After partition, the living standar

After partition, the living standard of Bangladesh, overall, seems to be better off. According to the World Bank, in 1990, Gross Domestic Product (GDP) measured by PPP (Current international $) of Bangladesh was around 74.26 billion while of Pakistan was around 213.09 billion. The economy of Pakistan was bigger than Bangladesh around 2.87 times. By ten years later, namely 2000, the gap of national income between Pakistan and Bangladesh got closer to 2.64 times revealing the more increasing rate in economic growth of Bangladesh. From 1990 to 2000, GDP grew around 95.77 and 80.30 for Bangladesh and Pakistan, respectively. In 2013, the gap got smaller to 2.13 times. Bangladesh’s output was at 400.48 billion while 855.87 billion for Pakistan. GDP of Bangladesh grew over 439.31 percent over the last 23 years which relatively bigger than Pakistan enjoyed the economic growth merely for 301.63 percent. For Compound Annual Growth Rate (CAGR), CAGR for Bangladesh over the past 23 years is 7.60 percent while for Pakistan is only 6.23 percent. Another important thing is that the economy of Bangladesh and Pakistan did not receive the critical impacts from the 2008 Hamburger Crisis which almost developing countries around the world experienced with a reduction in its GDP[1]. Moreover, unlike many countries in Asia, both countries did not have any severe economic crisis in the last 25 years even though International Monetary Fund (IMF) has ever warned the financial risk in Pakistan in 2013.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากที่พาร์ทิชัน ห้องนั่งเล่นของบังคลาเทศ รวม น่าจะดีกว่า ตามธนาคารโลก ในปี 1990 รวมภายในประเทศผลิตภัณฑ์ (GDP) วัด โดย PPP (ปัจจุบันประเทศ $) ของบังกลาเทศได้ประมาณ 74.26 ล้านของปากีสถานถูกประมาณ 213.09 พันล้าน เศรษฐกิจของปากีสถานได้มากกว่าประเทศบังกลาเทศประมาณ 2.87 ครั้ง โดยสิบปีต่อมา คือ 2000 ช่องว่างของรายได้แห่งชาติระหว่างประเทศปากีสถานและบังคลาเทศได้ใกล้ชิดกับอัตราการเพิ่มขึ้นมากในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศบังกลาเทศเปิดเผยเวลา 2.64 จากปี 1990 กับ 2000, GDP เติบโตประมาณ 95.77 และ 80.30 ในบังกลาเทศและปากีสถาน ตามลำดับ ในปี 2013 ช่องว่างที่มีขนาดเล็กเพื่อเวลา 2.13 ผลผลิตของประเทศบังกลาเทศที่ 400.48 พันล้านในขณะที่ 855.87 พันล้านในปากีสถานได้ GDP ประเทศบังกลาเทศกว่าโต 439.31 เปอร์เซ็นต์ปี 23 ซึ่งค่อนข้างใหญ่กว่าปากีสถานที่เพลิดเพลินที่เศรษฐกิจเติบโตเพียงร้อยละ 301.63 สำหรับผสมประจำปีเจริญเติบโตอัตรา (เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับ 23 ปีผ่านมาเป็นร้อยละ 7.60 ในปากีสถานเป็นเพียงร้อยละ 6.23 สิ่งสำคัญคือ ว่า เศรษฐกิจของประเทศบังกลาเทศและปากีสถานไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ 2008 ที่เกือบประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีประสบการณ์กับการลดลงของ GDP [1] นอกจากนี้ ซึ่งแตกต่างจากหลายประเทศในเอเชีย ทั้งสองประเทศไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงใด ๆ ในช่วง 25 ปีแม้ว่ากองทุนเงินของระหว่างประเทศ (IMF) ได้เคยเตือนความเสี่ยงทางการเงินในประเทศปากีสถานในปี 2013

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากที่พาร์ทิชันมาตรฐานความเป็นอยู่ของบังคลาเทศโดยรวมดูเหมือนจะดีกว่า ตามที่ธนาคารโลกในปี 1990 ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) โดยวัดจาก PPP ($ ระหว่างประเทศปัจจุบัน) ของบังคลาเทศเป็นรอบ 74260000000 ในขณะที่ปากีสถานเป็นรอบ 213090000000 เศรษฐกิจของปากีสถานบังคลาเทศที่มีขนาดใหญ่กว่ารอบ 2.87 ครั้ง สิบปีต่อมาคือปี 2000 ช่องว่างของรายได้ประชาชาติระหว่างปากีสถานและบังคลาเทศได้ใกล้ชิดกับ 2.64 ครั้งเผยให้เห็นอัตราการเพิ่มมากขึ้นในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศบังคลาเทศ ตั้งแต่ปี 1990 ถึงปี 2000 จีดีพีขยายตัวรอบ 95.77 และ 80.30 สำหรับบังคลาเทศและปากีสถานตามลำดับ ในปี 2013 ช่องว่างที่มีขนาดเล็กลงเพื่อ 2.13 ครั้ง การส่งออกของประเทศบังคลาเทศที่ 400480000000 ขณะที่ 855870000000 ปากีสถาน จีดีพีของประเทศบังคลาเทศขยายตัวมากกว่าร้อยละ 439.31 ในช่วง 23 ปีที่ค่อนข้างใหญ่กว่าประเทศปากีสถานมีความสุขกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงร้อยละ 301.63 สำหรับอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR), CAGR สำหรับบังคลาเทศที่ผ่านมา 23 ปีคิดเป็นร้อยละ 7.60 ในขณะที่สำหรับปากีสถานเป็นเพียงร้อยละ 6.23 อีกสิ่งที่สำคัญคือการที่เศรษฐกิจของประเทศบังคลาเทศและปากีสถานไม่ได้รับผลกระทบที่สำคัญจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ 2008 ซึ่งเกือบจะพัฒนาประเทศทั่วโลกที่มีประสบการณ์กับการลดลงของจีดีพี [1] นอกจากนี้ยังแตกต่างจากหลายประเทศในเอเชียทั้งสองประเทศไม่ได้มีวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงใด ๆ ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาถึงแม้ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เคยเตือนความเสี่ยงทางการเงินในปากีสถานในปี 2013

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากที่พาร์ทิชัน มาตรฐานการครองชีพของประชาชนโดยรวม น่าจะ ดีกว่า ตามที่ธนาคารทั่วโลกในปี 1990 , ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( GDP ) วัดโดย PPP ( ปัจจุบันต่างประเทศ $ ) ของบังคลาเทศอยู่ 74.26 พันล้านในขณะที่ปากีสถานอยู่ 213.09 พันล้าน เศรษฐกิจของปากีสถานจะใหญ่กว่าบังคลาเทศประมาณ 2.87 ครั้ง สิบปีต่อมา คือในปีช่องว่างของรายได้ระหว่างปากีสถานและบังคลาเทศได้ใกล้ 2.64 ครั้งเปิดเผยเพิ่มเติมเพิ่มอัตราในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ จากปี 1990 2000 GDP เติบโตประมาณ 95.77 80.30 บังคลาเทศและปากีสถานและสำหรับ ตามลำดับ ใน 2013 , ช่องว่างมีขนาดเล็กถึง 2.13 เท่า บังคลาเทศพลังงานที่ 400.48 พันล้านในขณะที่ 855.87 พันล้านสำหรับปากีสถานGDP ของบังกลาเทศ เติบโตกว่า 439.31 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 23 ปีซึ่งค่อนข้างใหญ่กว่าปากีสถานกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงสำหรับ 301.63 เปอร์เซ็นต์ สำหรับอัตราการเจริญเติบโตสารปี ( CAGR ) เทคโนโลยีสำหรับบังคลาเทศที่ผ่านมา 23 ปีเป็นร้อยละ 7.60 ในขณะที่ปากีสถานเป็นเพียง 4.54 เปอร์เซ็นต์อีกเรื่องสำคัญคือ เศรษฐกิจของบังคลาเทศและปากีสถานไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์วิกฤติ 2551 ซึ่งเกือบจะพัฒนาประเทศทั่วโลกประสบกับการลดลงของ GDP [ 1 ] ของ ซึ่งแตกต่างจากหลายประเทศในเอเชียทั้งสองประเทศยังไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในช่วง 25 ปี แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ได้เคยเตือนความเสี่ยงทางการเงินในปากีสถานในปี 2013