In the present study crude extracts

In the present study crude extracts of the plant
material obtained in polar and less polar organic
solvent were tested against six standard bacteria
(Staphylococcus aureus, Pseudomonas
fluorescens, Sericea, Kelebsiella pneumonia,
Bacillus pumilus) and four fungi Aspergillus
flavus, Aspergillus parasiticus, Trichoderma
rubrum, Microsporum gypseum causing skin
diseases. All the crude extracts have significant
antibacterial activity on most of the bacteria whereas ethanol extract had maximum inhibition
activity as compared to chloroform, methanol,
ethyl acetate and petroleum ether. The antifungal
activity on most of the fungi, but chloroform
extract had maximum inhibition activity as
compared to ethanol, methanol, ethyl acetate and
petroleum eater. From the present study, it is
evident that Coleus forskohlii could play an
important role in the management of hypotensive
and cardiotonic. The above result opens the
possibility of finding new clinically effective
antioxidant drug and could be useful in
understanding the relationship between
traditional cures and current medicines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาปัจจุบันที่น้ำมันสารสกัดจากพืชวัสดุได้รับ ในขั้วโลก และน้อย กว่าขั้วโลกอินทรีย์ตัวทำละลายถูกนำมาทดสอบกับแบคทีเรีย 6 มาตรฐาน(Staphylococcus หมอเทศข้างลาย Pseudomonasfluorescens, Sericea โรค Kelebsiellaคัด pumilus) และสี่เชื้อรา Aspergillusflavus, Aspergillus parasiticus, Trichodermarubrum, Microsporum gypseum สาเหตุของผิวโรค สารสกัดหยาบทั้งหมดได้อย่างมีนัยสำคัญกิจกรรมส่วนใหญ่ของแบคทีเรียต้านเชื้อแบคทีเรียในขณะที่สารสกัดเอทานอลได้สูงสุดยับยั้งกิจกรรมเป็นการเปรียบเทียบกับ chloroform เมทานอลacetate เอทิลและปิโตรเลียมอีเทอร์ การต้านเชื้อรากิจกรรมส่วนใหญ่ของเชื้อรา แต่คลอโรฟอร์มแยกได้สูงสุดยับยั้งกิจกรรมเป็นเมื่อเทียบกับเอทานอล เมทานอล เอทิล acetate และน้ำมันรับประทาน จากการศึกษาปัจจุบันเห็นได้ชัดว่า Coleus forskohlii สามารถเล่นการบทบาทสำคัญในการจัดการของ hypotensiveและ cardiotonic เปิดผลข้างต้นสามารถค้นหาใหม่มีประสิทธิภาพทางคลินิกยาต้านอนุมูลอิสระ และอาจจะมีประโยชน์ในการการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกินแบบดั้งเดิมและปัจจุบันยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสารสกัดหยาบศึกษาปัจจุบันของพืชวัสดุที่ได้รับในขั้วโลกและขั้วโลกน้อยอินทรีย์ตัวทำละลายได้มีการทดสอบกับหกแบคทีเรียมาตรฐาน(Staphylococcus aureus, Pseudomonas fluorescens, sericea ปอดบวม Kelebsiella, pumilus Bacillus) และสี่เชื้อรา Aspergillus flavus, parasiticus Aspergillus, เชื้อรา Trichoderma rubrum , Microsporum gypseum ผิวที่ก่อให้เกิดโรค ทั้งหมดสารสกัดที่สำคัญมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียในส่วนของเชื้อแบคทีเรียในขณะที่สารสกัดเอทานอลมีการยับยั้งสูงสุดกิจกรรมเมื่อเทียบกับคลอโรฟอร์มเมทานอลเอทิลอะซิเตและปิโตรเลียมอีเทอร์ เชื้อรากิจกรรมในส่วนของเชื้อราแต่คลอโรฟอร์มสารสกัดมีฤทธิ์ยับยั้งสูงสุดเมื่อเทียบกับเอทานอลเมทานอลเอทิลอะซิเตทและกินน้ำมันปิโตรเลียม จากการศึกษาในปัจจุบันก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่า Coleus Forskohlii สามารถเล่นบทบาทสำคัญในการจัดการของความดันโลหิตตกและcardiotonic ผลดังกล่าวข้างต้นจะเปิดความเป็นไปได้ในการค้นหาที่มีประสิทธิภาพทางคลินิกใหม่ยาเสพติดและสารต้านอนุมูลอิสระอาจจะมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการรักษาแบบดั้งเดิมและยารักษาโรคในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการศึกษาสารสกัดที่สกัดจากพืชวัสดุ
ได้รับในขั้วโลกขั้วโลกตัวทำละลายอินทรีย์น้อย
ทดสอบกับหกมาตรฐานแบคทีเรีย
( Staphylococcus aureus , Pseudomonas fluorescens sericea
, ,
kelebsiella ปอดบวม บาซิลลัส พูมิลัส ) และเชื้อรา Aspergillus flavus 4
,
rubrum ผู้ดูแลเชื้อเชื้อ โดย gypseum ก่อให้เกิดโรคผิวหนัง
.ทั้งหมดสกัดมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียอย่าง
ในส่วนของแบคทีเรียและสารสกัดเอทานอลมีกิจกรรมการยับยั้ง
สูงสุดเมื่อเทียบกับคลอโรฟอร์ม และเมทานอล
เอทิลอะซีเตทปิโตรเลียมอีเทอร์ . กิจกรรมในส่วนของเชื้อราเชื้อรา

แต่คลอโรฟอร์มสกัดมีกิจกรรมการยับยั้งสูงสุดตามที่
เมื่อเทียบกับเอทานอล , เมทานอล , เอทิลอะซีเตทและ
กินปิโตรเลียมจากการศึกษาครั้งนี้ จะเห็นว่าใบ
forskohlii สามารถเล่นบทบาทสำคัญในการจัดการและลด
cardiotonic . ผลด้านบนเปิด

เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการค้นหาใหม่ที่มีประสิทธิภาพต้านยาเสพติด และอาจเป็นประโยชน์ในการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างยอก


แบบดั้งเดิมและยาปัจจุบัน