Rhinitis, which occurs most commonl

Rhinitis, which occurs most commonly as allergic rhinitis, is an inflammation of the nasal membranes that is characterized by sneezing, nasal congestion, nasal itching, and rhinorrhea, in any combination.[2] Although allergic rhinitis itself is not life-threatening (unless accompanied by severe asthma or anaphylaxis), morbidity from the condition can be significant.

Essential update: New recommendations for treating allergic rhinitis released
The American Academy of Otolaryngology-Head and Neck Surgery Foundation has released new guidelines for treating patients ages 2 and up who suffer from allergic rhinitis.[7]

Key recommendations include the following:

For patients with a stuffy nose, nasal passage discoloration, and/or red and watery eyes, doctors should forgo sinus imaging process in favor of specific immunoglobulin E screening. Sinonasal imaging exposes patients to unnecessary radiation.
Intranasal steroids and oral antihistamines are recommended as first lines of treatment. Oral leukotriene receptor antagonists are not.
Sublingual or subcutaneous immunotherapy should be offered to patients who do not respond to pharmacologic therapy.
Acupuncture is an option for patients who do not wish to take meds.
Signs and Symptoms
History

Signs and symptoms of allergic rhinitis include the following:

Sneezing
Itching: Nose, eyes, ears, palate
Rhinorrhea
Postnasal drip
Congestion
Anosmia
Headache
Earache
Tearing
Red eyes
Eye swelling
Fatigue
Drowsiness
Malaise
Complications of this allergic rhinitis include the following:

Acute or chronic sinusitis
Otitis media
Sleep disturbance or apnea
Dental problems (overbite): Caused by excessive breathing through the mouth
Palatal abnormalities
Eustachian tube dysfunction
Physical examination

Nasal features of allergic rhinitis can include the following:

Nasal crease: A horizontal crease across the lower half of the bridge of the nose; caused by repeated upward rubbing of the tip of the nose by the palm of the hand
Thin, watery nasal secretions
Deviation or perforation of the nasal septum: May be associated with chronic rhinitis, although there can be other, unrelated causes
Manifestations of allergic rhinitis affecting the ears, eyes, and oropharynx include the following:

Ears: Retraction and abnormal flexibility of the tympanic membrane
Eyes: Injection and swelling of the palpebral conjunctivae, with excess tear production; Dennie-Morgan lines (prominent creases below the inferior eyelid); and dark circles around the eyes (“allergic shiners”), which are related to vasodilation or nasal congestion
Oropharynx: "Cobblestoning," that is, streaks of lymphoid tissue on the posterior pharynx; tonsillar hypertrophy; and malocclusion (overbite) and a high-arched palate
See Clinical Presentation for more detail.

Diagnosis
Laboratory tests used in the diagnosis of allergic rhinitis include the following:

Allergy skin tests (immediate hypersensitivity testing): An in vivo method of determining immediate (IgE-mediated) hypersensitivity to specific allergens
Radioallergosorbent test (RAST): Indirectly measures the quantity of immunoglobulin E (IgE) serving as an antibody to a particular antigen
Total serum IgE: Neither sensitive nor specific for allergic rhinitis, but the results can be helpful in some cases when combined with other factors
Total blood eosinophil count: Neither sensitive nor specific for the diagnosis, but, as with total serum IgE, can sometimes be helpful when combined with other factors
Imaging studies used in the diagnosis and evaluation of allergic rhinitis include the following:

Radiography: Can be helpful for evaluating possible structural abnormalities or to help detect complications or comorbid conditions, such as sinusitis or adenoid hypertrophy
Computed tomography scanning: Can be very helpful for evaluating acute or chronic sinusitis
Magnetic resonance imaging: Also can be helpful for evaluating sinusitis
See Workup for more detail.

Management
The management of allergic rhinitis consists of the following 3 major treatment strategies:

Environmental control measures and allergen avoidance: These include keeping exposure to allergens such as pollen, dust mites, and mold to a minimum
Pharmacologic management: Patients are often successfully treated with oral antihistamines, decongestants, or both; regular use of an intranasal steroid spray may be more appropriate for patients with chronic symptoms
Immunotherapy: This treatment may be considered more strongly with severe disease, poor response to other management options, and the presence of comorbid conditions or complications; immunotherapy is often combined with pharmacotherapy and environmental control

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Rhinitis ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยเป็นภูมิแพ้ rhinitis มีการอักเสบของเยื่อหุ้มโพรงจมูกที่โดยจาม คัดจมูก โพรงจมูก อาการคัน และ rhinorrhea ในชุดใด ๆ [2] แม้ว่า rhinitis แพ้ตัวเองเป็นไม่น่าจะมาพร้อมกับโรคหอบหืดรุนแรงหรือ anaphylaxis) morbidity จากเงื่อนไขสามารถอย่างมีนัยสำคัญปรับปรุงที่จำเป็น: คำแนะนำใหม่สำหรับรักษา rhinitis แพ้ออกอเมริกันออสการ์ของโสตศอนาสิกวิทยาหัวและคอผ่าตัดพื้นฐานได้ออกแนวทางใหม่สำหรับการรักษาผู้ป่วยอายุ 2 และ ค่าที่ประสบจากแพ้ rhinitis [7]คำแนะนำที่สำคัญมีดังนี้:สำหรับผู้ป่วยที่มีการคัดจมูก กระทางโพรงจมูก และ/หรือตาแดง และแฉะ แพทย์ควรยอมสละไซนัสภาพกระบวนการสามารถคัดกรองเฉพาะ immunoglobulin E ภาพ Sinonasal ครั้งผู้ป่วยรังสีไม่จำเป็นIntranasal สเตอรอยด์และยาแก้แพ้ปากแนะนำเป็นบรรทัดแรกของการรักษา ตัว leukotriene ปากตัวรับไม่Immunotherapy sublingual หรือใต้ควรได้รับการเสนอเพื่อผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการบำบัด pharmacologicการฝังเข็มเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการใช้เวชภัณฑ์อาการประวัติอาการแพ้ rhinitis รวมต่อไปนี้:จามอาการคัน: จมูก ตา หู โหว่Rhinorrheaหยด postnasalแออัดAnosmiaอาการปวดหัวเอ็คซ์ฉีกขาดตาสีแดงตาบวมความอ่อนเพลียอาการง่วงนอนต้องบอกภาวะแทรกซ้อนของ rhinitis แพ้นี้ได้แก่:ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังOtitis mediaหลับหรือ apneaปัญหาทันตกรรม (overbite): เกิดจากการหายใจมากเกินไปผ่านทางปากความผิดปกติของเสียงความผิดปกติของท่อ eustachianตรวจร่างกายโพรงจมูก rhinitis แพ้สามารถมีต่อไปนี้:รอยโพรงจมูก: รอยแนวนอนข้ามครึ่งล่างของดั้งจมูก เกิดจากการถูขึ้นซ้ำของปลายจมูกด้วยฝ่ามือบาง น้ำหลั่งโพรงจมูกเบี่ยงเบนหรือ perforation โพรงจมูก: อาจเกี่ยวข้องกับ rhinitis เรื้อรัง แม้ว่าอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ไม่เกี่ยวข้องลักษณะของผลกระทบต่อหู ตา และ oropharynx rhinitis แพ้รวมต่อไปนี้:หู: Retraction และยืดหยุ่นผิดปกติของเยื่อ tympanicตา: ฉีดและบวมของ conjunctivae palpebral ผลิตน้ำตาส่วนเกิน บรรทัด Dennie มอร์แกน (เด่น creases ใต้เปลือกตาน้อย); และคล้ำรอบตา ("แพ้ shiners"), ซึ่งเกี่ยวข้องกับ vasodilation หรือคัดจมูกOropharynx: "Cobblestoning นั่นคือ สาย lymphoid เนื้อเยื่อในหลอดลมหลัง tonsillar hypertrophy และ malocclusion (overbite) และโหว่ที่สูงปักษาดูงานนำเสนอทางคลินิกเพิ่มเติมการวินิจฉัยห้องปฏิบัติการทดสอบที่ใช้ในการวินิจฉัยของ rhinitis แพ้รวมต่อไปนี้:โรคภูมิแพ้ผิวทดสอบ (ทดสอบทันทีที่ไวต่อยา): เป็นวิธีการกำหนดทันที (IgE mediated) ที่ไวต่อยากับสารก่อภูมิแพ้เฉพาะในสัตว์ทดลองทดสอบ Radioallergosorbent (RAST): ประเมินปริมาณของ immunoglobulin E (IgE) ให้บริการเป็นการแอนติบอดีเพื่อตรวจหาเฉพาะทางอ้อมรวม serum IgE: ไม่สำคัญและ ไม่เฉพาะสำหรับ rhinitis แพ้ แต่ผลจะเป็นประโยชน์ในบางกรณีเมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆรวมของเลือดอีโอซิโน: ไม่สำคัญและ ไม่เฉพาะสำหรับการวินิจฉัย แต่ เช่นเดียวกับเซรั่มรวม IgE บางครั้งมีประโยชน์เมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆภาพการศึกษาใช้ในการวินิจฉัย และประเมิน rhinitis แพ้รวมต่อไปนี้:Radiography: จะมีประโยชน์ สำหรับการประเมินความผิดปกติของโครงสร้างที่เป็นไปได้ หรือ เพื่อช่วยตรวจหาภาวะแทรกซ้อนหรือเงื่อนไข comorbid เช่นไซนัสอักเสบหรือ adenoid hypertrophyคำนวณการสแกนเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์: มีประโยชน์มากในการประเมินไซนัสอักเสบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังภาพแม่เหล็กสั่นพ้อง: ยัง มีประโยชน์ในการประเมินไซนัสอักเสบดู Workup สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจัดการจัดการของ rhinitis แพ้ประกอบด้วยกลยุทธ์หลักรักษา 3 ต่อไปนี้:มาตรการควบคุมสิ่งแวดล้อมและหลีกเลี่ยง allergen: เหล่านี้รวมถึงการให้สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เช่นละอองเกสร ฝุ่น และแม่พิมพ์ต่ำจัดการ pharmacologic: ผู้ป่วยมักจะประสบความสำเร็จถือว่า พร้อมยาแก้แพ้ที่ปาก decongestants เมื่อใช้เป็นประจำการพ่นสเตอรอยด์ intranasal อาจที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังImmunotherapy: รักษานี้อาจเป็นมากขึ้นอย่างยิ่งกับโรคร้ายแรง อื่น ๆ จัดการ และการเป็น comorbid เงื่อนไขหรือภาวะแทรกซ้อน ตอบไม่ดี มักจะมีรวม immunotherapy pharmacotherapy และควบคุมสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคจมูกอักเสบซึ่งเกิดขึ้นมากที่สุดเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้คือการอักเสบของเยื่อจมูกที่โดดเด่นด้วยการจามคัดจมูกคันจมูกและ rhinorrhea ในการรวมกันใด ๆ . [2] ถึงแม้ว่าโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ตัวเองไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต (ยกเว้นกรณีที่ มาพร้อมกับโรคหอบหืดรุนแรงหรือภูมิแพ้) การเจ็บป่วยจากสภาพอย่างมีนัยสำคัญ. การปรับปรุงที่สำคัญ: คำแนะนำใหม่สำหรับการรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ปล่อยออกมาสถาบันการศึกษาอเมริกันโสตศอนาสิกศีรษะและลำคอมูลนิธิศัลยกรรมได้เปิดแนวทางใหม่สำหรับการรักษาผู้ป่วยทุกเพศทุกวัยที่ 2 และขึ้นที่ประสบ . จากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ [7] คำแนะนำที่สำคัญรวมถึงต่อไปนี้: สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคัดจมูกเปลี่ยนสีจมูกและ / หรือตาสีแดงและน้ำแพทย์ควรละเลยขั้นตอนการถ่ายภาพไซนัสในความโปรดปรานของอิมมูโนเฉพาะการตรวจคัดกรอง E การถ่ายภาพทางจมูก exposes ผู้ป่วยรังสีที่ไม่จำเป็น. เตียรอยด์และ Intranasal ระคายเคืองในช่องปากมีการแนะนำเป็นเส้นแรกของการรักษา คู่อริ leukotriene ช่องปากไม่ได้. immunotherapy ลิ้นหรือใต้ผิวหนังควรจะนำเสนอให้กับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา. การฝังเข็มเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการที่จะใช้ยา. สัญญาณและอาการประวัติอาการและอาการแสดงของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้รวมถึง ต่อไปนี้: จามคัน: จมูกตาหูปากrhinorrhea postnasal หยดแออัดรู้กลิ่นปวดหัวหูฉีกขาดดวงตาแดงตาบวมล้าง่วงนอนไม่พอใจภาวะแทรกซ้อนของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้นี้รวมถึงต่อไปนี้: เฉียบพลันหรือเรื้อรังไซนัสอักเสบหูชั้นกลางอักเสบรบกวนการนอนหลับหรือหยุดหายใจขณะปัญหาทันตกรรม (ฟันเหยิน ): เกิดจากการหายใจมากเกินไปผ่านปากเพดานปากผิดปกติของความผิดปกติของท่อยูสเตเชียตรวจร่างกายคุณสมบัติจมูกของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้อาจรวมถึงต่อไปนี้: จมูกรอยพับ: รอยพับแนวนอนครึ่งล่างของสะพานของจมูก; ที่เกิดจากการถูขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกของปลายจมูกด้วยฝ่ามือของมือบางน้ำมูกน้ำเบี่ยงเบนหรือขั้นเยื่อบุโพรงจมูก: อาจจะเชื่อมโยงกับโรคจมูกอักเสบเรื้อรังแม้ว่าจะมีคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุอาการของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้มีผลกระทบต่อ หูตาและ oropharynx ได้แก่ : หู: เพิกถอนและความยืดหยุ่นที่ผิดปกติของแก้วหูEyes: ฉีดและอาการบวมของ conjunctivae palpebral ด้วยการผลิตการฉีกขาดส่วนเกิน; สาย Dennie-มอร์แกน (รอยย่นที่โดดเด่นด้านล่างเปลือกตาด้อยกว่า); และความหมองคล้ำรอบดวงตา ("shiners แพ้") ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขยายตัวของหลอดเลือดหรือคัดจมูกoropharynx "Cobblestoning" ที่เป็นลายเส้นของเนื้อเยื่อน้ำเหลืองในหลอดลมหลัง; ยั่วยวน tonsillar; และสบฟัน (ฟันเหยิน) และเพดานสูงโค้งดูการนำเสนอทางคลินิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม. วินิจฉัยการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการวินิจฉัยของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้รวมถึงต่อไปนี้: การทดสอบโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (การทดสอบการแพ้ทันที): วิธีการในร่างกายของการกำหนดทันที (IgE -mediated) ไวต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจงทดสอบ Radioallergosorbent (RAST): อ้อมวัดปริมาณของอิมมูโน E (IgE) ที่ทำหน้าที่เป็นแอนติบอดีเพื่อแอนติเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งIgE ในซีรั่มทั้งหมด: ทั้งที่มีความสำคัญไม่เฉพาะเจาะจงสำหรับโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ แต่ผลที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการ บางกรณีเมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆรวมนับ eosinophil เลือดทั้งที่มีความสำคัญไม่เฉพาะสำหรับการวินิจฉัย แต่เช่นเดียวกับเซรั่ม IgE รวมบางครั้งอาจจะเป็นประโยชน์เมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆการศึกษาการถ่ายภาพที่ใช้ในการวินิจฉัยและการประเมินผลของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้รวมถึง ต่อไปนี้: ถ่ายภาพด้วยรังสี: สามารถเป็นประโยชน์สำหรับการประเมินความผิดปกติของโครงสร้างเป็นไปได้หรือที่จะช่วยให้ตรวจพบภาวะแทรกซ้อนหรือเงื่อนไข comorbid เช่นไซนัสอักเสบหรือ Adenoid ยั่วยวนสแกนเอกซเรย์คำนวณ: สามารถเป็นประโยชน์มากสำหรับการประเมินโรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันหรือเรื้อรังถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กนอกจากนี้จะมีประโยชน์สำหรับ การประเมินไซนัสworkup ดูรายละเอียดเพิ่มเติม. การบริหารจัดการของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ประกอบด้วย 3 ต่อไปนี้กลยุทธ์การรักษาที่สำคัญ: มาตรการควบคุมสิ่งแวดล้อมและการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้: การรักษาเหล่านี้รวมถึงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เช่นละอองเกสรดอกไม้ไรฝุ่นและเชื้อราให้น้อยที่สุดการจัดการให้ยา ผู้ป่วยมักจะได้รับการรักษาประสบความสำเร็จกับระคายเคืองในช่องปาก decongestants หรือทั้งสอง; ใช้งานปกติของสเปรย์ intranasal เตียรอยด์อาจจะเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังทางระบบภูมิคุ้มกัน: การรักษานี้อาจได้รับการพิจารณามากขึ้นอย่างมากกับความรุนแรงของโรคการตอบสนองที่ไม่ดีให้กับตัวเลือกการจัดการอื่น ๆ และการปรากฏตัวของเงื่อนไข comorbid หรือภาวะแทรกซ้อน; วัคซีนภูมิแพ้มักจะรวมกับการรักษาด้วยยาและการควบคุมสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ริดสีดวงจมูก ซึ่งเกิดขึ้นมากที่สุด เช่น จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไม่มีการอักเสบในช่องจมูก membranes ที่เป็นลักษณะการจาม คัดจมูก คันจมูก และมีน้ํามูก ในการรวมกันใด ๆ [ 2 ] แม้ว่าโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ตัวเองไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ( ถ้าไม่หืดรุนแรงหรือ anaphylaxis ) , การเจ็บป่วยจากภาวะสามารถอย่างมีนัยสำคัญ

ที่สำคัญการปรับปรุง :แนวทางใหม่สำหรับการรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ออก
American Academy of โสตศอนาสิกวิทยาศีรษะและคอการผ่าตัดได้เปิดตัวมูลนิธิแนวทางใหม่สำหรับการรักษาผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย 2 และผู้ที่ประสบจากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ [ 7 ]

ที่สำคัญ ข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้

สำหรับผู้ป่วยคัดจมูกจมูกผ่านกระ และ / หรือ ดวงตาสีแดง และ น้ำ ,แพทย์ควรละเลยกระบวนการการถ่ายภาพไซนัสในความโปรดปรานของอิมมูโนโกลบูลินเฉพาะ e คัดกรอง ภาพ sinonasal exposes ผู้ป่วยรังสีโดยไม่จำเป็น
โคผ่านช่องปาก antihistamines แนะนำเป็นบรรทัดแรกของการรักษา ในช่องปากได้รับยากลุ่ม leukotriene
ถูกใต้ลิ้น หรือใต้ผิวหนัง immunotherapy ควรได้รับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาบำบัด การฝังเข็มเป็นทางเลือก
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องใช้ยา



ประวัติและอาการสัญญาณและอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้รวมถึงต่อไปนี้ :


จามคันจมูก ตา หู ลิ้น
มีน้ํามูก
ออกเป็นหยด postnasal
คั่ง



อาการปวดหูปวดศีรษะถ่ายภาพใกล้ฉีก

ดวงตาสีแดงดวงตาบวม



อาการวิงเวียนอ่อนเพลีย ภาวะแทรกซ้อนของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้นี้รวมถึงต่อไปนี้ :

เฉียบพลันหรือเรื้อรังโรคหูน้ำหนวก ไซนัสอักเสบ

รบกวนการนอนหลับ apnea
หรือปัญหาฟัน ( ฟันเหยิน ) : เกิดจากการหายใจผ่านทางปาก

Eustachian Tube Dysfunction เพดานปากผิดปกติ


จมูกตรวจคุณสมบัติของเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้ รวมถึงต่อไปนี้ :

จมูกย่น :ในรอยพับในครึ่งล่างของสะพานของจมูก ; ที่เกิดขึ้นซ้ำถูปลายจมูกจากฝ่ามือของ

ส่วนจมูกบาง , น้ำหลั่งหรือทะลุของผนังกั้นโพรงจมูก : อาจจะเกี่ยวข้องกับโรคเยื่อจมูกอักเสบเรื้อรัง แม้ว่าจะมี อื่น ๆ , สาเหตุลักษณะอาการของ
ไม่เกี่ยวข้องกัน โรคภูมิแพ้มีผลต่อหู , ตา ,คอหอยส่วนปากและรวมถึงต่อไปนี้ :

หู : ถอนคำพูดที่ผิดปกติและความยืดหยุ่นของตา เยื่อแก้วหู
: การฉีดและการบวมของ conjunctivae palpebral , ที่มีการผลิตฉีกส่วนเกิน เดนนี่ มอร์แกนสาย ( เด่นรอยยับด้านล่างเปลือกตาด้านล่าง ) ; และรอยคล้ำรอบดวงตา ( " shiners " แพ้ ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มหรือจมูก
คอหอยส่วนปาก :" cobblestoning " ซึ่งก็คือลายเส้นของเนื้อเยื่อน้ำเหลืองบนคอหอยด้านหลัง ; tonsillar ยั่วยวน และด้านหลัง ( ฟันเหยิน ) และเพดานโค้งสูง
ดูการนำเสนอทางคลินิกสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม


การทดสอบทางห้องปฏิบัติการที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้รวมถึงต่อไปนี้ :

โรคภูมิแพ้ผิวหนังการทดสอบ ( ทดสอบก่อนได้ทันที ) :หนึ่งในวิธีการโดยกำหนดทันที ( IgE ) )
radioallergosorbent ทดสอบภูมิแพ้โดยเฉพาะภูมิแพ้ ( RAST ) : ทางอ้อมมาตรการปริมาณของอิมมูโนโกลบูลิน E ( IgE ) ให้บริการเป็นไปโดยเฉพาะแอนติเจนแอนติบอดี IgE ไม่ไวเซรั่ม
ทั้งหมดหรือเฉพาะโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นประโยชน์ในบางกรณีเมื่อรวม
มีปัจจัยอื่น ๆจำนวนทั้งหมด : เม็ดเลือดไม่อ่อนไหวหรือที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการวินิจฉัย แต่เป็นกับ IgE พบ บางครั้งสามารถเป็นประโยชน์เมื่อรวมกับปัจจัยอื่น ๆที่ใช้ในการวินิจฉัย
ภาพการศึกษาและประเมินโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้รวมถึงต่อไปนี้ :

คับ : จะเป็นประโยชน์สำหรับการประเมินความผิดปกติที่เป็นไปได้หรือเพื่อช่วยในการตรวจหาภาวะแทรกซ้อนหรือ comorbid เงื่อนไข ,เช่น ไซนัสอักเสบ หรือเถ้าแก่ยั่วยวน
คำนวณสแกนเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ : สามารถเป็นประโยชน์มากสำหรับการประเมินเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง ไซนัสอักเสบ
แม่เหล็กใหม่ : ยังสามารถเป็นประโยชน์สำหรับการประเมินไซนัสอักเสบ
ดูตรวจสอบ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม


การจัดการการจัดการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ประกอบด้วยดังต่อไปนี้ 3 สาขาการรักษากลยุทธ์ :

และมาตรการควบคุมสิ่งแวดล้อม การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ :เหล่านี้รวมถึงการรักษาการก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น และปั้นให้น้อยที่สุด
ยาการจัดการ : ผู้ป่วยมักจะได้รับการรักษาด้วยยาแก้แพ้ decongestants ช่องปากเรียบร้อยแล้ว , หรือทั้งสองอย่าง ใช้ปกติของการฉีดสเตียรอยด์ผ่านอาจจะเหมาะสมมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยเรื้อรังอาการ
immunotherapy : การรักษานี้อาจจะพิจารณามากขึ้นอย่างมากกับโรค รุนแรงการตอบสนองไม่ดีกับตัวเลือกการจัดการอื่น ๆและการปรากฏตัวของเงื่อนไข comorbid หรือภาวะแทรกซ้อน แม่โพสพมักจะรวมกับเภสัชบำบัดและการควบคุมสิ่งแวดล้อม