In contrast to Lehmann, however, Ch

In contrast to Lehmann, however, Chatterjee eschews the use of 'clientelism' as an analytical lens through which to explore link between local politicians or other social notables and organizations such as the People's Welfare Association, a curious lacunae and one that detracts from the power of his analysis. Cohen and Arato (1994) provide a theoretically rich account of civil society in the political economy tradition but fail to submit it to empirical testing. This failure is partly redeemed b a sociological study of the relationship between capitalism and democracy by Dietrich Rueschemeyer, Evelyne Huber Stephens and John D. Stephens, in which changes in class structure (ore more accurately, shifts in the power of contending class interests) serve as the principal mediating variable. Their work is relevant here because it includes an analysis of civil society that straddles the divide between democracy-centred and political economy-centred perspectives. In this account, a strong and dense civil society is a by-product of the development of capitalism while also contributing to the development of democracy, suggesting a distinct chain of causation (capitalism civil society democracy) (Rueschemeyer et al. 1992: 49-50). In this schema, an expanding civil society gradually encompasses and empower previously excluded social groups, including the working class. This previously excluded social groups, they argue, is critical to the development of democracy and to the shift from formal to substantive democracy, in significant part because a strong, and dense civil society (in which subordinate classes are highly organized) acts as a vital counter-weight to the power of the The state. The relationship between the state and civil society, they argue, then becomes an important arbiter of the quality of democracy:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตรงข้าม Lehmann ไร Chatterjee eschews ใช้ 'clientelism' เป็นเลนส์การวิเคราะห์ที่ให้บริการเชื่อมโยงระหว่างนักการเมืองท้องถิ่น หรือสังคม notables อื่น ๆ และองค์กรเช่น สมาคมสวัสดิการประชาชน พ.ศ.2550 อยากรู้อยากเห็น และที่ detracts จากพลังงานการวิเคราะห์ของเขา โคเฮนและ Arato (1994) ให้บัญชีรวยตามหลักวิชาของภาคประชาสังคมในประเพณีเศรษฐกิจการเมือง แต่ไม่ส่งไปทดสอบรวม ความล้มเหลวนี้คือ การศึกษาสังคมวิทยาของความสัมพันธ์ระหว่างทุนนิยมและประชาธิปไตย โดยดีทริช Rueschemeyer สตี เฟ่นส์ Evelyne Huber และจอห์น D. สตี เฟ่นส์ ในการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง (แร่ได้แม่นยำมากขึ้น เลื่อนอำนาจคอยช่วงชิงคลาส) ทำหน้าที่เป็นหลักเพื่อเป็นตัวกลางตัวแปรบางส่วนใช้บี งานจะเกี่ยวข้องกับที่นี่เนื่องจากมีการวิเคราะห์สังคมที่ประกวดเลาะเลียบแบ่งระหว่างมุมมองศูนย์ กลางประชาธิปไตย และศูนย์กลางเศรษฐกิจการเมือง บัญชี ความแข็งแรง และหนาแน่นสังคมเป็นผลพลอยได้ของการพัฒนาของทุนนิยมในขณะที่ยัง เอื้อต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ห่วงโซ่ทั้งหมดของ causation (ทุนนิยมสังคมประชาธิปไตย) แนะนำ (Rueschemeyer et al. 1992:49-50) ในแบบแผนนี้ ประชาสังคมขยายค่อย ๆ ครอบคลุม และอำนาจก่อนหน้านี้แยกกลุ่มสังคม รวมทั้งเรียนทำงาน นี้ไม่รวมกลุ่มสังคมก่อนหน้านี้ พวกเขาโต้ แย้ง เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย และกะจากทางเพื่อประชาธิปไตยเรา ในส่วนสำคัญส่วนหนึ่งเนื่องจากความแข็งแกร่ง และความหนาแน่นสูงประชาสังคม (ที่ชั้นรองสูงจัด) ทำหน้าที่เป็นน้ำหนักซึ่งสำคัญอำนาจรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาสังคม พวกเขาโต้แย้ง แล้วจะ ตัดสินคุณภาพของประชาธิปไตยสำคัญ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในทางตรงกันข้ามกับมาห์ แต่ Chatterjee หลีกเลี่ยงการใช้ 'clientelism' เป็นเลนส์วิเคราะห์ที่ผ่านการสำรวจการเชื่อมโยงระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นหรือโอเปราทางสังคมอื่น ๆ และองค์กรต่าง ๆ เช่นประชาชนสวัสดิการสมาคม lacunae อยากรู้อยากเห็นและคนที่ detracts จากอำนาจ ของการวิเคราะห์ของเขา โคเฮนและ Arato (1994) จัดให้มีบัญชีอุดมไปด้วยทฤษฎีของภาคประชาสังคมในประเพณีเศรษฐกิจการเมือง แต่ล้มเหลวที่จะส่งไปยังการทดสอบเชิงประจักษ์ ความล้มเหลวนี้การไถ่ถอนบางส่วน BA สังคมวิทยาการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระบบทุนนิยมและประชาธิปไตยโดยทริช Rueschemeyer, Evelyne ฮิวสตีเฟนส์และจอห์นดีสตีเฟนส์ในซึ่งการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างชั้น (แร่ถูกต้องมากขึ้น, การเปลี่ยนแปลงในพลังของยืนยันความสนใจในชั้นเรียน) ทำหน้าที่เป็น ตัวแปรสำคัญ mediating งานของพวกเขามีความเกี่ยวข้องที่นี่เพราะมันรวมถึงการวิเคราะห์ของภาคประชาสังคมที่เลาะเลียบไปแบ่งกันระหว่างมุมมองเศรษฐกิจเป็นศูนย์กลางการปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและ ในบัญชีนี้มีความแข็งแกร่งและมีความหนาแน่นของภาคประชาสังคมเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาของระบบทุนนิยมในขณะที่ยังเอื้อต่อการพัฒนาของระบอบประชาธิปไตยบอกห่วงโซ่ที่แตกต่างของสาเหตุ (ทุนนิยมประชาธิปไตยประชาสังคม) (Rueschemeyer et al, 1992. 49- 50) ในคีนี้การขยายตัวของภาคประชาสังคมค่อยๆโลกไซเบอร์และช่วยให้ได้รับการยกเว้นก่อนหน้านี้กลุ่มทางสังคมรวมทั้งชนชั้นแรงงาน นี้ไม่รวมก่อนหน้านี้กลุ่มสังคมพวกเขาโต้เถียงมีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการเปลี่ยนแปลงจากอย่างเป็นทางการเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงในส่วนสำคัญเพราะที่แข็งแกร่งและมีความหนาแน่นของภาคประชาสังคม (ซึ่งเรียนอยู่ใต้บังคับบัญชามีการจัดสูง) ทำหน้าที่เป็นสำคัญ เคาน์เตอร์น้ำหนักให้กับอำนาจของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและภาคประชาสังคมที่พวกเขาโต้เถียงก็จะกลายเป็นผู้ตัดสินที่สำคัญของคุณภาพของประชาธิปไตย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในทางตรงกันข้าม เลห์มันน์ อย่างไรก็ตาม chatterjee eschews ใช้ ' clientelism ' เป็นเลนส์ที่ผ่านการสํารวจวิเคราะห์การเชื่อมโยงระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นหรือสั่งสมทางสังคมและองค์กรอื่น ๆเช่นสมาคมสวัสดิการของประชาชน , ขี้สงสัยกรุงเทพมหานครและที่ detracts จากพลังของการวิเคราะห์ของเขาโคเฮน และราโตะ เ น ( 1994 ) ให้บัญชีทุกคนรวยของประชาสังคมในเศรษฐกิจสังคมการเมือง แต่ล้มเหลวที่จะส่งไปยังการทดสอบเชิงประจักษ์ ความล้มเหลวนี้ส่วนหนึ่งแลกการศึกษาทางสังคมวิทยาของความสัมพันธ์ระหว่างทุนนิยมและประชาธิปไตยโดยดีทริช rueschemeyer evelyne Huber , สตีเฟ่น และ จอห์น ดีเฟน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างชั้น ( แร่ที่ถูกต้องมากขึ้นการเปลี่ยนแปลงในอำนาจทำหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่ระดับความสนใจ ) ส่งผ่านตัวแปร งานที่เกี่ยวข้องที่นี่เพราะมันรวมถึงการวิเคราะห์ประชาสังคมที่คร่อมอยู่ระหว่างประชาธิปไตยศูนย์กลางทางการเมือง และเศรษฐกิจที่มีมุมมอง ในบัญชีนี้แข็งแรงและหนาแน่นประชาสังคมคือผลพลอยได้ของการพัฒนาทุนนิยม ในขณะที่ยังเอื้อต่อการพัฒนาประชาธิปไตย จะเป็นโซ่ที่แตกต่างซึ่งกันและกัน ( ทุนนิยมประชาธิปไตยประชาสังคม ) ( rueschemeyer et al . 1992 : 49-50 ) ในรูปแบบนี้ , ประชาสังคมค่อยๆครอบคลุมและช่วยให้ขยายการยกเว้นก่อนหน้านี้กลุ่มทางสังคม รวมทั้งงานนี้ก่อนหน้านี้ยกเว้นกลุ่มทางสังคมที่พวกเขาโต้เถียงเป็นวิกฤตเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตย และเปลี่ยนจากอย่างเป็นทางการเพื่อประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ในส่วนสําคัญ เพราะแข็งแรงและพลเมืองหนาแน่น สังคม ( ซึ่งในชั้นเรียนผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี ) ทำหน้าที่เป็นเคาน์เตอร์น้ำหนักสำคัญต่ออำนาจของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและประชาสังคม , พวกเขาทะเลาะกันแล้วกลายเป็นคนสำคัญของ คุณภาพของประชาธิปไตย :