We investigated the frequency and d

We investigated the frequency and duration of distractions and media multitasking among college students engaged in a 3-h solitary study/homework session. Participant distractions were assessed with three different kinds of apparatus with increasing levels of potential intrusiveness: remote surveillance cameras, a head-mounted point-of-view video camera, and a mobile eyetracker. No evidence was obtained to indicate that method of assessment impacted multitasking behaviors. On average, students spent 73 min of the session listening to music while studying. In addition, students engaged with an average of 35 distractions of 6 s or longer over the course of 3 h, with an aggregated mean duration of 25 min. Higher homework task motivation and self-efficacy to concentrate on homework were associated with less frequent and shorter duration multitasking behaviors, while greater negative affect was linked to longer duration multitasking behaviors during the session. We discuss the implications of these data for assessment and for understanding the nature of distractions and media multitasking during solitary studying.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราตรวจสอบความถี่และระยะเวลาของการรบกวนและสื่อหลายในหมู่นักศึกษาในช่วง 3-h ปัจเจกศึกษา/บ้าน รบกวนผู้เข้าร่วมถูกประเมิน มีสามชนิดของเครื่องมือด้วยการเพิ่มระดับของ intrusiveness อาจเกิดขึ้น: ไกลกล้องวงจร ติดตั้งหัวจุดมุมกล้องวิดีโอ และ eyetracker มือถือ ไม่ปรากฏหลักฐานกล่าวเพื่อบ่งชี้ว่า วิธีการประเมินผลกระทบต่อพฤติกรรมการทำงานหลายอย่าง โดยเฉลี่ย นักศึกษาใช้เวลานาที 73 ของรอบเวลาฟังเพลงในขณะที่เรียน หมั้น นักเรียนโดยเฉลี่ย 35 รบกวนของ s หรือยาวมากกว่า 6 หลักสูตร 3 h มีระยะเวลาเฉลี่ยการรวม 25 นาที สูงการบ้านงานแรงจูงใจและประสิทธิภาพตนเองเน้นการบ้านถูกสัมพันธ์กับบ่อยน้อย และสั้นระยะเวลาทำงานหลายลักษณะการทำงาน ในขณะที่มากกว่าผลลบลิงค์ไปพฤติกรรมหลายระยะเวลานานในระหว่างรอบเวลา เราอภิปรายผลกระทบของข้อมูลเหล่านี้ สำหรับการประเมิน และเข้าใจธรรมชาติของการรบกวนและหลายสื่อระหว่างศึกษาปัจเจก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราตรวจสอบความถี่และระยะเวลาของการรบกวนและสื่อมัลติทาสกิ้งในหมู่นักศึกษามีส่วนร่วมใน 3 ชั่วโมงเซสชั่นโดดเดี่ยวการศึกษา / การบ้าน รบกวนผู้เข้าร่วมมีการประเมินที่มีสามชนิดที่แตกต่างกันของเครื่องเสียงที่มีระดับที่เพิ่มขึ้นของการรุกล้ำที่มีศักยภาพ: กล้องวงจรปิดระยะไกลจุดของมุมมองกล้องวิดีโอติดตั้งหัวและ eyetracker มือถือ ไม่มีหลักฐานที่ได้รับแสดงให้เห็นวิธีการของการประเมินผลกระทบต่อพฤติกรรมการทำงานหลายที่ โดยเฉลี่ยแล้วนักเรียนใช้เวลา 73 นาทีของเซสชั่นการฟังเพลงในขณะที่การศึกษา นอกจากนี้นักเรียนมีส่วนร่วมกับค่าเฉลี่ยจาก 35 การรบกวนจาก 6 s หรือนานกว่านั้นในช่วง 3 ชั่วโมงที่มีระยะเวลาเฉลี่ยรวมจาก 25 นาที แรงจูงใจที่สูงกว่างานบ้านและความรู้ความสามารถที่จะมีสมาธิอยู่กับการบ้านที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำงานหลายระยะเวลาน้อยบ่อยและสั้นในขณะที่เชิงลบมากขึ้นส่งผลกระทบต่อที่เชื่อมโยงกับอีกต่อไประยะเวลาการทำงานหลายพฤติกรรมในเซสชั่น เราหารือเกี่ยวกับผลกระทบของข้อมูลเหล่านี้สำหรับการประเมินและการทำความเข้าใจธรรมชาติของการรบกวนและสื่อมัลติทาสกิ้งในระหว่างการศึกษาโดดเดี่ยว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราได้ตรวจสอบความถี่และระยะเวลาของการรบกวนและสื่อมัลติทาสกิ้งในหมู่นักศึกษาร่วมใน 3-h โดดเดี่ยวศึกษา / การบ้านเซสชัน รบกวนผู้เข้าร่วมทดลองด้วยสามชนิดที่แตกต่างกันของเครื่องมือด้วยการเพิ่มระดับของศักยภาพความเจ้ากี้เจ้าการ : กล้องวงจรปิดระยะไกล หัวติดในมุมมองกล้องวีดีโอ และ eyetracker มือถือไม่มีหลักฐานได้ระบุวิธีการประเมินผลกระทบหลายพฤติกรรม โดยเฉลี่ยนักเรียนใช้เวลา 73 นาทีเซสชั่นฟังเพลงในขณะที่เรียน นอกจากนี้ นักศึกษาร่วมเฉลี่ย 35 รบกวน 6 S หรือนานกว่าหลักสูตร 3 ชั่วโมง กับการรวมหมายถึงระยะเวลา 25 นาทีอุดมการบ้านงานแรงจูงใจและความสามารถที่จะมีสมาธิในการบ้าน มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมบ่อยน้อยลงและระยะเวลาที่สั้นลง มัลติ ในขณะที่มากกว่าลบส่งผลเชื่อมโยงถึงระยะเวลาที่ยาวอย่างพฤติกรรมในระหว่างเซสชันเราได้กล่าวถึงความหมายของข้อมูลเหล่านี้เพื่อการประเมินและเข้าใจธรรมชาติของการรบกวนและสื่อมัลติทาสกิ้งในเดี่ยวเรียน