This Royal Temple is the second gra

This Royal Temple is the second grade of Woramahawiharn, which was built during the Ayutthaya period. Its original name was Wat Bangwa Yai. In 1769, the temple was raised to be a Royal Temple by King Taksin The Great. He then graciously ordered to bring Phra Tripitaka (Buddhist Scriptures) from Nakhon Si Thammarat province to be revised. In the reign of King Rama I, the ancient bell was found there, King Rama I had the bell moved to the temple of the Emerald Buddha and built 5 bells to donate back to the temple. Thence it was called Wat Rakhang.

A major restoration had been carried out by Somdet Khom Phraya Thepsudawadi, the eldest sister of King Rama I. The temple used to be a residence of Somdet Phra Sangkharat Si, the first Supreme Patriarch of the Rattanakosin period and Somdet Phra Buddhachan (Toh Phrom Rangsi).

There is an old Tripitaka Hall situated in the area of the temple. It was original residence of King Rama I, when he was still Phra Ratchawarintra, when Thonburi was still the capital.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดราชอยู่ชั้นสองของวรมหาวิหาร ที่อยุธยา ชื่อเดิมคือ วัด Bangwa ใหญ่ ใน 1769 วัดขึ้นเป็น วัด ราช โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขาแล้วปรมิสั่งให้นำพระไตรปิฎก (คัมภีร์พระพุทธศาสนา) จากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อแก้ไข ในรัชสมัยของพระราม ระฆังโบราณถูกค้นพบ ผมเบลล์ย้ายวัดพระแก้ว และสร้างระฆัง 5 บริจาคกลับไปวัดพระราม Thence จะมีเรียก Wat Rakhang

คืนสำคัญได้ถูกดำเนินการ โดย Thepsudawadi พระยาขอมสมเด็จ เอื้อยพระจอมเกล้าฉัน วัดนี้ใช้เป็น ที่พำนักของสมเด็จพระศรี Sangkharat สังฆราชแรกรัตนโกสินทร์และสมเด็จพระ Buddhachan (โตพรหม Rangsi)

มีหอ ไตรปิฎกเก่าตั้งอยู่ในบริเวณวัด ก็อาศัยต้นฉบับของพระรามฉัน เมื่อเขามายังพระ Ratchawarintra เมื่อธนบุรีเป็นเมืองหลวงยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้วัด Royal เป็นเกรดที่สองของวรวิหารซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อเดิมคือวัดบางหว้าใหญ่ 1769 ในวัดถูกยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงโดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ จากนั้นเขาก็สั่งให้เกล้าฯให้นำพระไตรปิฎก (พระคัมภีร์พุทธศาสนา) จากจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะได้รับการแก้ไข ในสมัยรัชกาลที่หนึ่งระฆังโบราณที่พบมีรัชกาลที่ผมได้ระฆังย้ายไปอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามและสร้าง 5 ระฆังที่จะบริจาคกลับไปยังวัด จากนั้นมันถูกเรียกว่าวัดระฆังฟื้นฟูที่สำคัญได้รับการดำเนินการโดยสมเด็จพระยาขอม Thepsudawadi, น้องสาวคนโตของรัชกาลที่หนึ่งวัดที่เคยเป็นที่พำนักของสมเด็จพระศรี Sangkharat, สมเด็จพระสังฆราชแรกของสมัยรัตนโกสินทร์และ สมเด็จพระ Buddhachan (โตพรหมรังษี) มีพระไตรปิฏกเก่าฮอลล์ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดเป็น มันเป็นถิ่นที่อยู่เดิมของรัชกาลที่เมื่อเขายังคงเป็นพระ Ratchawarintra เมื่อธนบุรียังคงเป็นเมืองหลวง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระวิหารนี้เป็นปีที่สองของ woramahawiharn ซึ่งสร้างขึ้นสมัยอยุธยา ชื่อเดิมคือ วัดบางหว้าใหญ่ ใน 1769 วัดถูกยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นเขาจึงสั่งให้นำพระไตรปิฎก ( พระไตรปิฎก ) จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จะแก้ไข ในสมัยรัชกาลที่ฉันระฆังโบราณที่พบนั้น รัชกาลที่ทรงระฆัง ย้าย ไป วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ สร้าง 5 ระฆังบริจาคกลับวัด ที่นั่นมันถูกเรียกว่าวัดระฆัง .

การบูรณะใหญ่ถูกกวาดออกโดยสมเด็จพระยาขอม thepsudawadi พี่สาวคนโตสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 วัดเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จฏิซื่อสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และเป็นสมเด็จพระ buddhachan ( โต พรหม , )

มีหอพระไตรปิฎก เก่าตั้งอยู่ในบริเวณวัด มันเป็นถิ่นที่อยู่เดิมของรัชกาลที่ ตอนที่เขายังพระ ratchawarintra เมื่อธนบุรีอยู่

)