณครึ่งล้านของแรงงานเหล่านี้ต้องการได้ยินรุนแรงปานกลาง ( ผม )

การสูญเสียการได้ยินอาชีพได้รับการยอมรับ เช่น ผลกระทบด้านสุขภาพโดยตรงของการสัมผัสกับเสียงดัง แต่เพียงเมื่อเร็ว ๆนี้มีมหกรรมแน่ใจว่า
consideredasa ตัวทำละลายเป็นผู้สนับสนุนเพื่อการพัฒนาของการได้ยิน ( 4-10 )

มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเสียงโต้ตอบ ' > synergistically กับยาต่างๆและสารเคมี ( 11-18 )

หลักฐานก็เริ่มสะสม ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ anototraumatic อาจอยู่ระหว่างเสียงและสารละลายอินทรีย์