The results as shown in Fig. 3indic

The results as shown in Fig. 3
indicated that fresh geopolymer concrete had the slump flow between
550 and 660 mm. These slump flow values suggested that
the geopolymer concretes in this study was class SF1 selfcompacting
concrete in accordance with EFNARC (2005). The use
of saturated surface dry RCA tended to give a higher workability
than that with LS. Because of the RCA particles contain a larger
volume of pore and water at saturated surface dry condition than
that of LS particles. The water inside RCA particles was available and
improved the workability of the mixes (Poon et al., 2004). The
report of Mefteh et al. (2013) showed that the use of RCA in prewetting
and saturated surface dry conditions improved the concrete
workability. In addition, at the same liquid to ash ratio, the use
of high NH concentration gave geopolymer concrete with low
slump flow. This was due to the increase in NH concentration
resulted in leaching of more silica and alumina and thus increase
the geopolymerization and the stiffness of the system
(Chindaprasirt et al., 2009).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์ดังแสดงในรูปที่ 3ระบุว่า คอนกรีตสดด้านที่มีการตกไหลระหว่าง550 และ 660 มม. ค่ากระแสตกต่ำเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอย่างกว้างขวางด้านในการศึกษานี้คือ selfcompacting คลา SF1คอนกรีตตาม EFNARC (2005) การใช้งานอิ่มตัวผิวแห้งที่ RCA ที่แนวโน้มที่จะ ให้มีความสามารถทำงานที่สูงขึ้นกว่าที่มี LS เนื่องจากอนุภาค RCA ประกอบด้วยขนาดใหญ่ปริมาตรของน้ำที่อิ่มตัวผิวแห้งสภาพกว่าและรูขุมขนที่อนุภาค LS มีน้ำภายในอนุภาค RCA และปรับปรุงความสามารถการทำงานของส่วนผสม (พูน et al. 2004) การรายงานของ Mefteh et al. (2013) พบว่าการใช้ RCA ใน prewettingและคอนกรีตการปรับปรุงอิ่มตัวผิวแห้งความสามารถทำงาน นอกจากนี้ ที่ของเหลวเดียวกันอัตราส่วนเถ้า การใช้ของสูง NH ความเข้มข้นให้คอนกรีตด้านต่ำด้วยที่กระแสตกต่ำ จากการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของ NHส่งผลให้การละลายของซิลิกาและอลูมินาเพิ่มเติม และเพิ่มดังนั้นการ geopolymerization และความแข็งแกร่งของระบบ(Chindaprasirt et al. 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลดังแสดงในรูป 3
ชี้ให้เห็นว่าจีโอโพลิเมอร์คอนกรีตสดมีกระแสตกต่ำระหว่าง
550 และ 660 มม ค่าการไหลตกต่ำเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า
คอนกรีตจีโอโพลิเมอร์ในการศึกษานี้ที่ระดับ SF1 selfcompacting
คอนกรีตสอดคล้องกับ EFNARC (2005) การใช้งาน
ของพื้นผิวแห้งอิ่มตัวอาร์ซีเอมีแนวโน้มที่จะให้สามารถใช้การได้สูง
กว่านั้นกับ LS เพราะอนุภาคอาร์ซีเอมีขนาดใหญ่
ปริมาณของรูขุมขนและน้ำที่พื้นผิวแห้งอิ่มตัวกว่า
ที่ของอนุภาคแอลเอส น้ำภายในอนุภาคอาร์ซีเอที่มีอยู่และ
การปรับปรุงความสามารถทำงานได้ของสูตร (พูน et al., 2004)
รายงาน Mefteh et al, (2013) แสดงให้เห็นว่าการใช้งานของอาร์ซีเอใน prewetting ที่ยุ่งยาก
และพื้นผิวอิ่มตัวสภาพแห้งปรับปรุงคอนกรีต
สามารถใช้การได้ นอกจากนี้การที่ของเหลวเดียวกันอัตราส่วนเถ้าการใช้
ความเข้มข้นสูง NH ให้คอนกรีตจีโอโพลิเมอร์ที่มีระดับต่ำ
ไหลตกต่ำ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของ NH เข้มข้น
ส่งผลให้เกิดการชะล้างของซิลิกามากขึ้นและอลูมินาและทำให้เพิ่ม
geopolymerization และความแข็งของระบบ
(จินดา et al., 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ที่แสดงในรูปที่ 3พบว่า คอนกรีตจีโอโพลิเมอร์สดมีการยุบตัวไหลระหว่าง550 และ 660 มม. ค่ายุบตัวไหลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการ Geopolymer คอนกรีตในการศึกษานี้คือ เรียน SFI selfcompactingคอนกรีตตาม efnarc ( 2005 ) ใช้อิ่มตัวผิวแห้ง RCA มีแนวโน้มที่จะให้ความสามารถสูงขึ้นกว่าที่เป็นจริงๆ เพราะของ RCA อนุภาคมีขนาดใหญ่ปริมาตรของรูพรุนและน้ำอิ่มตัวผิวแห้งเงื่อนไขมากกว่าที่เป็นอนุภาค น้ำภายในอนุภาคที่มีอยู่และอาร์ซีเอการปรับปรุงความสามารถของผสม ( พูน et al . , 2004 ) ที่รายงาน mefteh et al . ( 2013 ) พบว่าการใช้ RCA ใน prewettingสภาพอิ่มตัวผิวแห้งและช่วยปรับปรุงคอนกรีตการทำงานได้ . นอกจากนี้ที่ของเหลวเดียวกันใช้อัตราส่วนเถ้าความเข้มข้นของแอมโมเนียสูงให้จีโอโพลิเมอร์คอนกรีตต่ำค่าอัตราการไหล นี้คือเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความเข้มข้นของแอมโมเนียผลของซิลิกาและอะลูมินาและการละลายจึงเพิ่มขึ้นการ geopolymerization และความแข็งของระบบ( จินดาประเสริฐ et al . , 2009 )