The sociological issue that will be

The sociological issue that will be discussed is the Inequalities in the Health Care System. The conflict theory will be used to evaluate this topic; among the issues discussed is the ability of all citizens to obtain good health care, regardless of race, class, and gender. After studying the health care system it is necessary to learn why poverty exists, and why it prevents citizens from receiving or assessing health benefits that are free for all.

Sociology is the scientific study of human society and sociological behaviour, which allows people to critically examine and make sense of their lives. Sociologist study a wide range of human behaviours both at the macro and micro levels. There are many different ideas and trends that influenced the development of sociology. Each idea utilizes the theory, which is a set of logically interrelated statements aimed to describe, explain, and occasionally predict social events. Each theory helps to interpret reality by providing a frame work in which observations may be logically ordered. Sociologists refer to this theoretical framework as a perspective, which is an overall approach to or viewpoint on some subject. The major theoretical perspectives that have emerged in sociology are the functionalist, conflict, feminist, and interactionist perspective. (Kendall et al, 2007).

Conflict theory is used in sociology to explain conflict between social classes ( the rich versus the poor). Social life is viewed as continuous struggle among competing social groups, and conflict theory offers a useful method to analyze society. For example, this theory can be used to explain the difference between rich and poor in the society, and in particular how economic inequality creates health problems for the poor. (Ferrante 2007)

One of the problems discussed is how unequal distribution of health resources among the population can have negative effects upon the health of the community and the entire population. Economic inequality is seen as leading to societal effects that potencially injure health through a process that creates decreased social cohesion or alternatively weakens community infrastructures. (Raphael, 2007).

This theoretical sociological perspective has been already touched. In the Toronto Star was reported that about 20 per cent of Canada’s spiralling health-care costs can be directly attributed to low income population. According to a Health Council of Canada report, reducing the health risks that poverty carries requires lifting the socioeconomic status of the country’s poorest people. It was also stated that there is a direct correlation between low incomes, low socioeconomic status and health: the poor have worse health and die earlier than the rich. Also it can be said that illness and mortality rates are higher in low income countries than in high income countries. In Canada men living in the highest-income neighbourhoods have a higher life expectancy (about five years more) than men living in the lowest-income neighbourhoods, while for women the differences is about two years. There are similar differences between people in the highest and lowest-income neighbourhoods for other health indicators. For example, in 1996, the infant mortality rate in Canada’s poorest urban neighbourhoods was more than 50 percent higher than in the richest neighbourhoods (Kendall et al, 2007)

The experience of Canada’s Aboriginal peoples clearly illustrates how racial problems and class issues can influence the level of peoples’ health. While the economic disadvantages and the prejudice suffered by Aboriginal people are worse than they are for most other groups of Canadians, the poverty of Aboriginal people’s affect their health. (Kendall, et-al, 2007).

Recently , it was reported that in Canada many of the residents had tuberculosis, that is why the world community has claims to the Canadian Government because of the way the Aboriginal people are treated. The lack of government actions towards health determinants, such as economic inequality and poverties, is surprising to the rest of the world, given the strong health promotion traditions within Canada. (Kendall, et-al, 2007).

In the US economic inequality among the states and between communities is related to levels of employment, incarceration, homicide, low birth weight, smoking, income assistance, use of food stamps, less spending on education, and disability. In Canada, relatively little attention is paid to fighting economic inequality and low health of some part of population, except documenting the low health status of those living in poverty. But there is a clear evidence that health level has been declining in Canada as economic inequality has increased ( Raphael, 2000).

The Health of Canada’s Children Report documented the variation in health and well-being between poor and not-poor children. Some of the studies defined being poor as receiving social assistance, while in others it was income b

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาสังคมวิทยาที่จะกล่าวถึงคือ ไม่เท่าเทียมกันในระบบการดูแลสุขภาพ ทฤษฎีความขัดแย้งจะใช้ในการประเมินหัวข้อนี้ ในบรรดาปัญหาที่กล่าวถึงคือความสามารถในการดูแลสุขภาพที่ดี โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ชั้น และเพศของประชาชน หลังจากการศึกษาระบบดูแลสุขภาพที่จำเป็นต้องสาเหตุความยากจนที่มีอยู่ และทำไมมันป้องกันประชาชนจากการรับ หรือการประเมินสุขภาพผลประโยชน์ที่จะฟรีทั้งหมดสังคมวิทยาคือ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของสังคมมนุษย์และพฤติกรรมสังคมวิทยา ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบ และทำความเข้าใจในชีวิตอย่างยิ่ง วิทยาศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ทั้งสองระดับและจุลภาคหลากหลาย มีแนวคิดและแนวโน้มที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของสังคมวิทยา ความคิดแต่ละใช้ทฤษฎี ซึ่งเป็นค่าตรรกะเชื่อมงบเพื่ออธิบาย อธิบาย และบางครั้งทำนายเหตุการณ์ทางสังคม แต่ละทฤษฎีช่วยตีความจริง โดยการนำเสนอโครงงานในข้อสังเกตที่อาจจะสั่งทางตรรกะได้ พูดถึงกรอบทฤษฎีนี้เป็นมุมมองของ ซึ่งเป็นการรวมวิธีการหรือมุมมองในบางเรื่อง มุมมองทฤษฎีสำคัญที่ได้เกิดในสังคมวิทยาคือ functionalist ขัดแย้ง สตรี และมุมมอง interactionist (Kendall et al, 2007)ใช้ทฤษฎีความขัดแย้งในสังคมวิทยาอธิบายความขัดแย้งระหว่างชั้นทางสังคม (รวยกับยากจน) ชีวิตทางสังคมที่ถูกมองว่าการต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างกลุ่มสังคมที่แข่งขัน และทฤษฎีความขัดแย้งมีประโยชน์วิธีการวิเคราะห์สังคม ตัวอย่างเช่น ทฤษฎีนี้ใช้อธิบายความแตกต่างระหว่างคนรวยและคนจนในสังคม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีสร้างปัญหาสุขภาพสำหรับคนยากจน (Ferrante 2007)หนึ่งในปัญหาที่กล่าวถึงคือการกระจายไม่เท่ากันว่าสุขภาพ ในกลุ่มประชากรจะมีผลลบเมื่อสุขภาพของชุมชนและประชากรทั้งหมด ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจจึงเป็นนำไปสู่ผลกระทบสังคมที่ potencially ทำร้ายสุขภาพผ่านกระบวนการที่สร้างสามัคคีสังคมที่ลดลง หรืออ่อนตัวหรือ โครงสร้างพื้นฐานของชุมชน (ราฟาเอล 2007)สัมผัสมุมมองของสังคมวิทยาทฤษฎีนี้แล้ว ในเดลินิวส์รายงานว่า ประมาณร้อยละ 20 ของต้นทุนสุขภาพ spiralling ของแคนาดาสามารถถูกประกอบโดยตรงกับประชากรรายได้ต่ำ ตามรายงานสภาแคนาดาสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มีความยากจนต้องยกสถานะเศรษฐกิจของคนยากจนที่สุดของประเทศ มันก็ยังระบุไว้ว่า มีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างรายได้ต่ำ สถานะเศรษฐกิจต่ำ และสุขภาพ: คนจนมีสุขภาพที่แย่ลง และตายเร็วกว่ารวย ยัง กล่าวได้ว่า อัตราการเจ็บป่วยและการตายจะสูงในประเทศรายได้ต่ำกว่าในประเทศที่มีรายได้สูงขึ้น ในแคนาดา คนที่อาศัยอยู่ในย่านรายได้สูงสุดมีมีอายุขัยมาก (ประมาณห้าปีเพิ่มเติม) มากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในย่านที่รายได้ต่ำที่สุด ในขณะที่สำหรับผู้หญิงความแตกต่างอยู่ประมาณสองปี มีความแตกต่างคล้ายคลึงกันระหว่างคนที่สูงที่สุดและรายได้ต่ำสุดย่านสำหรับตัวชี้วัดสุขภาพอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ในปี 1996 อัตราการตายทารกในย่านเมืองที่จนที่สุดของแคนาดาเป็นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าในย่านร่ำรวย (Kendall et al, 2007)ประสบการณ์ของคนพื้นเมืองของแคนาดาอย่างชัดเจนแสดงให้เห็นถึงปัญหาวิธีทางเชื้อชาติ และปัญหาระดับสามารถมีอิทธิพลต่อระดับสุขภาพของประชาชน ในขณะที่ข้อเสียเศรษฐกิจและอคติที่รับความเดือดร้อน โดยคนพื้นเมืองจะเลวร้ายยิ่งกว่าพวกเขาเป็นกลุ่มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ของชาวแคนาดา ความยากจนของประชาชนพื้นเมืองส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (Kendall, et al, 2007)เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีรายงานว่า ในประเทศแคนาดา ของผู้อยู่อาศัยมีวัณโรค นั่นคือเหตุผลที่สังคมโลกได้เรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาเนื่องจากวิธีการที่คนพื้นเมืองจะได้รับ การขาดการกระทำของรัฐบาลต่อสุขภาพดีเทอร์มิแนนต์ เช่นความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและ poverties น่าแปลกใจที่เหลือของโลก กำหนดประเพณีส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงภายในประเทศแคนาดา (Kendall, et al, 2007)ในสหรัฐอเมริกา ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจจากรัฐ และ ระหว่างชุมชนเกี่ยวข้องกับระดับของการจ้างงาน จำคุก ฆาตกรรม น้ำหนักน้อยเมื่อคลอด สูบบุหรี่ เงินช่วยเหลือ ใช้แสตมป์อาหาร หักใช้จ่ายในการศึกษา และพิการ ในแคนาดา ค่อนข้างน้อยคือใส่ใจในการต่อสู้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสุขภาพต่ำเป็นส่วนหนึ่งของประชากร ยกเว้นเอกสารสถานะสุขภาพต่ำของผู้ที่อาศัยอยู่ในความยากจน แต่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่สุขภาพระดับน้าตาลในแคนาดาเป็นความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น (ราฟาเอล 2000)สาธารณสุขแคนาดาเด็กรายงานเอกสารการเปลี่ยนแปลงในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ระหว่างเด็กยากจน และยาก จนไม่ บางส่วนของการกำหนดศึกษายากจนเป็นการรับความช่วยเหลือสังคม ในขณะที่คนอื่น มันรายได้บี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาทางสังคมวิทยาว่าจะมีการหารือคืออสมการในระบบการดูแลสุขภาพ ทฤษฎีความขัดแย้งจะนำไปใช้ในการประเมินหัวข้อนี้ ในประเด็นที่กล่าวถึงคือความสามารถของประชาชนทุกคนที่จะได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติชนชั้นและเพศ หลังจากที่ได้ศึกษาระบบการดูแลสุขภาพก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะเรียนรู้ว่าทำไมความยากจนที่มีอยู่และทำไมจะป้องกันไม่ให้ประชาชนจากการรับหรือการประเมินประโยชน์ต่อสุขภาพที่มีฟรีสำหรับทุกคน. สังคมวิทยาคือการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของสังคมมนุษย์และพฤติกรรมทางสังคมวิทยาซึ่งจะช่วยให้คนที่จะตรวจสอบอย่างยิ่ง และให้ความรู้สึกของชีวิตของพวกเขา การศึกษาสังคมวิทยาหลากหลายของพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค มีความคิดที่แตกต่างกันจำนวนมากและแนวโน้มที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของสังคมวิทยาเป็น ความคิดแต่ละคนใช้ทฤษฎีซึ่งเป็นชุดของงบสัมพันธ์เหตุผลวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายอธิบายและบางครั้งทำนายเหตุการณ์ทางสังคม ทฤษฎีแต่ละช่วยในการแปลความหมายของความเป็นจริงโดยการให้กรอบการทำงานที่สังเกตอาจจะสั่งเหตุผล นักสังคมวิทยาหมายถึงกรอบทฤษฎีนี้เป็นมุมมองซึ่งเป็นวิธีการโดยรวมหรือมุมมองในเรื่องบางอย่าง มุมมองทางทฤษฎีที่สำคัญที่ได้เกิดในสังคมวิทยา functionalist เป็นความขัดแย้งสตรีและมุมมอง interactionist (เคนดอล et al, 2007). ทฤษฎีความขัดแย้งถูกนำมาใช้ในสังคมวิทยาที่จะอธิบายความขัดแย้งระหว่างชนชั้นทางสังคม (ที่อุดมไปด้วยเมื่อเทียบกับคนยากจน) ชีวิตทางสังคมที่ถูกมองว่าเป็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่องในหมู่การแข่งขันกลุ่มทางสังคมและทฤษฎีความขัดแย้งมีวิธีการที่เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์สังคม ยกตัวอย่างเช่นทฤษฎีนี้สามารถใช้ในการอธิบายความแตกต่างระหว่างคนรวยและคนจนในสังคมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการที่ไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพสำหรับคนยากจน (Ferrante 2007) หนึ่งในปัญหาที่กล่าวถึงเป็นวิธีการกระจายไม่เท่ากันของทรัพยากรสุขภาพของประชากรที่สามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพของชุมชนและประชากรทั้งหมด ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจที่ถูกมองว่าเป็นนำไปสู่ผลกระทบทางสังคมที่ Potencially ทำร้ายสุขภาพผ่านกระบวนการที่สร้างลดลงติดต่อกันทางสังคมหรือหรืออ่อนตัวโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน (ราฟาเอล, 2007). นี้มุมมองทางสังคมวิทยาทฤษฎีที่ได้รับการสัมผัสแล้ว ในโตรอนโตสตาร์รายงานว่าร้อยละ 20 ของแคนาดาวนค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสามารถนำมาประกอบโดยตรงกับประชากรมีรายได้ต่ำ ตามที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งแคนาดารายงานการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ยากจนต้องดำเนินการยกสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้คนที่ยากจนที่สุดของประเทศ นอกจากนั้นยังระบุว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างรายได้ต่ำสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับต่ำและสุขภาพ: คนยากจนมีสุขภาพที่แย่ลงและตายเร็วกว่าที่อุดมไปด้วย นอกจากนี้ก็อาจกล่าวได้ว่าการเจ็บป่วยและอัตราการตายที่สูงขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำกว่าในประเทศที่มีรายได้สูง ในผู้ชายแคนาดาที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้สูงสุดมีอายุขัยสูงกว่า (ประมาณห้าปีขึ้นไป) มากกว่าผู้ชายที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงที่รายได้ต่ำสุดในขณะที่สำหรับผู้หญิงที่แตกต่างกันคือประมาณสองปี มีความแตกต่างที่คล้ายกันระหว่างผู้คนในที่สูงสุดและต่ำสุดในละแวกใกล้เคียงที่มีรายได้สำหรับตัวชี้วัดด้านสุขภาพอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่นในปี 1996 อัตราการตายของทารกในแคนาดาที่ยากจนที่สุดในย่านชุมชนได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 50 สูงกว่าในละแวกใกล้เคียงที่ร่ำรวยที่สุด (เคนดอล et al, 2007) ประสบการณ์ของชนพื้นเมืองของแคนาดาอย่างชัดเจนแสดงให้เห็นว่าปัญหาและปัญหาระดับเชื้อชาติสามารถมีอิทธิพลต่อการ ระดับของสุขภาพของประชาชน ในขณะที่ข้อเสียทางเศรษฐกิจและความอยุติธรรมรับความเดือดร้อนโดยคนพื้นเมืองจะเลวร้ายยิ่งกว่าพวกเขาสำหรับกลุ่มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ของแคนาดาความยากจนของคนพื้นเมืองของผลกระทบต่อสุขภาพของพวกเขา (เคนดอล et-AL, 2007). เมื่อเร็ว ๆ นี้มีรายงานว่าในแคนาดาจำนวนมากของผู้อยู่อาศัยมีผู้ป่วยวัณโรคที่เป็นเหตุให้ประชาคมโลกมีการเรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาเนื่องจากวิธีการที่คนพื้นเมืองได้รับการปฏิบัติ การขาดการกระทำของรัฐบาลที่มีต่อปัจจัยสุขภาพเช่นความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและ poverties เป็นที่น่าแปลกใจกับส่วนที่เหลือของโลกที่ได้รับการส่งเสริมสุขภาพประเพณีที่แข็งแกร่งภายในประเทศแคนาดา (เคนดอล et-AL, 2007). ในความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจของสหรัฐระหว่างรัฐและระหว่างชุมชนมีความสัมพันธ์กับระดับของการจ้างงาน, การจำคุกฆาตกรรมน้ำหนักแรกเกิดต่ำ, การสูบบุหรี่, การมีรายได้การใช้งานของแสตมป์อาหารลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา และความพิการ ในประเทศแคนาดาให้ความสนใจค่อนข้างน้อยเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและสุขภาพต่ำของการเป็นส่วนหนึ่งของประชากรบางยกเว้นการจัดเก็บเอกสารสถานะสุขภาพต่ำของผู้ที่อาศัยอยู่ในความยากจน แต่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าระดับสุขภาพได้รับการลดลงในแคนาดาเป็นความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น (ราฟาเอล, 2000). สุขภาพของแคนาดารายงานเด็กเอกสารรูปแบบในการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ระหว่างเด็กที่ยากจนและไม่ยากจน บางส่วนของการศึกษาที่กำหนดไว้เป็นคนจนที่ได้รับความช่วยเหลือทางสังคมในขณะที่คนอื่น ๆ มันเป็นรายได้ข