This objectives of the research are

This objectives of the research are to study logistics activity and cost and to propose the ways of reducing of logistics costs for the Oil Palm Industry in Krabi. The data were collected from 216 Oil Palm agriculturists and 53 middlemen or cooperative (Lan Tay). The results of research revealed that the logistics activities of agriculturists can be divided into 3 activities. Activity 1 is the material handling or the harvesting and moving of the Oil Palm crops. This activity can mostly be done by hiring the worker at the percentage of 83.33. Activity 2 is upon the transporting of Oil Palm crops that can be finished by the ones who hire to transfer oil palm crop at the percentage of 50.46. The round-trip distance for transporting mostly is about 6-10 kilometers. The percentage of 66.67 of agriculturists have chosen to sell their crops to the middleman at Lan Tay. The pick-up trucks were used for transporting both by agriculturists themselves and hiring others at the percentage of 90.65 and 100 respectively. Activity 3 is upon the communication in the logistics cycle. The logistics activities of the middleman or cooperative (Lan Tay) for operating aredivided into 5 activities: 1) purchasing and procurement, 2) material handling, 3) warehouse and storage management, 4) the transportation, 5) communication activity in the logistics cycle. For warehouse and storage management as the feature of Lan Tay which is a wide open space and roofless that affects to the weight of oil palm to become lower than the actual amount. For the transportation that has shown at the percentage of 86.79 by themselves. The percentage of 41.51 of middlemen or cooperative have transported their crops at the distance of 1-50 kilometers. The middlemen or cooperative have used 10 wheel truck trailers to transport their crops at the percentage of 56.60. The survey on total logistics costs of Oil Palm industry in Krabi reported finding at 0.6409 Baht/kilogram that can be separated into the logistics costs of agriculturists at 0.5168 Baht/kilogram. The logistics costs of the middleman or cooperative at 0.1241 Baht/kilogram. The recommendations for agriculturists who have the plantation area less than 10 Rai and 3 – wheel tow motorcycle to transport their crops that they should adjust their forms of transportation to the outsourcing of the transportation. For the agriculturists who have the medium or large area of plantation should transport their crops themselves. Thus the pick-up trucks are appropriate for the plantation area less than 50 Rai and the 6-wheel trucks are appropriate for the plantation area more than 50 Rai. The reducing of transportation cost is the reason why the agriculturists who have the small plantation area should join the group. For the middlemen and cooperatives, they should transport their crops themselves so that the 6-wheel trucks are appropriate for the purchasing amount which less than 10 tons a day and the 10-wheel trucks are appropriate for the purchasing amount which more than 25 tons a day. They should collaborate with other middlemen and cooperatives to set the standard of cooperation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้วัตถุประสงค์ของการวิจัยเป็น การศึกษากิจกรรมด้านโลจิสติกส์และต้นทุน และเสนอวิธีการลดต้นทุนโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ ข้อมูลถูกรวบรวม จาก 216 ปาล์ม agriculturists และพ่อค้าคนกลาง 53 สหกรณ์ (ลานเท) ผลการวิจัยเปิดเผยว่า กิจกรรมโลจิสติกส์ของ agriculturists สามารถแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม กิจกรรมที่ 1 เป็นการจัดการวัสดุ หรือการเก็บเกี่ยว และการย้ายของพืชปาล์มน้ำมัน ส่วนใหญ่สามารถทำกิจกรรมนี้ โดยจ้างผู้ปฏิบัติงานที่เปอร์เซ็นต์ของ 83.33 กิจกรรม 2 อยู่กับขนของพืชปาล์มน้ำมันที่สามารถเสร็จสิ้นตามผู้จ้างงานจะโอนย้ายพืชปาล์มน้ำมันที่เปอร์เซ็นต์ของ 50.46 ระยะทางสำหรับการขนส่งส่วนใหญ่ประมาณ 6-10 กิโลเมตรได้ เปอร์เซ็นต์ของ 66.67 ของ agriculturists ได้เลือกที่จะขายของพืช middleman ที่ลานเท รถบรรทุกที่ใช้สำหรับการขนส่งทั้ง โดย agriculturists เอง และจ้างคนอื่นที่เปอร์เซ็นต์ของ 90.65 และ 100 ตามลำดับ กิจกรรมที่ 3 อยู่กับการสื่อสารในวงจรโลจิสติกส์ กิจกรรมโลจิสติกส์ middleman หรือสหกรณ์ (ลานเท) การปฏิบัติ aredivided ลงในกิจกรรมที่ 5:1) การจัดซื้อ และจัดซื้อ 2) จัดการวัสดุ 3) คลังสินค้า และการจัดเก็บ จัดการ 4) การขนส่ง 5) สื่อสารกิจกรรมในวงจรการโลจิสติกส์ สำหรับคลังสินค้าและการจัดเก็บจัดการเป็นคุณลักษณะของลานเทซึ่งเป็นทั้งการเปิดพื้นที่ และดารดาษที่ส่งผลต่อน้ำหนักของน้ำมันปาล์มเป็นต่ำกว่ายอดจริง สำหรับการขนส่งที่มีแสดงเปอร์เซ็นต์ของ 86.79 ที่เอง เปอร์เซ็นต์ของ 41.51 ของพ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ได้ลำเลียงของพืชในระยะที่ 1-50 กิโลเมตร พ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ได้ใช้รถพ่วง 10 ล้อรถบรรทุกเพื่อการขนส่งพืชผลของพวกเขาที่เปอร์เซ็นต์ของ 56.60 แบบสำรวจเกี่ยวกับโลจิสติกส์รวมต้นทุนของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่รายงานการค้นหาที่ 0.6409 บาท/กิโลกรัมซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นต้นทุนโลจิสติกส์ของ agriculturists ที่ 0.5168 บาท/กิโลกรัม ต้นทุนโลจิสติกส์ middleman หรือสหกรณ์ที่กิโลกรัมละ 0.1241 บาท คำแนะนำสำหรับ agriculturists ที่มีน้อยกว่า 10 ไร่พื้นที่ไร่ และ 3-ล้อใยรถจักรยานยนต์เพื่อการขนส่งพืชผลของพวกเขาว่า พวกเขาควรปรับปรุงรูปแบบการขนส่งไปที่ผู้รับเหมาช่วงของการขนส่ง สำหรับ agriculturists ที่มี พื้นที่สวนขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ควรขนส่งพืชผลของตนเอง ดังนั้นรถบรรทุกเหมาะสมสำหรับสวนพื้นที่น้อยกว่า 50 ไร่ และรถบรรทุก 6 ล้อเหมาะสมสำหรับพื้นที่สวนมากกว่า 50 ไร่ ลดต้นทุนการขนส่งเป็นเหตุผลที่ทำไม agriculturists ที่มีพื้นที่สวนขนาดเล็กควรเข้าร่วมกลุ่ม สำหรับพ่อค้าคนกลางและสหกรณ์ พวกเขาควรขนส่งพืชผลของตนเองเพื่อให้รถบรรทุก 6 ล้อเหมาะสำหรับยอดซื้อที่น้อยกว่า 10 ตันต่อวันและรถบรรทุก 10 ล้อที่เหมาะสมสำหรับการซื้อในจำนวนที่มากกว่า 25 ตันต่อวัน พวกเขาควรทำงานร่วมกับพ่อค้าคนกลางและสหกรณ์อื่นเพื่อกำหนดมาตรฐานของความร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษากิจกรรมโลจิสติกและค่าใช้จ่ายและเสนอวิธีการลดค่าใช้จ่ายของจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ เก็บรวบรวมข้อมูลจาก 216 เกษตรกรปาล์มน้ำมันและ 53 พ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ (Lan Tay) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมโลจิสติกของเกษตรกรสามารถแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม กิจกรรมที่ 1 คือการจัดการวัสดุหรือเก็บเกี่ยวและการเคลื่อนย้ายของพืชปาล์มน้ำมัน กิจกรรมนี้เป็นส่วนใหญ่สามารถทำได้โดยการว่าจ้างคนงานร้อยละ 83.33 กิจกรรมที่ 2 คือเมื่อการขนส่งของพืชปาล์มน้ำมันที่สามารถจะแล้วเสร็จโดยคนที่จ้างในการถ่ายโอนการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันร้อยละ 50.46 ที่ ระยะทางไปกลับสำหรับการขนส่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 6-10 กิโลเมตร 66.67 ร้อยละของเกษตรกรได้เลือกที่จะขายข้าวให้กับพ่อค้าคนกลางที่ Lan Tay รถกระบะถูกนำมาใช้สำหรับการขนส่งทั้งเกษตรกรตัวเองและการจ้างงานคนอื่น ๆ ร้อยละ 90.65 และ 100 ตามลำดับ กิจกรรมที่ 3 คือเมื่อการสื่อสารในรอบจิสติกส์ กิจกรรมโลจิสติกของพ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ (Lan Tay) สำหรับการดำเนินงาน aredivided เป็น 5 กิจกรรมคือ 1) การจัดซื้อและการจัดซื้อ 2) การจัดการวัสดุ 3) คลังสินค้าและการจัดการการจัดเก็บ 4) การขนส่ง, 5) กิจกรรมการสื่อสารในรอบจิสติกส์ . สำหรับคลังสินค้าและการจัดเก็บข้อมูลเป็นคุณสมบัติของ Lan Tay ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้างและหลังคาที่มีผลต่อน้ำหนักของปาล์มน้ำมันที่จะกลายเป็นต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง สำหรับการขนส่งที่ได้แสดงให้เห็นในอัตราร้อยละ 86.79 ของด้วยตัวเอง ร้อยละของ 41.51 ของพ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ได้ส่งพืชของพวกเขาที่ระยะห่างจาก 1-50 กิโลเมตร พ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ได้ใช้รถพ่วง 10 ล้อรถบรรทุกในการขนส่งพืชผลของพวกเขาในอัตราร้อยละ 56.60 ของ การสำรวจค่าใช้จ่ายในการขนส่งรวมของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่รายงานการหาที่ 0.6409 บาท / กิโลกรัมที่สามารถแยกออกเป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งของเกษตรกรที่ 0.5168 บาท / กิโลกรัม ค่าใช้จ่ายในการขนส่งของพ่อค้าคนกลางหรือสหกรณ์ที่ 0.1241 บาท / กิโลกรัม คำแนะนำสำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่า 10 ไร่และ 3 - รถจักรยานยนต์พ่วงล้อในการขนส่งพืชผลของพวกเขาที่พวกเขาควรจะปรับรูปแบบของการขนส่งของพวกเขาเพื่อการจ้างของการขนส่ง สำหรับเกษตรกรที่มีขนาดกลางหรือพื้นที่ขนาดใหญ่ของการปลูกพืชควรจะส่งตัวเองของพวกเขา ดังนั้นรถปิคอัพที่มีความเหมาะสมสำหรับพื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่า 50 ไร่และรถบรรทุก 6 ล้อมีความเหมาะสมสำหรับพื้นที่เพาะปลูกกว่า 50 ไร่ ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งคือเหตุผลว่าทำไมเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกขนาดเล็กควรจะเข้าร่วมกลุ่ม สำหรับพ่อค้าคนกลางและสหกรณ์ที่พวกเขาควรขนส่งพืชตัวเองเพื่อให้รถบรรทุก 6 ล้อมีความเหมาะสมสำหรับปริมาณการสั่งซื้อที่น้อยกว่า 10 ตันต่อวันและรถบรรทุก 10 ล้อที่มีความเหมาะสมสำหรับจำนวนเงินที่ซื้อซึ่งกว่า 25 ตัน วัน. พวกเขาควรจะทำงานร่วมกันกับพ่อค้าคนกลางและสหกรณ์ที่จะกำหนดมาตรฐานของความร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากิจกรรมโลจิสติกส์และค่าใช้จ่ายและเสนอวิธีการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในจังหวัดกระบี่ ข้อมูลที่รวบรวมได้จาก 216 ปาล์มน้ำมันเกษตรกรและ 53 เกษตรกรหรือสหกรณ์ ( Lan Tay ) ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมโลจิสติกส์ของเกษตรกร สามารถแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมกิจกรรมที่ 1 คือ การจัดการวัสดุ หรือการเก็บเกี่ยวและการย้ายของปาล์มน้ํามันพืช กิจกรรมนี้ส่วนใหญ่สามารถทำโดยการว่าจ้างคนงานที่ร้อยละ 83.33 . กิจกรรมที่ 2 คือ เมื่อขนส่งน้ำมันปาล์มพืชที่สามารถจะแล้วเสร็จโดยคนที่จ้างย้ายปลูกปาล์มน้ำมันที่ร้อยละ 50.46 . ระยะทางไปกลับสำหรับการขนส่งส่วนใหญ่ประมาณ 6-10 กิโลเมตรเปอร์เซ็นต์ของความรู้ของเกษตรกรได้เลือกที่จะขายผลผลิตให้คนกลางที่แลนเทย์ รถบรรทุกกระบะถูกใช้ในการขนส่งทั้งเกษตรกรเองและจ้างผู้อื่นร้อยละของ 90.65 และ 100 ตามลำดับ กิจกรรมที่ 3 คือเมื่อการสื่อสารในการขนส่งรอบกิจกรรมโลจิสติกส์ของคนกลางหรือสหกรณ์ ( Lan Tay ) สำหรับการดำเนินงานแบ่งออกเป็น 5 กิจกรรม ได้แก่ 1 ) การจัดซื้อและจัดหา , 2 ) การจัดการวัสดุ 3 ) บริหารการจัดเก็บคลังสินค้าและขนส่ง , 4 ) 5 ) กิจกรรมการสื่อสารด้านโลจิสติกส์และสำหรับคลังสินค้าและการจัดการข้อมูลตามคุณลักษณะของลานเท ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้าง และ roofless ส่งผลต่อน้ำหนักของน้ำมันปาล์มจะต่ำกว่าปริมาณที่เกิดขึ้นจริง สำหรับการขนส่งที่ได้แสดงเป็นร้อยละของ 86.79 ด้วยตัวเอง ร้อยละของ 41.51 ของเกษตรกรหรือสหกรณ์ได้นำพืชที่ระยะ 10-30 กิโลเมตรเกษตรกรหรือสหกรณ์ได้ใช้รถบรรทุก 10 ล้อ รถพ่วงขนส่งพืชผลของพวกเขาในอัตราร้อยละของ 56.60 . การสำรวจทั้งหมด ต้นทุนโลจิสติกส์ของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ ได้รายงานถึงการค้นพบที่ 0.6409 บาท / กิโลกรัม ซึ่งสามารถแยกออกเป็น ต้นทุนโลจิสติกส์ของเกษตรกรที่ 0.5168 บาท / กิโลกรัม ต้นทุนโลจิสติกส์ของคนกลางหรือสหกรณ์ที่ 0.1241 บาท / กิโลกรัมคำแนะนำสำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกไม่น้อยกว่า 10 ไร่ และ 3 ) ล้อพ่วงรถจักรยานยนต์เพื่อการขนส่งพืชผลของพวกเขาว่าพวกเขาควรจะปรับรูปแบบของการขนส่ง outsourcing ของการขนส่ง สำหรับเกษตรกรที่มีขนาดกลางหรือขนาดใหญ่พื้นที่ปลูกควรขนส่งพืชผลของพวกเขาเองดังนั้น รถกระบะที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ปลูกไม่น้อยกว่า 50 ไร่ และรถบรรทุก 6 ล้อที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก พื้นที่กว่า 50 ไร่ การลดต้นทุนการขนส่ง นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกน้อย ควรเข้าร่วมกลุ่ม สำหรับเกษตรกร และสหกรณ์พวกเขาควรขนส่งพืชผลของตนเองเพื่อให้รถบรรทุก 6 ล้อที่เหมาะสมสำหรับปริมาณการจัดซื้อที่น้อยกว่า 10 ตันต่อวัน และ 10 ล้อ รถบรรทุกที่เหมาะสมกับปริมาณการซื้อที่มากกว่า 25 ตันต่อวัน พวกเขาควรจะร่วมมือกับเกษตรกรและสหกรณ์ เพื่อกำหนดมาตรฐานของความร่วมมือ