ประวัติความเป็นมาของกีฬาวอลเล่ย์บอล
กีฬาวอลเล่ย์บอลได้มีวิวัฒนาการมาจากกีฬาหลายประเภท จนมีลักษณะเฉพาะของตัวเองและเป็นที่นิยมเล่นกันมากในปัจจุบัน เป็นกีฬาที่ต้องใช้มือ แขน เท้า ความสุขุมเยือกเย็น กำลังและไหวพริบรวมถึงความสามัคคีในทีม นอกจากนี้เป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งได้รวบรวมประวัติไว้พอสังเขปดังนี้
กีฬาวอลเล่ย์บอลเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2438 หรือ ค.ศ.1895 โดยนายวิลเลี่ยม จี มอร์แกน(WilliamG.Morgan)ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม วาย.เอ็ม.ซี.เอ.เมืองฮอลโยค (Holyoke ) มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ( Massachusetts ) ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้คิดเกมการเล่นขึ้นมาด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ
1. ในฤดูหนาวหิมะตกจึงไม่สามารถเล่นกีฬากลางแจ้งได้เขาจึงคิดหาเกมการเล่นในร่ม โดยวิธีการเล่นแบบเบา ๆ และเล่นง่าย ๆ สามารถใช้เป็นกิจกรรมทางนันทนาการ และพักผ่อนหย่อนใจและผ่อนคลายความตึงเครียดได้ ซึ่งเหมาะกับนักธุรกิจที่มีอายุมากแทนการเล่นบาสเกตบอล ซึ่งเป็นเกมที่หนักมีการปะทะกันรุนแรงไม่เหมาะสมกับคนมีอายุมาก
2. เป็นกีฬาที่ใช้เล่นในโรงยิมเล็ก ๆ ในฤดูหนาวได้เพราะกีฬาวอลเล่ย์บอลใช้เนื้อที่น้อยผู้เล่นไม่ต้องวิ่งไปทั่วสนาม เพียงรักษาตำแหน่งของตนเท่านั้นเวลาเล่นจึงเหนื่อยน้อยกว่าการเล่นบาสเกตบอล คนมีอายุมาก ๆ ก็เล่นได้
3. เพื่อให้ผู้ใหญ่มีโอกาสเล่นร่วมกัน จะได้พบปะ มีความสัมพันธ์กันและสามารถพบปะกันในลักษณะการเล่นกีฬาได้ตลอดเวลา
ด้วยเหตุผลดังกล่าวขณะที่เขาดูการแข่งขันเทนนิสได้เกิดแนวความคิดที่จะนำลักษณะและวิธีการเล่นเทนนิสมาดัดแปลงให้เล่นได้จึงใช้ตาข่ายเทนนิสขึงระหว่างเสาโรงยิมเนเซียมสูงจากพื้น 6 ฟุต 6 นิ้ว ใช้ยางในลูกบาสเกตบอลสูบลมแล้วใช้มือและแขนตีโต้ข้ามตาข่ายกันไปมาแต่เนื่องจากยางในลูกบาสเกตบอลเบาทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ช้าและทิศทางที่เคลื่อนที่ไปไม่แน่นอนจึงเปลี่ยนมาใช้ลูกบาสเกตบอลแต่ลูกบาสเกตบอลใหญ่ หนัก และแข็งเกินไปทำให้มือของผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ ในที่สุดเขาจึงให้บริษัท A.G. Spalding and Brother Company ผลิตลูกบอลที่หุ้มด้วยหนังและบุด้วยยางมีเส้นรอบวง 25 - 27 นิ้ว หนัก 9 - 12 ออนซ์หลังจากทดลองเล่นแล้วเขาจึงตั้งชื่อเกมการเล่นนี้ ว่า มินโตเนต ( Mintonette )