Banana and plantain plants are cult

Banana and plantain plants are cultivated in more than 130 countries throughout the tropical and subtropical regions, over a harvested area of approximately 10 million hectares (FAOSTAT, 2011). The annual world production accounts for about 145 million tonnes (ca. 106 million tonnes for banana and 39 million tonnes for plantain), with India as the major producer (29 million tonnes), Equador the main exporter and the European Union and United States of America the major importers of bananas (FAOSTAT, 2011). Banana plants were successfully introduced to Madeira Island (Portugal) in the middle of the 16th century and are one of the most important crops for the island’s economy, representing 20% of the agricultural production and one third of the exports from the Island. Among the cultivated species, ‘Dwarf Cavendish’ (M. acuminata Colla var. cavendish) is by far the most important in terms of occupied area and productivity, comprising ca. 60% of the total banana production in Madeira. However, changes in the European Union banana policy prompted farmers to select and grow varieties that fulfil the needs of consumers ( Council Regulation, 2006). As a response to these requirements, in addition to ‘Dwarf Cavendish’, new banana cultivars adapted to the edaphic conditions of the region have been introduced to the island (Nuno, Ribeiro, & Silva, 1998).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กล้วยและข้างลายท้องแดงพืชเพาะปลูกในกว่า 130 ประเทศทั่วภูมิภาคเขตร้อน และกึ่งเขตร้อน พื้นที่เก็บเกี่ยวประมาณ 10 ล้านเฮคเตอร์ (FAOSTAT, 2011) การผลิตของโลกประจำปีบัญชีสำหรับประมาณ 145 ล้านตัน (ca. 106 ล้านตันสำหรับกล้วย) และ 39 ล้านตันสำหรับข้างลายท้องแดง กับอินเดียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่ (29 ล้านตัน), Equador ส่งออกหลัก และสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาของอเมริกาผู้นำเข้าสำคัญของกล้วย (FAOSTAT, 2011) กล้วยพืชเรียบร้อยแล้วนำไปเกาะมาเดรา (โปรตุเกส) ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และเป็นหนึ่งในพืชสำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของเกาะ เป็นตัวแทน 20% ของการผลิตเกษตรและหนึ่งในสามของการส่งออกจากเกาะ ระหว่างพันธุ์ปลูก 'คาเวนดิชแคระ' (M. acuminata Colla var. คาเวนดิช) เป็นสิ่งสำคัญโดยไกลที่สุดในแง่ของผลผลิต ประกอบด้วย ca. 60% ของการผลิตกล้วยทั้งหมดในมาเดราและพื้นที่ว่าง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหภาพยุโรปกล้วยพร้อมท์ เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (กฎระเบียบสภา 2006) เป็นการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ นอกเหนือจาก 'คาเวนดิชแคระ' กล้วยพันธุ์ใหม่ที่ปรับให้เข้ากับเงื่อนไข edaphic ของภูมิภาคได้ถูกแนะนำไปยังเกาะ (Nuno, Ribeiro, & Silva, 1998)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กล้วยและกล้าพืชที่ปลูกในกว่า 130 ประเทศทั่วภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนกว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวประมาณ 10 ล้านเฮกตาร์ (FAOSTAT 2011) ประจำปีบัญชีการผลิตทั่วโลกประมาณ 145,000,000 ตัน (แคลิฟอร์เนีย 106,000,000 ตันกล้วยและ 39 ล้านตันแปลน) กับอินเดียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ (29 ล้านตัน) Equador ส่งออกหลักและสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา อเมริกาผู้นำเข้าที่สำคัญของกล้วย (FAOSTAT 2011) ต้นกล้วยถูกนำมาประสบความสำเร็จในเกาะมาเดรา (โปรตุเกส) ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 16 และเป็นหนึ่งในพืชที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของเกาะคิดเป็น 20% ของการผลิตทางการเกษตรและหนึ่งในสามของการส่งออกจากเกาะ ท่ามกลางสายพันธุ์ที่ปลูก 'คนแคระคาเวนดิช' (เอ็ม acuminata Colla var. คาเวนดิช) คือไกลโดยที่สำคัญที่สุดในแง่ของพื้นที่ที่ถูกครอบครองและการผลิตประกอบด้วยแคลิฟอร์เนีย 60% ของการผลิตกล้วยรวมในมาเดรา อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในนโยบายกล้วยสหภาพยุโรปได้รับแจ้งเกษตรกรในการเลือกและการเติบโตของสายพันธุ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (สภา Regulation 2006) ขณะที่การตอบสนองความต้องการเหล่านี้นอกจากจะ 'คาเวนดิชคนแคระ' กล้วยพันธุ์ใหม่ปรับให้เข้ากับสภาพทางดินของพื้นที่ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเกาะ (Nuno แบร์โตและซิลวา, 1998)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กล้วยและกล้ายเป็นพืชที่ปลูกในกว่า 130 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน กว่าการเก็บเกี่ยว พื้นที่ประมาณ 10 ล้านไร่ ( faostat , 2011 ) ปีการผลิตโลกบัญชีประมาณ 145 ล้านตัน ( ประมาณ 106 ล้านตัน สำหรับกล้วยและ 39 ล้านตันสำหรับหน้าวัว ) กับอินเดียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ( 29 ล้านตัน ) , ควดอร์ หลัก ผู้ส่งออก และสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่สำคัญ าของกล้วย ( faostat , 2011 ) กล้วยเป็นพืชถูกนําไปยังเกาะมาเดราเรียบร้อยแล้ว ( โปรตุเกส ) ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 และเป็นหนึ่งในพืชที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของเกาะอยู่ คิดเป็น 20% ของการผลิตทางการเกษตร และ 1 ใน 3 ของการส่งออกจากเกาะ ระหว่างปลูกสายพันธุ์แคระ ( " " M . คาเวนดิชทองคอลลาพันธุ์คาเวนดิช ) คือโดยไกลที่สำคัญที่สุดในแง่ของครอบครองพื้นที่และผลผลิต ประกอบด้วย ประมาณ 60% ของการผลิตกล้วยทั้งหมดในเด . อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในสหภาพยุโรป กล้วยนโยบายแจ้งให้เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ( ระเบียบสภา , 2006 ) เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ นอกจาก " " คนแคระคาเวนดิช , กล้วยพันธุ์ใหม่ที่ปรับให้เข้ากับสภาพของพื้นที่ ครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวของเกาะ ( นูโน่ ริเบโร่ และ ซิลวา , 1998 )