IntroductionSeminal work in nursing

Introduction
Seminal work in nursing describes the development of expert intuition among nurses (Benner & Tanner 1987, Benner 2001, Benner et al. 2009). Although this work has generated decades of discussion, the ideas presented are primarily descriptive, qualitative and/or theoretical (Paley 1996, Rew & Barrow 2007). The discipline of nursing has struggled to clearly articulate the complexity of the concept and has questioned the role of intuition within nursing practice (McCutcheon & Pincombe 2001). However, intuition is frequently cited as a defining characteristic of professional expertise and is gaining acceptance as a legitimate way of knowing in clinical nursing (Smith et al. 2004, Gobet & Chassy 2008).
In psychology, intuition is becoming a significant research area with a growing body of empirical evidence. For example, Hogarth (2001) defines intuition as responses ‘reached with little apparent effort and typically without conscious awareness’ and which ‘involve little or no conscious deliberation’ (p. 14). Similarly, nursing researchers Benner and Tanner (1987) define intuition as ‘understanding without rationale’ (p. 23) and ‘synthesis, not analysis… (with) a sense of certainty’ (p. 29). Although a universal definition of the construct does not exist, Gobet and Chassy (2008) conclude that most descriptions of intuition include ‘rapid perception, lack of awareness of the processes engaged, concomitant presence of emotions and holistic understanding of the problem situation’ (p. 130).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำงานบรรลุถึงในพยาบาลอธิบายพัฒนาสัญชาตญาณผู้เชี่ยวชาญระหว่างพยาบาล (Benner และแทนเนอร์ชำรุด 1987, Benner 2001, Benner et al. 2009) แม้ว่างานนี้ได้สร้างของการสนทนา ความคิดนำเสนอจะอธิบายหลัก เชิงคุณภาพ และ/หรือทฤษฎี (Paley 1996, Rew และบาร์โร 2007) สาขาวิชาการพยาบาลศาสตร์ได้ต่อสู้เพื่อบอกความซับซ้อนของแนวคิดชัดเจน และมีสอบสวนบทบาทของสัญชาตญาณภายในพยาบาลฝึกหัด (McCutcheon และ Pincombe 2001) อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณบ่อย ๆ การอ้างถึงเป็นการกำหนดลักษณะของความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ และจะได้รับการยอมรับเป็นวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายของการรู้ในการพยาบาลทางคลินิก (Smith et al. 2004, Gobet และ Chassy 2008)ในด้านจิตวิทยา สัญชาตญาณเป็น พื้นที่วิจัยสำคัญเติบโต ด้วยหลักฐานประจักษ์ ตัวอย่าง Hogarth (2001) กำหนดสัญชาตญาณตอบ 'ถึง มีความพยายามเพียงเล็กน้อยชัดเจน และโดยทั่วไปไม่ มีสติรับรู้' และการ 'เกี่ยวข้องน้อย หรือไม่มีสติสุขุม' (p. 14) ในทำนองเดียวกัน พยาบาลนักวิจัย Benner และแทนเนอร์ชำรุด (1987) กำหนดสัญชาตญาณเป็น 'ความเข้าใจโดยไม่มีเหตุผล' (p. 23) และ ' ไม่วิเคราะห์ สังเคราะห์... (พร้อม) รู้ ' (p. 29) แม้ว่าคำจำกัดความสากลของโครงสร้างมีอยู่ Gobet และ Chassy (2008) สรุปว่า คำอธิบายส่วนใหญ่ของสัญชาตญาณรวม 'รู้อย่างรวดเร็ว โมหะของกระบวนการหมั้น มั่นใจก็อารมณ์ความเข้าใจองค์รวมของสถานการณ์ปัญหา' (p. 130)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำการสัมมนาการทำงานในการพยาบาลอธิบายถึงการพัฒนาของสัญชาตญาณผู้เชี่ยวชาญของพยาบาล (Benner และแทนเนอร์ 1987 Benner 2001 Benner et al. 2009)
แม้ว่างานนี้ได้สร้างมานานหลายทศวรรษของการอภิปรายความคิดที่นำเสนอมีการบรรยายส่วนใหญ่คุณภาพและ / หรือทางทฤษฎี (Paley 1996 Rew และสาลี่ 2007) ระเบียบวินัยของพยาบาลได้พยายามที่จะเห็นได้ชัดว่าเป็นปล้องความซับซ้อนของแนวคิดและได้สอบสวนบทบาทของสัญชาตญาณภายในการปฏิบัติพยาบาล (McCutcheon และ Pincombe 2001) แต่สัญชาตญาณมักถูกอ้างถึงเป็นกำหนดลักษณะของความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพและได้รับการยอมรับเป็นวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายของการรู้ในการพยาบาลทางคลินิก (สมิ ธ et al. 2004 Gobet และ Chassy 2008).
ในจิตวิทยาสัญชาตญาณจะกลายเป็นพื้นที่การวิจัยที่สำคัญกับ ร่างกายเจริญเติบโตของหลักฐานเชิงประจักษ์ ยกตัวอย่างเช่นโฮการ์ ธ (2001) กำหนดสัญชาตญาณการตอบสนอง 'ถึงมีความพยายามเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เห็นได้ชัดและมักจะโดยไม่มีสติรับรู้' และ 'ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีสติตรึกตรอง (พี. 14) ในทำนองเดียวกันนักวิจัยพยาบาล Benner และแทนเนอร์ (1987) กำหนดสัญชาตญาณเป็น 'ความเข้าใจโดยไม่มีเหตุผล (พี. 23) และการสังเคราะห์วิเคราะห์ไม่ได้ ... (มี) ความรู้สึกของความเชื่อมั่น (พี. 29) แม้ว่าความหมายสากลของการสร้างไม่ได้อยู่ Gobet และ Chassy (2008) สรุปได้ว่ารายละเอียดมากที่สุดของสัญชาตญาณรวมถึงการรับรู้อย่างรวดเร็ว, การขาดความตระหนักของกระบวนการมีส่วนร่วมปรากฏตัวด้วยกันของอารมณ์และความเข้าใจแบบองค์รวมของสถานการณ์ปัญหา '(พี . 130)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำงานวิจัยทางการพยาบาลอธิบายการพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญสัญชาตญาณของพยาบาล ( เบ็นเนอร์&เทนเนอร์ 1987 เบ็นเนอร์ 2001 เบ็นเนอร์ et al . 2009 ) ถึงแม้ว่างานนี้ได้สร้างหลายทศวรรษของการอภิปราย แนวคิดที่นำเสนอเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นหลัก และ / หรือ ทฤษฎี ( เพลี่ 1996 REW & Barrow 2007 )วินัยของพยาบาลมีความพยายามอย่างชัดเจนชัดเจนความซับซ้อนของแนวคิดและมีการสอบสวนบทบาทของสัญชาตญาณในการปฏิบัติการพยาบาล ( เมิ่กคัชเชิน& pincombe 2001 ) แต่สัญชาตญาณมักอ้างเป็นการกำหนดลักษณะของความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพและได้รับการยอมรับเป็นวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายของการรู้การพยาบาลทางคลินิก ( Smith et al . ปี 2004gobet & chassy 2008 ) .
ในจิตวิทยา สัญชาตญาณเป็นพื้นที่วิจัยที่สำคัญมีร่างกายเจริญเติบโตของหลักฐานเชิงประจักษ์ ตัวอย่างเช่น โฮการ์ธ ( 2001 ) ได้กำหนดเป็นการตอบสนองสัญชาตญาณ ' ถึงมีความพยายามที่ชัดเจนน้อยและมักจะไม่มีสติรับรู้ ' และที่ ' เกี่ยวข้องกับน้อยหรือไม่มีสติไตร่ตรอง ' ( 14 หน้า ) ในทํานองเดียวกันพยาบาลนักวิจัยเบ็นเนอร์ และแทนเนอร์ ( 1987 ) กำหนดสัญชาตญาณเป็น ' ความเข้าใจ ' โดยไม่มีเหตุผล ( 23 หน้า ) และการสังเคราะห์ ไม่วิเคราะห์ . . . . . . . กับความรู้สึกของ ' ' ( 8 หน้า ) ถึงแม้ว่าความหมายสากลของการสร้างไม่ได้อยู่ gobet และ chassy ( 2551 ) สรุปได้ว่า ส่วนใหญ่อธิบายสัญชาตญาณรวมถึง ' อย่างรวดเร็ว การรับรู้ การขาดความรู้ของกระบวนการมีส่วนร่วมการเกิดของอารมณ์และความเข้าใจแบบองค์รวมของปัญหาสถานการณ์ '
( หน้า 130 )