A woman who conducts herself immora

A woman who conducts herself immorally with a man, who is forbidden to her, unless compelled to do, so by force or threat on the part of the man, is guilty of the crime of adultery. If she is threatened or forced into such immoral behavior, it is only the man who is guilty. A woman under protection who behaves immorally with a man who is not conventionally or religiously forbidden to her is not considered guilty of violating this precept.
It is reasoned in the Scriptures that those protectors or guardians have the moral duty to prevent girls in their charge from disgraceful immoral conduct (but they are not vested with absolute power over the girl’s choice of her lover). Yet it is highly inadvisable that such a girl should behave in this way, thus hurting their feelings and putting them to shame, while also depriving herself of due honor and respect in society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้หญิงที่ทำตัว immorally กับมนุษย์ ห้ามเธอ เว้นแต่ว่าถูกต้อง เพื่อบังคับหรือคุกคามในส่วนผู้ชาย ได้ความผิดอาชญากรรมของการผิดประเวณี ถ้าเธอจะขู่ หรือบังคับในลักษณะดังกล่าว immoral เป็นคนที่มีความผิด ผู้หญิงภายใต้ป้องกันที่ทำงานของ immorally กับคนที่ไม่ดี หรือเคร่งครัดห้ามเธอ ไม่ถือว่ามีความผิดฐานละเมิด precept นี้มันเป็น reasoned ในพระคัมภีร์ที่ป้องกันหรือผู้ใหญ่ผู้มีหน้าที่ทางศีลธรรมให้สาวที่ตนชอบจากจรรยาบรรณ immoral อับอาย (แต่พวกเขาไม่มี vested มีอำนาจผ่านทางเลือกของสาวคนรักของเธอ) ยัง มี inadvisable มากว่า เช่นควรทำวิธีนี้ จึงทำร้ายความรู้สึกของพวกเขาและวางให้อับอาย ในขณะที่ยัง depriving ตัวเองของครบกำหนด และเคารพในสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้หญิงที่ตัวเองดำเนินการผิดศีลธรรมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกห้ามไม่ให้เธอเว้นแต่บังคับให้ทำดังนั้นโดยการบังคับหรือการคุกคามในส่วนของคนที่เป็นความผิดของอาชญากรรมเป็นชู้ ถ้าเธอถูกคุกคามหรือถูกบังคับให้เป็นพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมดังกล่าวก็เป็นเพียงคนที่มีความผิด ภายใต้การคุ้มครองของผู้หญิงที่มีพฤติกรรมผิดศีลธรรมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้ตามอัตภาพหรือต้องห้ามอย่างเคร่งครัดกับเธอจะไม่ถือว่าเป็นความผิดของการละเมิดศีลนี้.
มันเป็นเหตุผลในพระคัมภีร์ที่ป้องกันหรือผู้ปกครองเหล่านั้นมีหน้าที่ทางศีลธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้สาว ๆ ในค่าใช้จ่ายของพวกเขาจาก ประพฤติผิดศีลธรรมน่าอาย (แต่พวกเขาจะไม่ตกเป็นที่มีอำนาจแน่นอนกว่าทางเลือกของสาวคนรักของเธอ) แต่มันเป็นอย่างมากที่ไม่สมควรเช่นสาวควรประพฤติในลักษณะนี้จึงทำร้ายความรู้สึกของพวกเขาและวางพวกเขาได้รับความอับอายในขณะที่ยังพรากตัวเองเนื่องจากมีเกียรติและเคารพในสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้หญิงที่จัดการตัวเองอย่างผิดศีลธรรมกับผู้ชาย ใครห้ามเธอ นอกจากบังคับให้ทำ ดังนั้น ด้วยการบังคับ หรือการคุกคามในส่วนของคน มีความผิดในอาชญากรรมของการมีชู้ ถ้าเธอข่มขู่หรือบังคับพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมดังกล่าว เป็นเพียงคนที่กำลังรู้สึกผิดผู้หญิงภายใต้การป้องกันที่ทำตัวอย่างผิดศีลธรรมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นโดยทั่วไปหรือเคร่งครัด ห้ามเธอไม่ถือว่ามีความผิดละเมิดศีลนี้
.มันคือเหตุผลในคัมภีร์ที่ผู้ป้องกันหรือผู้ปกครองมีหน้าที่รับผิดชอบในจริยธรรม ป้องกันผู้หญิงจากการเสื่อมเสียศีลธรรม ( แต่พวกเขาจะไม่ตกเป็นกับอำนาจเหนือผู้หญิงเป็นทางเลือกของคนรักของเธอ ) แต่มันไม่สมควรอย่างมากที่ผู้หญิงควรทำในลักษณะนี้ จึงทำร้ายความรู้สึกของพวกเขาและทำให้พวกเขาอับอายในขณะที่ยัง depriving ตัวเองของเนื่องจากให้เกียรติและเคารพในสังคม