Malaysia, a middle-income country,

Malaysia, a middle-income country, has transformed itself since the 1970s from a producer of raw materials into an emerging multi-sector economy. Under current Prime Minister NAJIB, Malaysia is attempting to achieve high-income status by 2020 and to move farther up the value-added production chain by attracting investments in Islamic finance, high technology industries, medical technology, and pharmaceuticals. The NAJIB administration also is continuing efforts to boost domestic demand and to wean the economy off of its dependence on exports. Nevertheless, exports - particularly of electronics - remain a significant driver of the economy. As an oil and gas exporter, Malaysia has profited from higher world energy prices, although the rising cost of domestic gasoline and diesel fuel, combined with strained government finances, has forced Kuala Lumpur to reduce government subsidies. The government is also trying to lessen its dependence on state oil producer Petronas, which supplies at least 40% of government revenue. The central bank maintains healthy foreign exchange reserves and its well-developed regulatory regime has limited Malaysia's exposure to riskier financial instruments and the global financial crisis. Nevertheless, decreasing worldwide demand for consumer goods hurt Malaysia's exports and economic growth in 2009, although both showed signs of recovery in 2010. In order to attract increased investment, NAJIB has also sought to revise the special economic and social preferences accorded to ethnic Malays under the New Economic Policy of 1970, but he has encountered significant opposition, especially from Malay nationalists.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศมาเลเซีย ประเทศคอร์รัปชั่น ได้เปลี่ยนตัวเองตั้งแต่ทศวรรษ 1970 จากการผลิตของวัตถุดิบในหลายภาคเศรษฐกิจเกิดใหม่ ภายใต้ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี NAJIB มาเลเซียกำลังพยายาม เพื่อบรรลุสถานะสินค้า 2563 และย้ายอยู่ห่างรับผลิตมูลค่าเพิ่ม โดยการดึงดูดการลงทุน ในเงินอิสลาม เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์ เวชภัณฑ์ จัดการ NAJIB ยังมีต่อความพยายามเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ และหย่าเศรษฐกิจออกจากการพึ่งพาการส่งออก อย่างไรก็ตาม ส่งออก - โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - ยังคง ควบคุมอย่างมีนัยสำคัญของเศรษฐกิจ เป็นการส่งออกน้ำมันและก๊าซ มาเลเซียมี profited จากโลกพลังงานราคาที่สูงขึ้น แม้ว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันภายในประเทศและน้ำมันดีเซล รวมกับรัฐบาลเครียด มีบังคับกัวลาลัมเปอร์เพื่อลดเงินอุดหนุนของรัฐบาล นอกจากนี้รัฐบาลกำลังพยายามลดการพึ่งพารัฐผู้ผลิตน้ำมันแต่ ซึ่งหน้า ๆ อย่างน้อย 40% ของรายได้รัฐบาล ธนาคารกลางรักษาทุนสำรองแลกเปลี่ยนเงินตราสุขภาพและระบอบการกำกับดูแลของพัฒนาห้องพักมีจำกัดของมาเลเซียสัมผัสกับเครื่องมือทางการเงิน riskier และวิกฤตการเงินโลก อย่างไรก็ตาม ลดความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกเจ็บส่งออกของมาเลเซียและการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2552 แม้ว่าทั้งสองแสดงให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวในปี 2010 เพื่อดึงดูดการลงทุนเพิ่ม NAJIB ได้ยังพยายามที่จะแก้ไขพิเศษทางเศรษฐกิจ และสังคมลักษณะทรัพย์ไทยมลายูภายใต้นโยบายเศรษฐกิจใหม่ของ 1970 แต่เขาพบฝ่ายตรงข้ามอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาเลย์ nationalists

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้เปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่ปี 1970 จากผู้ผลิตวัตถุดิบเป็นเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นใหม่หลายภาค ภายใต้ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีนาจิบมาเลเซียจะพยายามที่จะบรรลุถึงสถานะสูงมีรายได้ในปี 2020 และจะย้ายไปไกลขึ้นห่วงโซ่การผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มโดยการดึงดูดการลงทุนในด้านการเงินอิสลามอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงเทคโนโลยีทางการแพทย์และยา การบริหารจิบนอกจากนี้ยังมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความต้องการในประเทศและจะหย่าเศรษฐกิจออกจากการพึ่งพาการส่งออก อย่างไรก็ตามการส่งออก - โดยเฉพาะอย่างยิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - ยังคงเป็นคนขับรถอย่างมีนัยสำคัญของเศรษฐกิจ ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซมาเลเซียได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่สูงขึ้นทั่วโลกแม้ว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินในประเทศและน้ำมันดีเซลรวมกับการเงินของรัฐบาลที่ทำให้เครียดได้บังคับกัวลาลัมเปอร์เพื่อลดเงินอุดหนุนจากรัฐบาล รัฐบาลยังพยายามที่จะลดการพึ่งพาผู้ผลิตน้ำมันปิโตรนารัฐซึ่งวัสดุอย่างน้อย 40% ของรายได้ของรัฐบาล ธนาคารกลางยังคงมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสุขภาพดีและมีการพัฒนาที่ดีของระบอบการปกครองตามกฎระเบียบมีการ จำกัด การสัมผัสของมาเลเซียเครื่องมือทางการเงินที่มีความเสี่ยงและวิกฤตการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตามการลดความต้องการทั่วโลกสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับบาดเจ็บการส่งออกของประเทศมาเลเซียและการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2009 แม้ว่าทั้งสองแสดงให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวในปี 2010 เพื่อที่จะดึงดูดการลงทุนที่เพิ่มขึ้นจิบยังได้พยายามที่จะแก้ไขการตั้งค่าทางเศรษฐกิจและสังคมที่พิเศษให้แก่ชาติพันธุ์มลายูภายใต้ นโยบายเศรษฐกิจใหม่ของปี 1970 แต่เขาได้พบความขัดแย้งอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนัมาเลย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาเลเซียเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ได้แปลงตัวเองตั้งแต่ปี 1970 จากผู้ผลิตวัตถุดิบเข้าไปใหม่หลายภาคเศรษฐกิจ ภายใต้นายกรัฐมนตรีปัจจุบันนาจิบ มาเลเซียพยายามที่จะบรรลุสถานะที่สูง โดยปี 2020 และจะย้ายไกลขึ้นห่วงโซ่การผลิตเพิ่ม โดยการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินอิสลาม , เทคโนโลยี , เทคโนโลยีทางการแพทย์และยา การบริหารจัดการนาจิบยังมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอุปสงค์ในประเทศ และหย่านมเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการส่งออก อย่างไรก็ตาม การส่งออก โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ - ยังคงเป็นไดรเวอร์ที่สำคัญของเศรษฐกิจ เป็นน้ำมันและก๊าซผู้ส่งออก , ประเทศมาเลเซียยังได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่สูงขึ้นของโลก ,แม้ว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของน้ำมันเบนซินในประเทศและน้ำมันดีเซล รวมกับเงินของรัฐบาลลง ได้บังคับกัวลาลัมเปอร์เพื่อลดเงินอุดหนุนของรัฐบาล รัฐบาลยังได้พยายามที่จะลดการพึ่งพาผู้ผลิตน้ำมันปิโตรนาส ซึ่งวัสดุอย่างน้อยร้อยละ 40 ของรายได้ของรัฐบาลธนาคารกลางยังคงขอสงวนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและกฎระเบียบของระบบการปกครองสุขภาพเต่งได้จำกัดของมาเลเซียการเสี่ยงเครื่องมือทางการเงินและวิกฤตการเงินโลก อย่างไรก็ตาม การลดความต้องการทั่วโลกสำหรับสินค้าที่ผู้บริโภคทำให้การส่งออกและการเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียในปี 2552 แม้ว่าทั้งสองแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวในปี 2010เพื่อที่จะดึงดูดการลงทุนเพิ่มขึ้นนาจิบยังพยายามแก้ไข , ลักษณะพิเศษทางสังคม เศรษฐกิจ และความกลุ่มชาติพันธุ์มาเลย์ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจใหม่ของปี 1970 แต่เขาได้พบพบการต่อต้าน โดยเฉพาะจากพวกชาตินิยมมลายู