การเปลี่ยนแปลงของสังคมเนื่องมาจากเทคโนโลยีต่างๆ
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากได้หลอมรวมเป็นหนึ่งกับกิจวัตรต่างๆในชีวิตประจำวันของมนุษย์ และช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร ด้านคมนาคม ด้านชลประทาน ฯลฯ เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำรงอยู่ของมนุษย์มากจริงๆ
เทคโนโลยีในปัจจุบัน มีทั้งข้อดีและข้อดี เทคโนโลยี ทำให้ชีวิตของมนุษย์ สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้การติดต่อสื่อสารรวดเร็วทันใจมากขึ้น ก่อให้เกิดกระแสโลกภิวัฒน์ อันทำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ราวกับเป็นเพื่อนบ้านกันทั้งที่ความจริงแล้วอยู่ห่างกันคนละซีกโลก ทำให้ปัญหาบางอย่างที่แก้ไขได้ยากยิ่ง มีความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหานั้นๆ เช่น การสร้างเขื่อนชลประทาน ก็ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในสร้างเขื่อนการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตรในหน้าแล้งได้อย่างรวดเร็ว แข็งแรง ซึ่งในสมัยก่อนคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากหรือจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ก็คงไม่ผิด อีกทั้งเทคโนโลยียังช่วย ประหยัดต้นทุนในอุตสาหกรรมทำให้ผู้ว่าจ้างส่วนใหญ่ หันมาใช้เครื่องจักรแทนที่จะใช้แรงงานคน เพราะเครื่องจักรทำงานด้วยง่ายกว่า (แน่ล่ะ ก็เครื่องจักรพูดได้ เถียงได้ ขอขึ้นเงินเดือนได้ ซะที่ไหน) และไม่ต้องมีวันหยุดมากมายเหมือนคนอีกด้วย เรียกได้ว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ประโยชน์ของเทคโนโลยี จะให้ไล่นับหนึ่งวันก็คงไม่หมด
แต่ในทางกลับกัน เทคโนโลยีก็ได้ก่อให้เกิดปัญหาที่จุกจิกกวนใจ หรือถึงขั้นร้ายแรงต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเด็กวัยรุ่นต่างๆซึ่งส่วนใหญ่เกิดมาจากอินเทอร์เน็ตเทคโนโลยี ปัญหาครอบครัวห่างเหินเนื่องจากเด็กพูดคุยกับคอมพิวเตอร์มากขึ้นจนทำให้เกิดระยะห่างในครอบครัว ระหว่างผู้ปกครองและตัวเด็กมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ปัญหายาเสพติดมีการซื้อขายกันอย่างเปิดเผยผ่านทางหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ปัญหาการถูกล่อลวงผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คมีออกหน้าหนังสือพิมพ์ให้เห็นกันบ่อยๆ รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลบางอย่างที่มีผู้เข้าถึงด้วยวัยไม่เหมาะสม เช่น เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาส่อไปทางลามกอนาจาร เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาส่งเสริมการใช้ความรุนแรงเป็นต้น ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้ เยาวชนที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ สามารถเปิดเข้าไปดูได้โดยง่าย ก่อให้เกิดการปลูกฝังด้านค่านิยมผิดๆ ให้กับเยาวชนเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว
ปัญหาที่สำคัญอันเกิดจากเทคโนโลยีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ขยะ’ ทุกวันนี้ น้อยคนนักที่จะใช้สิ่งของที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะหันมาใช้ วัตถุสังเคราะห์ อาทิ กล่องโฟม พลาสติก เป็นต้น ซึ่งวัตถุสังเคราะห์เหล่านั้นแหละ ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดปัญหาขยะ เนื่องด้วยพื้นนิสัยของคนไทยที่เป็นคนง่ายๆ เวลากินอะไร ใช้อะไรที่ไหนก็มักจะ ‘ทิ้งง่ายๆ’ เสมอ ยิ่งสิ่งของที่ทิ้งเป็นสิ่งของที่ต้องใช้เวลามากในการย่อยสลายแล้ว ก็ยิ่งทำให้สิ่งแวดล้อมของเราทรุดโทรมลงไปอีก นำไปสู่ปัญหาโลกร้อนที่ได้ยินติดหูกันอยู่ทุกวัน
จากที่อ่านมา ท่านผู้อ่านหลายๆคนคงจะมีความรู้สึกว่าเทคโนโลยีก่อปัญหามากมายเหลือเกิน และอาจรู้สึกรังเกียจหรือตั้งแง่ แต่ลองคิดถึงสภาพในวันที่เครื่องปรับอากาศในที่ทำงานเสียดูสิ คุณคงจะอยู่ไม่ได้เกินสองชั่วโมงแน่ๆ หรือลองนึกสภาพที่ต้องเดินเท้าจากบ้านไปโรงเรียน คงต้องใช้เวลาเกินวันถ้าจะไปให้ถึง เห็นหรือยัง ว่าคนเรายังคงต้องการเทคโนโลยี ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ การใช้เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องที่สำคัญมากนัก แต่เรื่องที่สำคัญจริงๆคือ เราจะมีวิธีการใดที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และคุ้มค่า รวมไปถึงเป็นการบ่อนทำลายธรรมชาติรอบกายน้อยที่สุดต่างหาก
แนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดการเทคโนโลยีไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมายเลย ขอเพียงทุกคนร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์พลังงานและปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่ตนเองและเยาวชนรุ่นใหม่ของชาติ ไม่ให้มักง่าย สร้างความเข้าใจ วินัยอันดีงาม และสร้างการศึกษาแก่เยาวชน ร่วมมือกันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้น จะทำให้ ประเทศไทย ก้าวไกลและพัฒนาไปได้มากขึ้นโดยต่อเนื่อง อย่างยั่งยืน