The NNIS system was established in

The NNIS system was established in January 1970 and is currently the only nationwide source of information on nosocomial infections in the United States [2,31. This report examines surveillance among NNIS hospitals performing hospital-wide surveillance from 1980 to 1989. Patients were monitored for all nosocomial infections at all body sites. Standardized definitions for infection are provided to the participating hospitals [4] but a variety of case-finding methods were used. Various methods for performing antimicrobial susceptibilities, including disk diffusion, macrobroth, and
microdilution are used, but each hospital must provide evidence of proficiency in the method being used. Data from each hospital are submitted monthly to the CDC. The percentage of coagulase-negative staphylococci
that were reported to be resistant to methicillin, oxacillin, or nafcillin (MRSE) was determined by estimating the mean percentage for 1989 for all hospitals that reported data. Hospitals that did not report susceptibility results for at least 20 coagulase-negative staphylococci in the year were ex- eluded from the analysis. Changes in percent of MRSE between two consecutive years were estimated using only the data from hospitals that reported to NNIS in both years. In this way, the
estimated change in percent MRSE over the period 1980-1989 was not biased by the effects of sample migration, i.e., hospitals joining and leaving NNIS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบ NNIS ก่อตั้งขึ้นใน 1970 มกราคม และเป็นแหล่งข้อมูลในการติดเชื้อทั้งชุดในสหรัฐอเมริกา [2,31 ทั่วประเทศเท่านั้น รายงานนี้ตรวจสอบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลของ NNIS ทำเฝ้าโรงพยาบาลจากปี 1980 ถึงปี 1989 ผู้ป่วยมีการตรวจสอบสำหรับการติดเชื้อทั้งชุดทั้งหมดในไซต์ทั้งหมดที่ร่างกาย ข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับการติดเชื้อได้ให้โรงพยาบาลเข้าร่วม [4] แต่ความหลากหลายของวิธีการหากรณีใช้ วิธีการต่าง ๆ สำหรับการดำเนินการต้านจุลชีพ susceptibilities รวมทั้งการกระจายดิสก์ macrobroth และใช้ microdilution แต่ละโรงพยาบาลต้องแสดงหลักฐานความสามารถวิธีการที่ใช้ ข้อมูลจากแต่ละโรงพยาบาลจะถูกส่งเป็นรายเดือนไป CDC เปอร์เซ็นต์ของค่าลบ coagulase สแตฟฟิลที่รายงานจะทนต่อ methicillin, oxacillin หรือ nafcillin (MRSE) ถูกกำหนด โดยการประเมินเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยสำหรับ 1989 สำหรับโรงพยาบาลทั้งหมดที่รายงานข้อมูล โรงพยาบาลที่ไม่ได้รายงานผลไวสแตฟฟิล coagulase เป็นลบน้อยกว่า 20 ปี ได้เช่น-eluded จากการวิเคราะห์การ เปลี่ยนแปลงร้อยละของ MRSE ระหว่างสองปีถูกประเมินโดยใช้เฉพาะข้อมูลจากโรงพยาบาลที่รายงาน NNIS ในปี ด้วยวิธีนี้ การเปลี่ยนแปลงประมาณ MRSE เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 1980-1989 ถูกไม่ลำเอียง โดยผลกระทบของการย้ายตัวอย่าง เช่น โรงพยาบาลที่เข้าร่วม และออก NNIS

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระบบ NNIS ก่อตั้งขึ้นในมกราคม 1970 และปัจจุบันเป็นเพียงแหล่งทั่วประเทศของข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อในโรงพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริกา [2,31 รายงานนี้ตรวจสอบเฝ้าระวังในหมู่โรงพยาบาล NNIS การดำเนินการเฝ้าระวังในโรงพยาบาลที่กว้างจากปี 1980 ปี 1989 ผู้ป่วยได้รับการตรวจสอบสำหรับการติดเชื้อในโรงพยาบาลทั้งหมดในเว็บไซต์ของร่างกายทั้งหมด คำจำกัดความที่เป็นมาตรฐานสำหรับการติดเชื้อให้แก่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ [4] แต่ความหลากหลายของวิธีการหากรณีถูกนำมาใช้ วิธีการต่างๆในการดำเนินการความไวต่อยาต้านจุลชีพรวมถึงการแพร่กระจายของดิสก์ macrobroth และ
microdilution จะใช้ แต่โรงพยาบาลแต่ละคนจะต้องแสดงหลักฐานของความสามารถในวิธีการที่ถูกนำมาใช้ ข้อมูลจากโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะส่งรายเดือนที่ CDC ร้อยละของเชื้อ coagulase ลบ
ที่ถูกต้องไปรายงานตัวทนต่อ methicillin, oxacillin หรือ nafcillin (MRSE) ถูกกำหนดโดยประมาณร้อยละค่าเฉลี่ย 1989 สำหรับโรงพยาบาลทั้งหมดที่รายงานข้อมูล โรงพยาบาลที่ไม่ได้รายงานผลความอ่อนแออย่างน้อย 20 เชื้อ coagulase ลบในปีที่ถูกอดีตเลือนหายไปจากการวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงในเปอร์เซ็นต์ของ MRSE ระหว่างสองปีติดต่อกันประมาณโดยใช้ข้อมูลเฉพาะจากโรงพยาบาลที่ต้องไปรายงานตัว NNIS ทั้งในปีที่ผ่านมา ในวิธีนี้
การเปลี่ยนแปลงประมาณร้อยละ MRSE ในช่วง 1980-1989 ไม่ได้ลำเอียงโดยผลกระทบของการย้ายถิ่นตัวอย่างเช่นโรงพยาบาลเข้าร่วมและออก NNIS