Introduction of Coastal Erosion Pre

Introduction of Coastal Erosion Previous page
The coastal areas with tidal flat are mostly abundant with mangroves forest, for example, the areas in the Upper Gulf of Thailand where fine sediments are deposited. The mangroves have been cleared for communities, residences, and shrimp farms, causing in extensive deforestation of mangroves and the severe erosion of coastline. On the mainland beach, the erosion is extensively occurred since there are constructions obstructing the direction of the current, causing the erosion problems in nearby areas. Moreover, the erosion is also caused by a lack of sedimentation and sediment supply due to various ways such as the constructions (dams, bridges, roads, etc.) obstructing the flow of rivers, river sand mining, removal by strong waves during monsoons, deforestation, and human activities along the river. These factors cause a reduction of the sediments in rivers that directly affects to coastal sediment supply.
Causes of problems on coastal erosion in Thailand Previous page
The improper use of coastal area

Currently, mangrove encroachment is continuously happened in order for tourism development. The coastal ecosystems are turned to communities, residence in supporting for local economic development such as condominiums, bungalows, resorts, causing loss of coastal natural balance. Moreover, the inconformity of land use capacity, for example, conversion of mangroves to shrimp farms, enhances easiness of coastal erosion in the area.

A lack of deposited sediments along the coast

The quantity of deposited sediment on the coast is derived from the weathering process of the parent materials on a watershed or upstream of river. The sediments are transported by river along the river and reach into the sea; they deposited on the estuary and along the coasts. However, most sediment is trapped within the reservoirs behind the major dams causing a decrease of sediments in the rivers. Besides, are also caused by removal the mud from shrimp ponds, estuaries and transportations.

The coastal development projects

A large coastal development project leads to many changes of natural coastal process such as the development of industrial estate at the Gulf of Thailand, by paving the sea and replace by the large constructions that obstruct the transport of sediments on the coast. Besides, the activities related to the tourism industries such as building hotels, resorts and homes and use of groundwater etc. lead to the land and coastal erosions, as well as, the construction of roads and railroads, which are laid paralleled the shoreline, obstructs transportation of the sediment from land to the natural beaches.

The natural dynamic processes of coastal area

The natural dynamic processes of coastal area influenced by tides, winds and storms that blow and move the sediments along the coast, resulting in different coastal characteristics. The major factors are detailed below:

Waves: The waves occurred in the Gulf of Thailand are relative small with the height of less than 2 meters. The large waves of 2 meters high are found in an open area without any obstruction, found in the lower Gulf of Thailand from Surat Thani to Narathiwat which influenced by the long period of northeast monsoon. The waves in the Andaman Seas are about 0.3 – 1.5 meter high, mainly influenced by the southwest monsoon.

Currents: the changes of the coast are more influenced by the current closed to the shoreline than currents in the middle of the gulf and the tidal range of diurnal tide is more intensive than semidiurnal tides. In Andaman Sea, the current of north or south direction is as strong as the current of the east-west direction during the southwest and northeast monsoons. Besides, the currents during low tide are stronger during high tide, causing dispersion, movement, and deposition of sediment are depended by the current direction.

Tides: There are three patterns of tide occurred in the Gulf of Thailand: diurnal, mixed semidiurnal dominant, and mixed diurnal dominant. The tidal range in the upper Gulf of Thailand is about 1.5 meters. In Andaman Sea, mixed semidiurnal pattern is dominant leading to the difference of tidal range among areas.

Winds and storms: The Gulf of Thailand is influenced by the northeast monsoon during October to February, and eastern wind, that causes large waves moving into the coast, while the southeast monsoon during February to April blows the sand sediments in to the coast. Along the coasts of Andaman Sea are faced with the intense rains caused by the southwest monsoon. Furthermore, the storms are formed in the South China Sea, moved through to the Gulf of Thailand, and died out in the Andaman Coasts. It affects directly to Chumporn, Surat Thani, Nakhon Si Thammarat, and Songkhla.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำของชายฝั่งพังทลายหน้าที่
พื้นที่ชายฝั่งทะเลกับหน้าแบนเป็นส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ ด้วยป่าโกรฟส์ เช่น พื้นที่ในด้านอ่าวไทยที่ฝากตะกอนที่ดี ย่างได้ถูกล้าง สำหรับชุมชน เรสซิเดนซ์ ฟาร์มกุ้ง สาเหตุถูกทำลายอย่างกว้างขวางโกรฟส์และกัดเซาะอย่างรุนแรงของชายฝั่ง ในแผ่นดินใหญ่ การพังทลายเป็นอย่างกว้างขวางเกิดขึ้นนับตั้งแต่มีการก่อสร้างที่กีดขวางทิศทางของปัจจุบัน สาเหตุของปัญหาการกัดเซาะในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ การกัดเซาะยังเกิดจากการขาดของตะกอนและการตกตะกอนเนื่องจากวิธีการต่าง ๆ เช่นการก่อสร้าง (เขื่อน สะพาน ถนน ฯลฯ) สกัดกั้นการไหลของแม่น้ำ ทรายแม่น้ำการทำเหมืองแร่ เอาตามแรงคลื่นมรสุม ทำลายป่า และกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ตามแม่น้ำ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดการลดลงของตะกอนในแม่น้ำที่มีผลโดยตรงต่อการอุปทานตะกอนชายฝั่ง
สาเหตุของปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในไทยหน้าที่
ใช้ไม่เหมาะสมของพื้นที่ชายฝั่งทะเล

ปัจจุบัน encroachment ป่าชายเลนเป็นอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ระบบนิเวศชายฝั่งเปิดเพื่อชุมชน ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเช่นคอนโดมิเนียม บังกะโล รีสอร์ท ก่อให้เกิดการสูญเสียความสมดุลตามธรรมชาติชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ inconformity ของที่ดินใช้กำลัง เช่น แปลงโกรฟส์ฟาร์มกุ้ง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่

ไม่พอตะกอนนำฝากริมฝั่งทะเล

ปริมาณของตะกอนนำฝากฝั่งที่มาจากสภาพอากาศกระบวนการผลิตหลักเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ หรือขั้นต้นน้ำของแม่น้ำ ตะกอนถูกลำเลียง โดยแม่น้ำตามแม่น้ำ และทางทะเล พวกเขาฝากห้อง และตาม แนวชาย อย่างไรก็ตาม ตะกอนส่วนใหญ่จะติดอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำหลังเขื่อนหลักที่ก่อให้เกิดการลดลงของตะกอนในแม่น้ำ นอก นอกจากนี้ยังเกิดจากการเอาโคลนจากบ่อกุ้ง ปากแม่น้ำ และคมนาคม

โครงการพัฒนาชายฝั่งทะเล

โครงการพัฒนาชายฝั่งขนาดใหญ่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของกระบวนการชายฝั่งตามธรรมชาติเช่นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่อ่าวไทย โดยปูทะเล และแทนที่ โดยการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ขัดขวางการขนส่งตะกอนชายฝั่ง นอกจาก กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเช่นอาคารโรงแรม รีสอร์ท และบ้าน และการใช้น้ำบาดาลเป็นต้น นำไปสู่ดินแดนและชายฝั่ง erosions เช่นเป็น ก่อสร้างถนนและรถราง ซึ่งจะวาง paralleled ชายฝั่ง obstructs ขนย้ายตะกอนจากแผ่นดินไปธรรมชาติหาด

กระบวนแบบธรรมชาติของพื้นที่ชายฝั่งทะเล

กระบวนแบบธรรมชาติของพื้นที่ชายฝั่งที่รับอิทธิพลจากกระแสน้ำ กระแสลมแรง และพายุที่พัด และย้ายตะกอนริมฝั่งทะเล, เกิดในลักษณะชายฝั่งที่แตกต่างกัน ปัจจัยสำคัญที่มีรายละเอียดด้านล่าง:

คลื่น: คลื่นที่เกิดขึ้นในอ่าวไทยมีขนาดเล็กที่สัมพันธ์กับความสูงน้อยกว่า 2 เมตร พบคลื่นขนาดใหญ่สูง 2 เมตรในพื้นที่เปิดโดยไม่มีการอุดตัน พบในอ่าวไทยลดลงจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปจังหวัดนราธิวาสซึ่งรับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือระยะยาว คลื่นในทะเลอันดามันกำลัง 0.3-1.5 เมตรสูง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากตะวันตกเฉียงใต้มรสุม

กระแส: การเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งมีอิทธิพลมาก โดยปัจจุบันปิดชายฝั่งกว่ากระแสกลางอ่าว และไทด์ diurnal ช่วงบ่าเป็นแบบเร่งรัดขึ้นกว่าน้ำ semidiurnal ในทะเลอันดามัน ปัจจุบันของทิศเหนือหรือทิศใต้เป็นแข็งแรงที่ปัจจุบันทิศตะวันออกตะวันตกตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ สำรอง กระแสช่วงแข็งแกร่งระหว่างน้ำขึ้นสูง การแพร่กระจาย การย้าย การก่อให้เกิด และมีขึ้นอยู่กับการสะสมของตะกอน โดยในปัจจุบันทิศทางการ

Tides: มีสามรูปแบบของน้ำที่เกิดขึ้นในอ่าวไทย: diurnal ผสม semidiurnal หลัก และผสม diurnal หลัก ช่วงบ่าด้านบนของอ่าวไทยคือประมาณ 1.5 เมตร ในทะเลอันดามัน รูปแบบ semidiurnal ผสมเป็นหลักนำไปสู่ความแตกต่างของช่วงบ่าระหว่างพื้นที่

ลมและพายุ: อ่าวไทยได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ และลมตะวันออก ที่สาเหตุคลื่นใหญ่ย้ายเข้าฝั่ง ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงใต้ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนพัดตะกอนทรายชายฝั่ง ตามชายทะเลอันดามันจะต้องเจอกับฝนรุนแรงที่เกิดจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้ พายุเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ย้ายผ่านอ่าวไทย และเสียชีวิตออกชายทะเลอันดามัน มันมีผลโดยตรงกับชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรู้เบื้องต้นของการกัดเซาะชายฝั่งหน้า
พื้นที่ชายฝั่งที่มีคลื่นแบนส่วนใหญ่จะอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าชายเลน เช่น พื้นที่ในอ่าวไทยตอนบน มีตะกอนที่ได้ฝาก ป่าชายเลนได้รับการล้างสำหรับชุมชน ที่อยู่อาศัย และฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ทำให้เกิดในการทำลายป่าอย่างกว้างขวางของป่าชายเลนและมีการกัดเซาะรุนแรงของชายฝั่ง บนแผ่นดินใหญ่ที่ชายหาดการกัดเซาะเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีการก่อสร้างกีดขวางทิศทางของปัจจุบัน ทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังเกิดจากการขาดการตกตะกอนและการจัดหาปริมาณตะกอน จากวิธีการต่างๆ เช่น การก่อสร้าง ( เขื่อน สะพาน ถนน ฯลฯ ) ขัดขวางการไหลของแม่น้ำ , ทรายแม่น้ำเหมืองจัดโดย คลื่นลมแรงในช่วงมรสุม , การตัดไม้ทำลายป่า , และกิจกรรมของมนุษย์ ตามแม่น้ำ ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดการลดลงของตะกอนในแม่น้ำที่โดยตรงมีผลต่อการสะสมของตะกอนชายฝั่ง
สาเหตุของปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในประเทศไทยหน้า


ใช้ไม่เหมาะสมของพื้นที่ชายฝั่งในปัจจุบัน การบุกรุกป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นในการสั่งซื้อเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวระบบนิเวศชายฝั่งกลายเป็นชุมชน , ที่พักในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น คอนโดมิเนียม , บังกะโล , รีสอร์ท , ก่อให้เกิดการสูญเสียสมดุลธรรมชาติชายฝั่ง นอกจากนี้ inconformity ความจุ การใช้ประโยชน์ที่ดิน ตัวอย่างเช่น การแปลงของป่าชายเลนที่ฟาร์มกุ้ง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่

ขาดฝากตะกอนตามแนวชายฝั่ง

ปริมาณตะกอนที่ฝากไว้บนชายฝั่งที่ได้มาจากการกระบวนการของผู้ปกครองวัสดุบนลุ่มน้ำหรือต้นน้ำของแม่น้ำ ตะกอนจะถูกขนส่งทางเรือไปตามแม่น้ำและเข้าไปในทะเล เขาฝากไว้ในปากน้ำ และตามแนวชายฝั่ง อย่างไรก็ตามตะกอนส่วนใหญ่ติดอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำหลังเขื่อนเป็นสาเหตุหลักที่ลดลงของตะกอนในแม่น้ำ นอกจากนี้ ยังเกิดจากการเอาโคลนจากบ่อเลี้ยงกุ้ง อ้อย และการขนส่ง .



โครงการพัฒนาชายฝั่งโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลขนาดใหญ่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหลายกระบวนการชายฝั่งตามธรรมชาติ เช่น การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในอ่าวไทย โดยการปูทะเลและแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่กั้นในการขนส่งของตะกอนชายฝั่ง นอกจากนี้ กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม อาคาร รีสอร์ท และบ้านและการใช้น้ำบาดาล เป็นต้นนำที่ดินและการแก้ปัญหาชายฝั่ง เช่น การก่อสร้างถนนและทางรถไฟ ซึ่งจะวางขนานชายฝั่งขัดขวางการขนส่งตะกอน จากที่ดิน ไปยังชายหาดธรรมชาติ

กระบวนการแบบไดนามิกธรรมชาติของพื้นที่ชายฝั่ง

แบบไดนามิกธรรมชาติกระบวนการของพื้นที่ชายฝั่ง ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำ ลมและพายุที่ ระเบิดและย้ายดินตะกอนตามชายฝั่งส่งผลให้ลักษณะชายฝั่งที่แตกต่างกัน ปัจจัยที่มีรายละเอียดด้านล่าง :

คลื่นคลื่นที่เกิดขึ้นในอ่าวไทยเป็นสัมพัทธ์ขนาดเล็กที่มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร คลื่นขนาดใหญ่สูง 2 เมตร พบในพื้นที่เปิดโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางที่พบในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีถึงนราธิวาสซึ่งได้รับอิทธิพลจากระยะเวลานานของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ คลื่นในทะเลอันดามัน ประมาณ 0.3 - 1.5 เมตรสูง อิทธิพลส่วนใหญ่จากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

: :การเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งจะได้รับอิทธิพลจากปัจจุบันปิดชายฝั่งกว่ากระแสน้ำ กลางอ่าวไทย และช่วงน้ำขึ้นน้ำลงของวันน้ำจะเข้มข้นกว่ากระแสน้ำ semidiurnal . ในทะเลอันดามัน กระแสแห่งทิศเหนือหรือทิศใต้ แข็งแรงเท่าของกระแสทิศทางตะวันออก - ตะวันตกในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้กระแสช่วงน้ำลงจะแข็งแกร่งในช่วงน้ำขึ้นสูง ก่อให้เกิดการกระจาย การเคลื่อนไหว และการสะสมตัวของตะกอนเป็นสำคัญ โดยทิศทางปัจจุบัน

กระแสน้ำ : มีสามรูปแบบของน้ำที่เกิดขึ้นในอ่าวไทย : ตังโอ๋ ผสม semidiurnal เด่น และผสมในเด่น ช่วงน้ำขึ้นน้ำลงในอ่าวไทยตอนบน ประมาณ 1.5 เมตร ในทะเลอันดามันผสม semidiurnal ลวดลายเด่น คือ ที่นำไปสู่ความแตกต่างของน้ำขึ้นน้ำลงในช่วงระหว่างพื้นที่

ลมและพายุ : อ่าวไทยจะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ และลมตะวันออก ที่ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่ง ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน พัดทรายดินตะกอนในการชายฝั่งตามชายฝั่งอันดามันจะเผชิญกับแรงฝนที่เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้ พายุที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ เคลื่อนผ่านอ่าวไทยและอันดามันตายออกในชายฝั่ง มันมีผลโดยตรงกับ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา นครศรี .