There’s two sides to this. One is t

There’s two sides to this. One is the obvious point that if you’re expecting your workers to stick around longer then you’re also going to be willing to invest in them rather more. Because you’ll be able to amortise your investment in them over that longer period that they’re working for you. And there’s the more obvious point of that end goal: better trained workers will be, ceteris paribus, more productive. And thus we can see that Walmart is trying to move from one labour model to another:

Economists who study retail distinguish between “low-road” and “high-road” employers. One group keeps labor costs down, the other invests more in workers and reaps the benefits in higher productivity. Cost-conscious Wal-Mart is trying to move toward the high road.

This is all entirely traditional labour economics by the way, there’s nothing mysterious about any of it. However, there is a sting in the tail here.

For well over a decade now I’ve been pointing out that yes, sure, Costco pays its workers very much better than Walmart does. But it also uses, per unit of sales, about half the labour that Walmart does. Thus the shouting that Walmart can and should pay its workers like Costco does comes with that sting in that tail: for moving to the same pay structure would entail at least attempting to move to the same productivity levels. Meaning that Walmart would employ about half the number of people per unit of sales than it currently does. And now we’re seeing that Walmart is taking at least baby steps to that higher road labour model. And the interesting thing is going to be, well, is the prediction about employment levels going to come true too?

Just in a little more detail. Productivity is the amount of work (really, the amount of value added) that we get from one hour of labour. Raising productivity thus means getting more value added from one hour of labour. And if sales are static that then obviously also means using less labour per unit of sales. Thus raising productivity is the very same thing as saying that less labour is going to be used. This still holds even if sales or output rise: there’s still less labour going to be used than there would have been at the earlier, lower, level of labour productivity.

And the way to test it is pretty simple, because we can find the numbers we need to measure labour productivity in the Walmart accounts. We know the number employed in the US….some 1.4 million….and we know what sales are in the US…$288 billion….so labour productivity is $205,000 and change per worker. That’s actually sales not value added but that still gives us what we want, a number to compare over time (Costco’s sales per employee are about double this). As labour productivity rises as a result of more training and lower churn from the pay rises then we would expect to see this number rise. More sales per employee. And then we will also be able to calculate how many jobs have been lost to this rise in productivity. For, say, that sales rise to $250k per employee. We can then calculate how many employees would have been needed if productivity was still the old, lower, number. The number of jobs lost will therefore be the difference between the number actually employed and the number who would have been without the productivity gain.

Yes, obviously, we would need to discount this for the general inflation rate.

My prediction is that productivity will indeed rise at Walmart in the coming years. And also that sales per employee will rise, meaning that the number employed will fall. Not fall necessarily from the current absolute level, but fall relative to where it would have been absent the productivity increase. Anyone want to bet against that prediction?

My latest book is "The No Breakfast Fallacy, why the Club of Rome was wrong about us running out of resources." Amazon and Amazon.co.uk. $6.99 and relevant prices in other currencies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีสองด้านนี้ หนึ่งคือจุดชัดเจนว่า ถ้าคุณคาดว่าแรงงานจะติดอยู่อีกต่อไป แล้วคุณยังจะเต็มใจที่จะลงทุนได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากคุณจะสามารถลงทุนในระยะเวลาที่นานกว่าที่พวกเขากำลังทำงานสำหรับคุณ amortise และมีจุดที่สิ้นสุดเป้าหมายชัดเจนมากขึ้น: ดีผ่านการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานจะ ceteris paribus มากขึ้น และดังนั้น เราจะเห็นว่า วอล-มาร์ตพยายามย้ายจากแรงรุ่นหนึ่งไปยังอีก:นักเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาขายปลีกแยกระหว่าง "ต่ำถนน" และนาย "สูงถนน" กลุ่มหนึ่งเก็บค่าแรงลง อื่น ๆ ลงทุนเพิ่มเติมในงาน และ reaps ประโยชน์ในผลผลิตที่สูงขึ้น ต้นทุนสติหยั่นหวอหยุ่น-มินิมาร์ทพยายามจะย้ายไปอยู่สูงนี่คือเศรษฐศาสตร์แรงงานทั้งหมดแบบดั้งเดิมทั้งหมดโดยทาง ไม่มีอะไรลึกลับเกี่ยวกับมัน อย่างไรก็ตาม มีอยู่ต่อยกับหางนี่สำหรับดีกว่าทศวรรษที่ผ่านมาตอนนี้ผมได้ชี้ออกมาว่าใช่ แน่ สนใจจ่ายของแรงงานมากกว่า Walmart ไม่ แต่ยัง ใช้ ต่อหน่วยขาย แรงงานประมาณครึ่งที่ Walmart ไม่ จึง shouting ที่วอล-มาร์ตสามารถ และควรจ่ายของแรงงานเช่นไม่สนใจที่มาพร้อมกับที่ต่อยในหางที่: ย้ายการชำระเงินเดียวกัน โครงสร้างจะอันน้อย พยายามย้ายระดับการผลิตเดียวกัน หมายความ ว่า วอล-มาร์ตจะจ้างประมาณครึ่งจำนวนคนต่อหน่วยขายมากกว่าปัจจุบันไม่ และตอนนี้ เรากำลังเห็นว่า วอล-มาร์ตกำลังเด็กน้อยขั้นตอนแบบจำลองแรงงานถนนที่สูงกว่า และสิ่งน่าสนใจกำลังจะ ดี เป็นการคาดเดาเกี่ยวกับระดับการจ้างงานที่ไปมาจริงเกินไปหรือไม่ในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มเติม ผลผลิตคือ จำนวนของงาน (จริง ๆ ยอดเงินมูลค่าเพิ่ม) ที่เราได้รับจากหนึ่งชั่วโมงของแรงงาน เพิ่มผลผลิตดังนั้นความหมาย ของการเพิ่มจากหนึ่งชั่วโมงของแรงงานเพิ่มขึ้น และถ้าขาย คงที่แล้วอย่างชัดเจนนอกจากนี้ยังหมายถึงใช้แรงงานน้อยลงต่อหน่วยการขาย จึง เพิ่มผลผลิตได้มากเหมือนกับบอกว่า แรงน้อยไปใช้ นี้ยังมีแม้ว่าจะขายหรือผลผลิตเพิ่มขึ้น: มีแรงงานยังน้อยไปใช้กว่าจะมีที่ก่อนหน้า ต่ำ ระดับของผลิตภาพแรงงานและวิธีการทดสอบคือง่าย เนื่องจากเราสามารถค้นหาหมายเลขที่เราต้องการวัดผลิตภาพแรงงานในบัญชีวอล-มาร์ต เรารู้จำนวนจ้างงานในสหรัฐอเมริกา...บาง 1.4 ล้าน... และเรารู้ว่าอะไรขายในสหรัฐอเมริกา... 288 พันล้าน เหรียญ...เพื่อผลิตเป็น $205,000 และเปลี่ยนแปลงต่อผู้ปฏิบัติงาน ที่มีจริงขายมูลค่าไม่เพิ่ม แต่ที่ยังทำให้เราว่าเราต้องการ หมายเลขเพื่อการเปรียบเทียบเวลา (ขายของสนใจต่อพนักงานเป็นเกี่ยวกับคู่นี้) เป็นผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจาก ผลาญจากค่าจ้างต่ำ และฝึกอบรมมากขึ้น แล้วเราคาดหวังว่าจะเห็นขึ้นหมายเลขนี้ ขายเพิ่มเติมสำหรับพนักงานแต่ละ แล้ว เราจะยังสามารถคำนวณจำนวนงานได้สูญหายไปนี้ขึ้นในผลผลิต สำหรับ กล่าวว่า ที่ขายเพิ่มขึ้นไป $250k ต่อพนักงาน เราสามารถคำนวณหาจำนวนพนักงานจะได้รับประสิทธิภาพยังคงเก่า ต่ำกว่า จำหมายเลขได้ จำนวนงานที่หายไปดังนั้นจะเป็นผลต่างระหว่างจำนวนจริง จ้างและจำนวนที่จะได้รับโดยไม่ได้รับผลผลิตใช่ แน่นอน เราจะได้ส่วนลดนี้สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปฉันคาดเดาได้ว่า ผลผลิตจะแน่นอนเพิ่มขึ้นที่วอล-มาร์ตในปีที่ผ่านมา และยัง ขายนั้นต่อพนักงานจะเพิ่ม ขึ้น หมายความ ว่า จะตกที่หมายเลข ไม่ตกจำเป็นต้องจากระดับปัจจุบันที่แน่นอน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับที่มันจะได้ขาดการเพิ่มผลผลิต ใครต้องการใกล้เคียงกับที่คาดเดาหรือไม่หนังสือล่าสุดของฉันคือ "การไม่มีอาหารเช้าเข้าใจผิด ทำไมคลับของโรมผิดเกี่ยวกับเราทำงานออกจากทรัพยากร" อเมซอนและ Amazon.co.uk $6.99 และราคาในสกุลเงินอื่นที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีสองด้านนี้คือ หนึ่งเป็นจุดที่เห็นได้ชัดว่าถ้าคุณกำลังคาดหวังว่างานของคุณจะติดรอบอีกต่อไปแล้วคุณยังจะต้องยินดีที่จะลงทุนในพวกเขาค่อนข้างมาก เพราะคุณจะสามารถที่จะตัดจำหน่ายการลงทุนของคุณในพวกเขามากกว่าที่ระยะเวลานานว่าพวกเขากำลังทำงานสำหรับคุณ และมีจุดที่เห็นได้ชัดมากขึ้นจากเป้าหมายสุดท้ายว่าการฝึกอบรมแรงงานที่ดีขึ้นจะเป็น ceteris paribus, มีประสิทธิผลมากขึ้น และทำให้เราสามารถเห็นได้ว่าวอลมาร์พยายามที่จะย้ายจากรูปแบบแรงงานหนึ่งไปยังอีก: นักเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาค้าปลีกความแตกต่างระหว่าง "ต่ำถนน" และ "สูงถนน" นายจ้าง ค่าใช้จ่ายในกลุ่มหนึ่งที่ช่วยให้แรงงานลงที่อื่น ๆ มากขึ้นในการลงทุนและแรงงานเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในการผลิตที่สูงขึ้น ต้นทุนใส่ใจ Wal-Mart จะพยายามที่จะย้ายไปยังถนนสูง. ทั้งหมดนี้เป็นเศรษฐศาสตร์แรงงานแบบดั้งเดิมทั้งหมดโดยวิธีการที่ไม่มีอะไรลึกลับเกี่ยวกับการใด ๆ ของมัน แต่มีการต่อยในหางที่นี่. สำหรับดีกว่าทศวรรษที่ผ่านมาตอนนี้ผมได้รับการชี้ให้เห็นว่าใช่แน่นอน, Costco จ่ายคนงานมากดีกว่า Walmart ไม่ แต่ก็ยังใช้ต่อหน่วยของการขายประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานที่ Walmart ไม่ จึงตะโกนว่า Walmart สามารถและควรจะจ่ายค่าแรงคนงานเช่น Costco จะมาพร้อมกับต่อยที่หางว่าสำหรับการย้ายไปยังโครงสร้างการจ่ายเงินเดียวกันจะนำมาซึ่งอย่างน้อยพยายามที่จะย้ายไปที่ระดับการผลิตเดียวกัน หมายความว่า Walmart จะจ้างประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนคนต่อหน่วยของการขายมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ และตอนนี้เรากำลังเห็นว่าวอลมาร์คือการอย่างน้อยขั้นตอนทารกที่ถนนรูปแบบแรงงานที่สูงขึ้น และสิ่งที่น่าสนใจเป็นไปได้ดีคือการคาดการณ์เกี่ยวกับระดับการจ้างงานจะเป็นจริงขึ้นมามากเกินไปหรือไม่เพียงในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ผลผลิตเป็นจำนวนเงินของการทำงาน (จริงๆปริมาณของมูลค่าเพิ่ม) ที่เราได้รับจากหนึ่งชั่วโมงของการใช้แรงงาน เพิ่มผลผลิตจึงหมายถึงการได้รับมูลค่าเพิ่มจากหนึ่งชั่วโมงของการใช้แรงงาน และถ้าขายจะคงที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดนอกจากนี้ยังหมายถึงการใช้แรงงานน้อยลงต่อหน่วยของการขาย ดังนั้นการเพิ่มผลผลิตเป็นสิ่งเดียวกันมากที่บอกว่าแรงงานน้อยลงจะถูกนำมาใช้ นี้ยังคงถือแม้ว่าการขายหรือการส่งออกที่เพิ่มขึ้น: ยังคงมีแรงงานน้อยลงไปได้ใช้กว่าก็จะได้รับที่ก่อนหน้านี้ต่ำกว่าระดับของผลิตภาพแรงงาน. และวิธีการทดสอบมันเป็นเรื่องง่ายสวยเพราะเราสามารถหาตัวเลข เราต้องวัดผลิตภาพแรงงานในบัญชี Walmart เรารู้ว่าจำนวนการจ้างงานในสหรัฐบางคน ... 1400000 ... และเรารู้ว่าสิ่งที่ขายอยู่ในสหรัฐอเมริกา ... $ 288,000,000,000 ... ผลิตภาพแรงงานดังนั้นเป็น $ 205,000 และการเปลี่ยนแปลงต่อผู้ปฏิบัติงาน ที่จริงไม่ได้ขายมูลค่าเพิ่ม แต่ที่ยังคงทำให้เรามีสิ่งที่เราต้องการที่จะเปรียบเทียบตัวเลขในช่วงเวลา (ขาย Costco ต่อพนักงานที่เกี่ยวกับคู่นี้) ขณะที่ผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการฝึกอบรมมากขึ้นและปั่นที่ลดลงจากการจ่ายเงินที่เพิ่มขึ้นแล้วเราจะคาดหวังที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นจำนวนนี้ ยอดขายเพิ่มขึ้นต่อพนักงาน แล้วเรายังจะสามารถที่จะคำนวณจำนวนงานที่ได้รับหายไปในการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ เพราะพูดว่ายอดขายเพิ่มขึ้นถึง $ 250k ต่อพนักงาน จากนั้นเราจะสามารถคำนวณจำนวนพนักงานจะได้รับสิ่งจำเป็นหากการผลิตก็ยังคงเดิมที่ต่ำกว่าจำนวน จำนวนของงานที่หายไปจึงจะมีความแตกต่างระหว่างจำนวนที่ใช้จริงและจำนวนที่จะได้รับโดยไม่ต้องได้รับผลผลิตที่. ใช่เห็นได้ชัดว่าเราจะต้องลดราคานี้สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป. ทำนายของฉันคือการผลิตจริงจะ เพิ่มขึ้นในวอลมาร์ในปีที่ผ่านมา และยังว่ายอดขายต่อพนักงานจะเพิ่มขึ้นหมายความว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลง ไม่จำเป็นต้องลดลงจากระดับที่แน่นอนในปัจจุบัน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับที่มันจะได้รับการขาดการเพิ่มขึ้นของการผลิต ทุกคนต้องการที่จะเดิมพันกับการคาดการณ์ที่? หนังสือเล่มล่าสุดของฉันคือ "ความเข้าใจผิดไม่รวมอาหารเช้าทำไมคลับของกรุงโรมเป็นความผิดเกี่ยวกับเราวิ่งออกมาจากทรัพยากร." Amazon และ Amazon.co.uk $ 6.99 และราคาที่เกี่ยวข้องในสกุลเงินอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มี 2 ด้านนี้ เป็นจุดที่เห็นได้ชัดว่าถ้าคุณกำลังคาดหวังว่าพนักงานของคุณจะอยู่อีกต่อไปแล้วคุณจะยินดีที่จะลงทุนในพวกเขาค่อนข้างมาก เพราะคุณจะสามารถหักกลบลบล้างการลงทุนของคุณในพวกเขาที่ระยะที่พวกเขากำลังทำงานสำหรับคุณ และมีประเด็นที่ชัดเจนมากขึ้นของเป้าหมาย : ฝึกคนงานที่ดีจะceteris paribus มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า Walmart พยายามที่จะย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกรูปแบบ แรงงาน :

นักเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาค้าปลีกแยกแยะระหว่างต่ำ " ถนน " และ " ถนน " นายจ้าง กลุ่มหนึ่ง ทำให้ต้นทุนด้านแรงงานลง อื่น ๆที่ลงทุนเพิ่มเติมในคนงานและ reaps ประโยชน์ในการผลิตที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายสติ Wal มาร์ทพยายามที่จะย้ายไปยังถนนสูง

ทั้งหมดนี้คือแรงงานเศรษฐศาสตร์แบบดั้งเดิมทั้งหมดโดยวิธีการที่ไม่มีอะไรลึกลับใด ๆเกี่ยวกับมัน อย่างไรก็ตาม มีต่อยในหางที่นี่

สำหรับดีกว่าทศวรรษตอนนี้ผมได้ชี้ว่าได้ค่ะ Costco จ่ายคนงานมากดีกว่าที่ Walmart ไม่ได้ แต่ก็ยังใช้ต่อหน่วยของการขาย ประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานที่ Walmart ไม่ได้จึงตะโกนว่า Walmart สามารถและควรจะจ่ายคนงานของตนเช่น Costco ยังมาพร้อมกับที่ Sting ในหาง : ย้ายไปยังโครงสร้างค่าจ้างเดียวกันต้องครอบคลุมอย่างน้อยพยายามที่จะย้ายไปยังระดับการผลิตเดียวกัน ความหมายว่า Walmart จะใช้ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนคนต่อหน่วยของการขายกว่าปัจจุบัน .และตอนนี้ เราเห็นที่ Walmart ใช้อย่างน้อยขั้นตอนทารกที่สูงกว่าถนนแรงงาน รุ่นที่ และสิ่งที่น่าสนใจ คือ จะ ดี คือ การคาดการณ์เกี่ยวกับระดับการจ้างงาน จะเป็นจริงแล้ว

แค่เล็กน้อยรายละเอียดเพิ่มเติม การผลิตเป็นปริมาณงาน ( จริงๆ ปริมาณมูลค่าเพิ่มที่ได้จากหนึ่งชั่วโมงของแรงงานการเพิ่มผลผลิตจึงหมายถึงการเพิ่มมูลค่ามากขึ้นจากหนึ่งชั่วโมงของแรงงาน ถ้าขายคงที่แล้วเห็นได้ชัดว่าใช้น้อย แรงงานต่อหน่วยการขาย ดังนั้นการเพิ่มผลผลิตเป็นสิ่งที่เหมือนกับว่าแรงงานน้อยจะใช้ นี้ยังคงถือแม้ว่ายอดขายเพิ่มขึ้น ผลผลิต : หรือยังมีน้อย แรงงานจะต้องใช้มากกว่านั้น จะได้รับ ที่ก่อนหน้านี้ ต่ำกว่า ระดับของผลิตภาพแรงงาน

และวิธีทดสอบมันสวยเรียบง่าย เพราะเราสามารถหาตัวเลขที่เราต้องการวัดผลิตภาพแรงงานใน Walmart บัญชี เรารู้เบอร์ที่ใช้ในบาง 1.4 ล้าน . . . . . . . . . . . . และเรารู้ว่าสิ่งที่ขายใน US $ 288 ล้านบาท . . . . . . . . . . . . . .เพื่อผลิตภาพแรงงานคือ $ 205 , 000 และเปลี่ยน / คนงาน ที่จริงยอดขายไม่เพิ่มมูลค่า แต่ยังให้สิ่งที่เราต้องการ หมายเลขเปรียบเทียบตลอดเวลา ( Costco ยอดขายต่อพนักงานเกี่ยวกับคู่นี้ ) เป็นผลิตภาพแรงงานที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการปั่นมากขึ้นและลดลงจากการจ่ายเพิ่มขึ้นแล้ว เราคาดหวังที่จะเห็นตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น ยอดขายต่อพนักงานแล้วเราก็จะสามารถคำนวณงานกี่ได้รับการสูญหายจะเพิ่มขึ้นในการผลิต อย่างที่บอก ว่ายอดขายเพิ่มขึ้น $ 250k ต่อพนักงาน เราสามารถคำนวณจำนวนพนักงานจะได้รับถ้าผลผลิตยังเก่า , ลด , เบอร์โทรจำนวนของงานที่สูญเสียไป จึงมีความแตกต่างระหว่างตัวเลขจริงที่ใช้และจำนวนผู้ที่จะได้รับโดยไม่ต้องเพิ่มผลผลิตให้ได้

ใช่ แน่นอน เราต้องการเพื่อส่วนลดนี้ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป

ผมคาดการณ์ว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นที่ Walmart ในมา และยังขายต่อพนักงาน จะขึ้น