Self-efficacy of EBP skillsA 5-poin

Self-efficacy of EBP skills
A 5-point semantic differential scale was used for
collecting nurses’ perceptions of their skills forperforming different EBP activities: a response of
‘‘poor’’ received a score of 1 and a response of
‘‘excellent’’ received a score of 5. A set of 9 statements
was used for capturing information about their abilities
related to implementing EBP. The first statement asked
about their ability to identify potential clinical issues or
problems where they can implement EBP. The mean
score for this statement was 3.25, which indicated that
the nurses felt that they possessed slightly above
average ability to identify clinical problems (Table 3).
However, the mean score for the next statement,
dealing with their ability to translate a clinical problem
into a well-formulated clinical question, was comparatively
lower, at 3.01. It appeared the nurses had
relatively less confidence in their ability to adequately
express their information needs and translate these
needs into a well-crafted clinical question. For almost
all the remaining statements, the mean scores occurred
in a very narrow range of 2.96–3.17, which indicated
that the participating nurses perceived themselves to
possess moderate levels of skills to undertake different
EBP activities.
A statistical test was performed to investigate
possible relationships between the ability to undertake
EBP activities and other related variables A weak
relationship was found between the ability of the
nurses to implement EBP and their length of experience
(F(4,2)52.98, P50.05). This means nurses with longer
nursing experience were likely to be more confident in
implementing EBP activities. It was interesting to note
that for all individual EBP activities, the mean scores of
nurses who had a bachelor’s or master’s degree in
nursing was higher than those who had either a
certificate or diploma or post-basic or advanced
diploma. In addition, the relationship between the
overall self-efficacy of nurses and their highest professional
qualifications was found to be highly significant
at the 0.05 level (F(4,3)524.60, P50.00), indicating that
nurses who had higher professional qualifications were
likely to have better self-perceived abilities to undertake
different EBP-related activities. Similarly, a highly
significant relationship was found between the overall
self-perceived ability of nurses to undertake different
EBP activities and their participation in EBP training
courses (F(4,1)513.32, P50.00). Those nurses who
attended EBP-related training were likely to feel more
competent in their abilities to implement EBP. Moreover,
a significant interactive effect was also found
between the ability to undertake EBP activities and the
3 variables discussed above (F53.40, P50.01).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตนเองประสิทธิภาพของ EBPเป็นมาตราส่วนที่แตกต่างความหมาย 5 จุดใช้สำหรับรวบรวมการรับรู้ของพวกเขาทักษะ forperforming EBP กิจกรรมต่าง ๆ: การตอบสนองของ''ดี '' รับคะแนน 1 และการตอบสนองของ''ดี '' รับ 5 คะแนน ชุดของคำสั่งที่ 9ใช้สำหรับรับข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ EBP คำสั่งแรกที่ถามเกี่ยวกับความสามารถในการระบุปัญหาทางคลินิก หรือปัญหาที่พวกเขาสามารถใช้ EBP ค่าเฉลี่ย3.25 ซึ่งบ่งชี้ที่มีคะแนนสำหรับคำสั่งนี้พยาบาลจะรู้สึกว่า พวกเขาต้องเหนือเล็กน้อยสามารถเฉลี่ยเพื่อระบุปัญหาทางคลินิก (ตาราง 3)อย่างไรก็ตาม คะแนนเฉลี่ยสำหรับคำสั่งถัดไปการจัดการกับความสามารถในการแปลปัญหาทางคลินิกเป็นคำถามทางคลินิกแห่ง formulated ถูกดีอย่างหนึ่งต่ำกว่า ที่ 3.01 ปรากฏการพยาบาลได้ค่อนข้างน้อยความเชื่อมั่นในความสามารถอย่างเพียงพอแสดงความต้องการข้อมูล และแปลเหล่านี้ต้องเป็นคำถามทางคลินิกที่ดีสร้างขึ้น สำหรับเกือบทั้งหมดคงเหลืองบ คะแนนหมายถึงเกิดขึ้นในช่วงแคบมาก 2.96-3.17 ซึ่งระบุที่เข้าร่วมพยาบาลมองเห็นตัวเองไปมีทักษะในการดำเนินการต่าง ๆ ในระดับปานกลางEBP กิจกรรมดำเนินการตรวจสอบการทดสอบทางสถิติได้ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถในการดำเนินการEBP กิจกรรมและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวแปร A อ่อนแอrelationship was found between the ability of thenurses to implement EBP and their length of experience(F(4,2)52.98, P50.05). This means nurses with longernursing experience were likely to be more confident inimplementing EBP activities. It was interesting to notethat for all individual EBP activities, the mean scores ofnurses who had a bachelor’s or master’s degree innursing was higher than those who had either acertificate or diploma or post-basic or advanceddiploma. In addition, the relationship between theoverall self-efficacy of nurses and their highest professionalqualifications was found to be highly significantat the 0.05 level (F(4,3)524.60, P50.00), indicating thatnurses who had higher professional qualifications werelikely to have better self-perceived abilities to undertakedifferent EBP-related activities. Similarly, a highlysignificant relationship was found between the overallself-perceived ability of nurses to undertake differentEBP activities and their participation in EBP trainingcourses (F(4,1)513.32, P50.00). Those nurses whoattended EBP-related training were likely to feel morecompetent in their abilities to implement EBP. Moreover,a significant interactive effect was also foundbetween the ability to undertake EBP activities and the3 variables discussed above (F53.40, P50.01).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตนเองทักษะ ebp
มาตราส่วนค่าความหมายและใช้
รวบรวมพยาบาลรับรู้ของทักษะของพวกเขา forperforming กิจกรรม ebp ต่างกัน : การตอบสนองของ
''poor ' ' ได้รับคะแนน 1 และการตอบสนองของ
''excellent ' ' ได้รับ 5 คะแนน ชุด 9 งบ
ถูกใช้ในการจับข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ ebp
.ข้อความแรกถาม
เกี่ยวกับความสามารถในการระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หรือปัญหาทางคลินิก
ที่พวกเขาสามารถใช้ ebp . คะแนนเฉลี่ย
สําหรับคําสั่งนี้ขึ้น ซึ่งพบว่า พยาบาลรู้สึกว่าพวกเขาครอบครอง

ข้างบนเล็กน้อย มีความสามารถในการระบุปัญหาทางคลินิก ( ตารางที่ 3 ) .
แต่คะแนนหมายถึงงบต่อไป
จัดการกับความสามารถของพวกเขาที่จะแปลเป็นปัญหาทางคลินิก
เป็นยุทธศาสตร์ได้ดี คำถามทางคลินิก คือ comparatively
ล่างที่ 3.01 . ปรากฎว่าพยาบาลมีความมั่นใจในความสามารถของพวกเขาค่อนข้างน้อย

แสดงความต้องการของพวกเขาอย่างเพียงพอและแปลเหล่านี้
ความต้องการเป็นดี crafted คลินิกถาม เกือบทั้งหมดเหลือ

งบค่าเฉลี่ยที่เกิดขึ้นในช่วงที่แคบมากของ 2.96 – ) ซึ่งระบุว่า โครงการพยาบาลตัวเอง


มีปานกลาง ระดับของทักษะการจัดกิจกรรม ebp แตกต่างกัน
.
การทดสอบทางสถิติทำการศึกษาความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างความสามารถ

กิจกรรมการ ebp และตัวแปรอื่น ๆที่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ที่อ่อนแอ
เป็นการพบกันระหว่าง ความสามารถของ
พยาบาลใช้ ebp และความยาวของประสบการณ์
( F ( 4,2 ) 52.98 p50.05 , ) นี้หมายความว่า พยาบาลที่มีประสบการณ์พยาบาลอีกต่อไป
น่าจะมั่นใจมากขึ้นในการใช้กิจกรรม ebp
. มันเป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่าบุคคลทั้งหมด ebp

กิจกรรมค่าเฉลี่ยของพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือโท สาขาการพยาบาล สูงกว่า

ใครมีทั้งประกาศนียบัตร หรืออนุปริญญา หรือประกาศขั้นพื้นฐานหรือขั้นสูง
อนุปริญญา นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองโดยรวมของพยาบาล
-
และสูงสุดของมืออาชีพ พบเป็นอย่างสูง
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ( F ( 4,3 ) 524.60 p50.00 , ) แสดงว่า
พยาบาลมืออาชีพที่สูงขึ้นมี
น่าจะดีกว่าการรับรู้ความสามารถตนเอง
ที่แตกต่างกัน ebp กิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ในทำนองเดียวกันเป็นอย่างสูง
ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองโดยรวม
พยาบาลทำกิจกรรมต่าง ๆและการมีส่วนร่วมของพวกเขาใน ebp

ebp หลักสูตรฝึกอบรม ( F ( 4 , 1 ) 513.32 p50.00 , ) ผู้เข้าร่วมที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมพยาบาล
ebp มีแนวโน้มที่จะรู้สึกมากขึ้น
เชี่ยวชาญในความสามารถของพวกเขาที่จะใช้ ebp . โดย
ทดสอบแบบโต้ตอบผลพบ
ระหว่างความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ebp และ
3 ตัวแปรที่กล่าวข้างต้น ( f53.40 p50.01 , )