A flood victim in Nopphitam distric

A flood victim in Nopphitam district in Nakhon Si Thammarat says she was in jubilation when she heard the hum of helicopter rotors over the horizon while awaiting an airlift at the peak of a knoll, overlooking homes inundated by flood water and mud.

"I am speechless - all I can say is that I am still alive and have a chance to see my children again," said a tearful Saowakhon Jansri.

After being admitted into a relief shelter, she said the entire village in tambon Krung Ching was cut off and under heavy rain for seven days, but her children at the province's Walailak University had notified authorities of the incident and coordinated help and eventually the airlift.

The villagers relied on grass and vegetation to survive for the seven-day period after they were cut out from the outside world. The situation got even worse when mobile-phone signals died after the electricity went out, and land-line phones were also down.

She said it was the heaviest rain she had ever witnessed, and thunder struck frequently. "The constant loud noise of flash floods around the village was frightening, and kept everyone awake," she added.

The last floods struck homes built in lower-lying areas, before the villagers ran up to Saowakhon's home at the top of the hill to find their last high ground.

"They gathered at my home, about 60 of them, to wait for a day or two. We brought together dry food to cook and share, before we ran out of it and turned to vegetation.

"We are lucky that there was a mobile-phone tower nearby still capable of transmitting. We relied on this as the only communication channel to my children, who got help to us at last," she said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหยื่อน้ำท่วมในอำเภอนบพิตำในนครศรีธรรมราชกล่าวว่า เธอในเดโมแครเมื่อเธอได้ยินครวญของใบพัดเฮลิคอปเตอร์เหนือขอบฟ้าขณะรอการ airlift ที่จุดสูงสุดของการ knoll เห็นบ้านที่ครอบ ด้วยน้ำท่วมและโคลน"ฉันพูด - ทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้ว่า ฉันยังมีชีวิตอยู่ และมีโอกาสที่จะเห็นเด็กของฉันอีก กล่าวว่า Saowakhon Jansri เป็น tearfulหลังจากถูกรับเข้าเป็นพักอาศัยบรรเทา เธอบอกว่า ทั้งหมู่บ้านในตำบลกรุงชิงถูกตัดออก และฝนตกหนัก 7 วัน แต่เด็กของเธอที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในจังหวัดได้แจ้งหน่วยงานแก้ไขปัญหา และประสานความช่วยเหลือและในที่สุดการ airliftชาวบ้านที่อาศัยในหญ้าและพืชเพื่อความอยู่รอดสำหรับรอบระยะเวลาเจ็ดวันหลังจากที่พวกเขาถูกตัดออกจากโลกภายนอก สถานการณ์ได้แย่เมื่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือเสียชีวิตหลังจากไฟฟ้าออกไป และที่ดินสายโทรศัพท์ก็ยังลงเธอกล่าวว่า ฝนมี่เธอได้เคยเห็น และฟ้าร้องหลงบ่อย "เสียงดังรบกวนของแฟลชน้ำท่วมรอบหมู่บ้านน่ากลัว และเก็บทุกคนตื่นตัว เธอเพิ่มสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดหลงบ้านสร้างในพื้นที่นอนล่าง ก่อนชาวบ้านวิ่งขึ้นไปที่บ้านของ Saowakhon ที่ด้านบนของเขาหาพื้นความสูงสุดท้าย"รวบรวมที่บ้านของฉัน เกี่ยวกับ 60 ของพวกเขา เพื่อรอวันหรือสองวัน เราร่วมกันนำอาหารแห้งไปปรุงอาหาร และใช้ร่วม กัน ก่อนเราพอมันกลายเป็นพืช"เราจะโชคดีที่มีโทรศัพท์มือถือทาวเวอร์ใกล้เคียงยังคงสามารถส่ง เราอาศัยนี้เป็นช่องทางการสื่อสารเฉพาะเด็กของฉัน ที่ช่วยเราได้ในที่สุด เธอกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหยื่อน้ำท่วมในอำเภอนบพิตำจังหวัดนครศรีธรรมราชบอกว่าเธออยู่ในความปีติยินดีเมื่อเธอได้ยินเสียงครวญเพลงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์เหนือขอบฟ้าในขณะที่รอการขนส่งทางอากาศที่จุดสูงสุดของเนินที่สามารถมองเห็นบ้านน้ำท่วมด้วยน้ำน้ำท่วมและโคลน. "ผมพูด - ทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่และมีโอกาสที่จะเห็นลูก ๆ ของฉันอีกครั้ง "ร้องไห้เสาวคนธ์ Jansri กล่าว. หลังจากที่เข้ารับการรักษาที่พักพิงบรรเทาเธอกล่าวว่าทั้งหมู่บ้านในตำบลกรุงชิงถูกตัดออกไปและอยู่ภายใต้ ฝนตกหนักเป็นเวลาเจ็ดวัน แต่ลูก ๆ ของเธอที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ของจังหวัดได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและประสานงานความช่วยเหลือและในที่สุดการขนส่งทางอากาศ. ชาวบ้านอาศัยอยู่บนพื้นหญ้าและพืชผักที่จะอยู่รอดในช่วงเวลาเจ็ดวันหลังจากที่พวกเขาถูกตัดออกจาก นอกโลก. สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงได้เมื่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือเสียชีวิตหลังจากที่กระแสไฟฟ้าออกไปข้างนอกและโทรศัพท์ที่ดินสายก็ยังลง. เธอบอกว่ามันเป็นฝนที่หนักที่สุดที่เธอได้เคยเห็นและฟ้าร้องหลงบ่อย "เสียงที่ดังอย่างต่อเนื่องของน้ำท่วมฉับพลันรอบ ๆ หมู่บ้านเป็นที่น่ากลัวและเก็บไว้ทุกคนตื่นขึ้นมา" เธอกล่าว. น้ำท่วมที่ผ่านมาหลงบ้านที่สร้างขึ้นในพื้นที่ที่ต่ำกว่านอนก่อนที่ชาวบ้านวิ่งขึ้นไปที่บ้านเสาวคนธ์ที่ด้านบนของเนินเขาไป หาพื้นดินสูงของพวกเขาที่ผ่านมา. "พวกเขารวมตัวกันที่บ้านของฉันประมาณ 60 ของพวกเขาที่จะรอวันหรือสองวัน. เรานำอาหารร่วมกันแห้งในการปรุงอาหารและส่วนแบ่งก่อนที่เราจะวิ่งออกมาจากมันและหันไปพืช." เรามี โชคดีว่ามีหอโทรศัพท์มือถือที่อยู่ใกล้เคียงยังคงความสามารถในการส่ง เราอาศัยนี้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารเพียงเพื่อลูก ๆ ของฉันที่ได้รับความช่วยเหลือให้เราที่ผ่านมา "เธอกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เหยื่อน้ำท่วมในอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เธอมีความปีติยินดีเมื่อเธอได้ยินเสียงครวญเพลงของเฮลิคอปเตอร์ใบพัดขอบฟ้ากำลังการขนส่งที่จุดสูงสุดของเนิน สามารถมองเห็นบ้านเจิ่งนองด้วยน้ำและโคลน

" ผมพูดไม่ออก - ทั้งหมดที่ฉันสามารถกล่าวว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ และ มีโอกาสที่จะได้พบลูกอีก " พูดจันทร์ศรีเสาวรสอยากร้องไห้

หลังจากเข้ารับการรักษาบรรเทากำบัง เธอกล่าวว่าทั้งหมู่บ้านในตำบลกรุงชิง ถูกตัดขาด และใต้ ฝนตกหนัก เป็นเวลา 7 วัน แต่เด็กที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ของจังหวัดได้แจ้งเจ้าหน้าที่ของเหตุการณ์และประสานงานช่วยเหลือและในที่สุดเครื่องบิน

ชาวบ้านที่อาศัยบนหญ้าและพืชเพื่อความอยู่รอดสำหรับเจ็ดวันหลังจากที่พวกเขาถูกตัดออกจากโลกภายนอก สถานการณ์ยิ่งแย่ลงเมื่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เสียชีวิตหลังจากกระแสไฟฟ้าออกไป และโทรศัพท์สายที่ดินถูกลง

เค้าบอกว่าที่เธอเคยเห็นฝนและฟ้าร้องหลงบ่อย" เสียงดังคงที่ของแฟลชท่วมรอบ ๆหมู่บ้านที่น่ากลัว และทำให้ทุกคนตื่น สสปน .

น้ำท่วมล่าสุดหลงบ้านที่สร้างขึ้นในพื้นที่ลดลงโกหก ก่อนที่ชาวบ้านวิ่งขึ้นบ้านเสาวรสที่ด้านบนของเนินเขาที่จะหาพื้นดินสูงล่าสุด

" พวกเขารวมตัวกันที่ ที่บ้านผม ประมาณ 60 คน เพื่อรอสักวันสองวัน เรา มาด้วยกัน อาหารแห้ง ปรุงอาหาร และแบ่งปันก่อนที่เราจะวิ่งออกมาและกลายเป็นพืช

" เราโชคดีที่มีโทรศัพท์มือถืออาคารใกล้เคียงยังคงความสามารถในการส่งสัญญาณ เราอาศัยเป็นช่องทางการสื่อสารเฉพาะกับเด็กๆ ที่ได้ช่วยเราแล้ว " เธอกล่าว