The government will buy raw rubber

The government will buy raw rubber sheets from the current crop directly from planters at 45 baht a kilogramme.
Eight ministries agreed to buy 100,000 tonnes of rubbers for use in their existing projects as the government saw it as the quickest way to help farmers without putting pressure on the central budget.
As recommended by the Budget Bureau, the Rubber Fund, whose money comes from the cess duty collected from rubber exporters, will advance the money for farmers on behalf of these ministries, which will pay it back after they disburse the budgets for the projects.
Prawit Wongsuwon, deputy prime minister who chaired a rubber problem-solving committee, said if the fund could not meet the demand, loans will also be extended by the Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives.
The Public Warehouse Organisation (PWO), the National Council for Peace and Order and the Rubber Authority of Thailand will act as the buyers for these ministries, he said.
The PWO estimated it would buy 100,000 tonnes of all types of rubber. The condition is that the output must come from the current crop ending in three months.
The products will not be kept in warehouses since the Agriculture and Agricultural Cooperatives Ministry will coordinate efforts to process and use it as much as possible.
"All sides agreed on the 45-baht price. For latex and cup lump, the prices will be lower.

“If the output is more than this [100,000 tonnes], we’ll keep buying it. But this is an initial ground rule. Even though we haven’t started buying yet, market prices have already risen,” Gen prawit said.
The deputy prime minister stressed the measures were just an immediate relief. In the longer term, the agriculture ministry will need to rethink and plan the plantation areas.”
Rubber farmers have been hard hit by the global price slump in line with oil. Rubber prices have plummeted to 34 baht a kg while farmers claim their cost is 60 baht.
The rubber trade law, passed by junta-appointed legislators in 2014, allows the Rubber Fund to be used in the event of “market crises”. The old law required the cess duty be used exclusively to support felling and replanting rubber trees.
Lukewarm response
The announcement drew lukewarm responses from some farmers’ groups.
The price-setting was a cause for concern, Manas Boonpat, chairman of the Association of Tappers and Small Rubber Farmers, said in Phatthalung province.
“The price shouldn’t have been announced. The government can lead by buying 1-2 baht a kg higher when buyers are reluctant,” he said.
Besides, he thought the PWO was not as experienced as the Rubber Authority of Thailand.
“The government should let the Rubber Authority of Thailand buy rubber and have it set up sub-committees dominated by local farmers in each area since they are the ones who know whom to buy rubber from.
“we’re concerned who the lucky sellers to the government would be. It’s possible the rubber that trading groups bought at 19, 20 and 22 baht a kg earlier might end up in the government’s hand A precaution is needed to make sure the rubber really belongs to small farmers,” he added
Aid to operators
Finance Minister Apisak Tantivorawong also announced one-year financial measures aimed at easing the price slump on Thursday.
Two state banks – Government Savings Bank (GSB) and BAAC – will extend zero-rate loans to the PWO so it can buy rubber directly from farmers.
The GSB and SME Bank and Krungthai Bank will also extend soft to operators who have rubber purchase contracts with the eight ministries.
The ministry will also compensate interest to five commercial banks which have lent to operators who buy more rubber for their stocks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัฐบาลจะซื้อแผ่นยางดิบจากพืชปัจจุบันโดยตรงจากแพลนเตอร์ที่ kilogramme 45 บาท ทบวงกรม 8 ตกลงที่จะซื้อ 100000 ตันของยางสำหรับใช้ในโครงการที่มีอยู่ของพวกเขาเป็นรัฐบาลเห็นว่าเป็นวิธีเร็วที่สุดเพื่อช่วยให้เกษตรกรโดยไม่ทำให้ความดันในงบประมาณกลาง แนะนำ โดยสำนักงบประมาณ กองทุนยาง เงินมาจากภาษี cess ที่รวบรวมจากผู้ส่งออกยาง จะเลื่อนเงินเกษตรกรแทนทบวงกรมเหล่านี้ ซึ่งจะจ่ายก็กลับหลังจากที่พวกเขายอมเลิกงบประมาณสำหรับโครงการ ประวิทย์ Wongsuwon รองนายกรัฐมนตรีที่ประเทศยางแก้ปัญหาคณะกรรมการ กล่าวว่า ถ้ากองทุนรวมสามารถตอบสนองความต้องการ สินเชื่อจะยังสามารถขยาย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาธารณะคลังสินค้าองค์การ (PWO), สภาแห่งชาติสงบ และสั่งยางของไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อสำหรับทบวงกรมเหล่านี้ เขากล่าวว่า PWO ที่ประมาณว่าจะซื้อ 100000 ตันทุกชนิดของยาง เงื่อนไขคือ ให้ผลผลิตต้องมาจากพืชปัจจุบันที่สิ้นสุดในเดือนที่สาม ผลิตภัณฑ์จะไม่ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าเนื่องจากการเกษตรและกระทรวงเกษตรสหกรณ์จะประสานความร่วมมือการดำเนินการ และใช้งานมากที่สุด "ทุกฝ่ายตกลงในราคา 45 บาท สำหรับก้อนยางและถ้วย ราคาจะต่ำกว่า "ถ้าผลผลิตมีมากกว่านี้ [100000 ตัน], เราจะให้ซื้อก็ แต่นี่คือกฎการเริ่มต้นดิน ถึงแม้ว่าเรายังไม่ได้เริ่มต้นซื้อยัง ราคาตลาดได้แล้วเกิดขึ้น ประวิทย์ Gen กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีเน้นมาตรการมีเพียงการบรรเทาทันที ในระยะยาว กระทรวงเกษตรจะต้อง rethink และวางแผนพื้นที่สวน" ยางเกษตรกรได้ตียาก โดยตกต่ำทั่วโลกราคากับน้ำมัน ราคายางได้ลดลง 34 บาทต่อกิโลกรัมในขณะที่เกษตรกรเรียกร้องต้นทุนของพวกเขาเป็น 60 บาท กฎหมายค้ายาง ผ่าน โดยแต่งตั้งยึดกรอบนโยบายในปี 2014 อนุญาตให้กองทุนยางที่จะใช้ในกรณีที่ "ตลาดวิกฤต" กฎหมายเก่าต้องใช้ภาษี cess จะสนับสนุนการตระเตรียม และซีเมนส์ร่วมปลูกต้นยางตอบสนองอุ่น ประกาศดึงการตอบสนองอุ่นจากกลุ่มเกษตรกรบาง การตั้งค่าราคาถูกสาเหตุสำหรับกังวล มานาสเท Boonpat ประธานสมาคม Tappers และเกษตรกรยาง กล่าวในจังหวัดพัทลุง "ราคาไม่ได้ถูกประกาศ รัฐบาลอาจทำ โดยการซื้อ 1-2 บาท/กก.สูงกว่าเมื่อซื้อเกรงใจ เขากล่าวว่า นอกจากนี้ เขาคิด PWO ไม่มีประสบการณ์ที่ยางของไทย "รัฐบาลควรให้การยางแห่งประเทศไทยซื้อยาง และจะตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่ครอบงำ โดยเกษตรกรในท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ตั้งแต่พวกเขาเป็นคนที่รู้ที่ซื้อยางจากการ "เรากำลังเกี่ยวข้องที่ผู้โชคดีที่รัฐบาลจะ เป็นยางที่ซื้อขายกลุ่มซื้อที่ 19, 20 และ 22 บาท ต่อกิโลกรัมก่อนหน้านี้ อาจสิ้นสุดขึ้นในมือของรัฐบาลที่ต้องการป้องกันไว้ก่อนให้แน่ใจว่ายางจริง ๆ ของเกษตรกร เขาเพิ่ม ช่วยให้ผู้ประกอบการ รัฐมนตรีเงิน Apisak Tantivorawong ประกาศมาตรการทางการเงินหนึ่งปีเพื่อผ่อนคลายตกต่ำราคาในวันพฤหัสบดี ธนาคารรัฐสองรัฐธนาคารออมสิน (GSB) และ BAAC – จะขยาย zero-rate เงินให้กู้ยืมใน PWO เพื่อจะสามารถซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรง GSB และ SME ธนาคาร และ ธนาคารกรุงไทยจะยังขยายอ่อนกับตัวที่มียางที่ซื้อสัญญากับกรมแปด กระทรวงจะยังชดเชยดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ 5 ซึ่งได้ยืมเงินเพื่อผู้ประกอบการที่ซื้อยางเพิ่มเติมสำหรับหุ้นของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัฐบาลจะซื้อยางแผ่นดิบจากพืชปัจจุบันโดยตรงจากชาวสวนที่ 45 บาทกิโลกรัม.
แปดกระทรวงตกลงที่จะซื้อ 100,000 ตันยางสำหรับใช้ในโครงการที่มีอยู่ของพวกเขาขณะที่รัฐบาลเห็นว่ามันเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะช่วยให้เกษตรกรได้โดยไม่ต้องกดดัน ในงบกลาง.
ตามคำแนะนำของสำนักงบประมาณที่กองทุนสวนยางที่มีเงินมาจากการปฏิบัติหน้าที่ภาษีที่เก็บจากผู้ส่งออกยางจะได้เลื่อนเงินให้กับเกษตรกรในนามของกระทรวงเหล่านี้ซึ่งจะจ่ายมันกลับมาหลังจากที่พวกเขาเบิกจ่ายงบประมาณ สำหรับโครงการ.
ประวิทย์ Wongsuwon รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการยางแก้ปัญหากล่าวว่าหากกองทุนไม่สามารถตอบสนองความต้องการสินเชื่อจะได้รับการขยายออกไปโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร.
องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและการยางแห่งประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อสำหรับกระทรวงเหล่านี้เขากล่าวว่า.
PWO คาดว่ามันจะซื้อ 100,000 ตันทุกประเภทของยาง เงื่อนไขคือว่าการส่งออกจะต้องมาจากพืชปัจจุบันสิ้นสุดในสามเดือน.
ผลิตภัณฑ์ที่จะไม่ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าตั้งแต่การเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกระทรวงจะประสานงานความพยายามในการประมวลผลและใช้งานได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้.
"ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับ ราคา 45 บาท. สำหรับน้ำยางข้นและก้อนถ้วยราคาจะลดลง. "ถ้าการส่งออกมากขึ้นกว่านี้ [100,000 ตัน] เราจะให้ซื้อมัน. แต่นี้เป็นกฎพื้นดินเริ่มต้น. แม้ว่าเราสวรรค์ 'ทีเริ่มซื้อยังราคาในตลาดได้ปรับตัวขึ้นแล้ว "Gen ประวิทย์กล่าว. รองนายกรัฐมนตรีเน้นมาตรการเป็นเพียงแค่บรรเทาทันที. ในระยะยาวกระทรวงเกษตรจะต้องคิดใหม่และวางแผนพื้นที่ไร่." ยาง เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการตกต่ำของราคาระดับโลกในแนวเดียวกันกับน้ำมัน. ราคายางได้ลดลงถึง 34 บาทต่อกิโลกรัมในขณะที่เกษตรกรเรียกร้องค่าใช้จ่ายของพวกเขาคือ 60 บาท. กฎหมายการค้ายางส่งผ่านโดยสภานิติบัญญัติสภาได้รับการแต่งตั้งในปี 2014 จะช่วยให้ยาง กองทุนที่จะใช้ในกรณีที่มีการ "วิกฤตตลาดที่" กฎหมายเก่าต้องปฏิบัติหน้าที่ภาษีจะใช้เฉพาะเพื่อสนับสนุนการตัดโค่นและปลูกต้นยาง. การตอบสนองอุ่นประกาศดึงการตอบสนองอุ่นจากกลุ่มเกษตรกรบางส่วน. ราคาตั้งค่าเป็นสาเหตุสำหรับกังวลมนัส Boonpat ประธานของสมาคมกรีด และเกษตรกรยางขนาดเล็กกล่าวว่าในจังหวัดพัทลุง. "ราคาไม่ควรได้รับการประกาศ รัฐบาลสามารถนำไปโดยการซื้อ 1-2 บาทต่อกิโลกรัมสูงขึ้นเมื่อผู้ซื้อมีความลังเลที่ "เขากล่าว. นอกจากนี้เขาคิดว่าอคส. ไม่ได้มีประสบการณ์เป็น. การยางแห่งประเทศไทย" รัฐบาลควรปล่อยให้การยางแห่งประเทศไทยซื้อ ยางและมีมันติดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยครอบงำโดยเกษตรกรในท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ตั้งแต่พวกเขาจะเป็นคนที่รู้ว่าใครที่จะซื้อยางจาก. "เรากำลังกังวลที่ผู้ขายโชคดีที่รัฐบาลจะ มันเป็นไปได้ยางที่กลุ่มซื้อขายซื้อที่ 19, 20 และ 22 บาทต่อกิโลกรัมก่อนหน้านี้อาจจะจบลงในมือของรัฐบาลระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ายางจริงๆเป็นของเกษตรกรรายย่อย "เขากล่าวเสริมช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการว่าการกระทรวงการคลังอภิศักดิ์ตันติวรวงศ์ยังได้ประกาศมาตรการทางการเงินที่หนึ่งปีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการผ่อนคลายตกต่ำราคาในวันพฤหัสบดีที่. สองธนาคารของรัฐ - ธนาคารออมสิน (GSB) และ ธ กส - จะขยายสินเชื่อศูนย์อัตราให้กับอคส. เพื่อที่จะสามารถซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรง. ธนาคารออมสินและ SME Bank และธนาคารกรุงไทยยังจะขยายนุ่มเพื่อผู้ประกอบการที่มีสัญญาการซื้อยางกับกระทรวงแปด. กระทรวงยังจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับห้าธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมแก่ผู้ประกอบการที่ซื้อยางมากขึ้นสำหรับหุ้นของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รัฐบาลจะซื้อยางแผ่นดิบจากปัจจุบันพืชโดยตรงจากชาวสวนที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม
8 กระทรวงตกลงที่จะซื้อ 100000 ตันยางสำหรับใช้ในโครงการของพวกเขาที่มีอยู่ เป็นรัฐบาลที่เห็นมันเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะช่วยให้เกษตรกรโดยไม่มีแรงกดดันต่องบประมาณกลาง
เป็นแนะนำโดยสํานักงบประมาณ กองทุนสวนยาง ,เงินที่ได้มาจากกระบวนการหน้าที่เก็บจากผู้ส่งออกยางพารา จะเลื่อนเงินสำหรับเกษตรกรในนามของกระทรวงเหล่านี้ ซึ่งจะจ่ายมันกลับมาหลังจากที่พวกเขาเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับโครงการ
ประวิทย์ Wongsuwon รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวว่า ถ้ากองทุนไม่สามารถตอบสนองความต้องการเงินก็จะถูกขยายโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
คลังสินค้าสาธารณะองค์กร ( อคส. ) สภาแห่งชาติเพื่อสันติภาพและการสั่งซื้อและการยางแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้ซื้อสำหรับกระทรวงเหล่านี้ , เขากล่าวว่า .
อคส. ประมาณจะซื้อ 100000 ตันทุกประเภทของยางเงื่อนไขคือ ผลผลิตต้องมาจากปัจจุบันตัดจบใน 3 เดือน
ผลิตภัณฑ์จะไม่ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้า ตั้งแต่การเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกระทรวงจะประสานงานความพยายามที่จะประมวลผล และใช้มันให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
" ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับ 45 บาท ยางก้อนถ้วย และ ราคาจะต่ำลง

" ถ้า output เป็นมากกว่า [ 100000 ตัน ] , เราจะไม่ซื้อมัน แต่นี้เป็นหลักเกณฑ์พื้นฐานเบื้องต้น แม้ว่าเรายังไม่ได้เริ่มซื้อเลย ราคาตลาดได้เกิดขึ้นแล้ว " ประวิทย์กล่าวว่า .
รองนายกรัฐมนตรีย้ำมาตรการนี้เป็นเพียงการบรรเทาได้ทันที ใน ระยะยาว กระทรวงเกษตรจะต้องคิดใหม่และแผนพื้นที่ปลูก "
.เกษตรกรชาวสวนยางได้รับผลกระทบอย่างหนักจากตกต่ำทั่วโลก สอดคล้องกับราคาน้ำมัน ราคายางดิ่งลงถึง 34 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนของเกษตรกรเรียกร้อง 60 บาท .
ยางการค้ากฎหมาย ผ่านสภาแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติใน 2014 , ช่วยให้ยางกองทุนเพื่อใช้ในเหตุการณ์ " วิกฤติ " ตลาดกฎหมายเก่าต้องพลีหน้าที่ใช้เฉพาะสนับสนุนโค่นและปลูกต้นยาง

การตอบสนองอุ่นประกาศดึงการตอบสนองอุ่นจากกลุ่มเกษตรกรบาง .
ราคาตั้งเป็นสาเหตุสำหรับกังวลมนัส boonpat , ประธานของสมาคมเกษตรกรชาวสวนยางขนาดเล็กและอรุณ กล่าวว่า ในจังหวัดพัทลุง .
" ราคาไม่ควรได้รับการประกาศรัฐบาลสามารถนำ 1-2 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าตอนซื้อผู้ซื้อจะไม่เต็มใจ , " เขากล่าว .
อีกอย่าง เขาคิดว่า อคส. ได้ประสบการณ์อย่างยางแห่งประเทศไทย .
" รัฐบาลควรปล่อยให้การยางแห่งประเทศไทย ซื้อยาง และได้ตั้งคณะกรรมการย่อย dominated โดยเกษตรกรในแต่ละท้องถิ่น พื้นที่ตั้งแต่พวกเขาเป็นคนที่รู้ว่าใครที่จะซื้อจาก
ยาง ." เรากังวล ใครขาย โชคดีที่รัฐบาลจะ มันเป็นไปได้ที่กลุ่มการค้ายางซื้อที่ 19 , 20 และ 22 บาทต่อกิโลกรัม ก่อนหน้านี้อาจจะจบลงในมือของรัฐบาลในการป้องกันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า ยางจริงๆเป็นของเกษตรกรรายย่อย , " เขาเพิ่ม

เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพฤฒิชัย ยังประกาศมาตรการทางการเงินในระบบมุ่งบรรเทาราคาตกต่ำในวันพฤหัสบดีที่ .
2 ธนาคารรัฐทั้งธนาคารออมสินและ ธ. ก. ส. คาดว่าจะขยายสินเชื่อศูนย์เท่ากันกับ อคส. จึงสามารถซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรง
ธนาคารออมสิน และธนาคารจะขยายสินเชื่อและนุ่มเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้ซื้อยาง สัญญากับ 8 กระทรวง กระทรวงจะยังชดเชย
สนใจห้าธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีให้ยืมเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ซื้อยางมากขึ้น สำหรับหุ้นของพวกเขา