EDTA was found to be the most effic

EDTA was found to be the most efficient inhibitor of iron induced oxidation in the
emulsions, as it could inhibit both the initial drop and the following linear oxygen
uptake rate very efficiently. When EDTA was added in twice the ratio to iron, the
initial drop was almost undetectable. This was significantly better than for propyl
gallate and caffeic acid which were able to reduce the drop about 80% when they
were added in a ratio of 20 times to iron. α-Tocopherol reduced the drop about 80%
when the ratio of α-tocopherol to iron was about 12, thus it was more efficient than
the propyl gallate and caffeic acid, but less efficient than EDTA. Citric acid was not
able to reduce the initial drop at any of the tested concentration which was thought to
be due to its inability to bind Fe2+ at the pH of the emulsion, but it efficiently reduced
the following linear oxygen uptake rate in a similar manner to EDTA. The inhibition of
oxidation by EDTA and citric acid shows how iron induced oxidation of lipids can
efficiently be counteracted by removal of iron from the system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

EDTA พบผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเหล็กจะเกิดออกซิเดชันในการemulsions เป็นมันสามารถยับยั้งการปล่อยครั้งแรกและออกซิเจนเชิงเส้นต่อไปนี้ดูดซับราคาอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อ EDTA ที่เพิ่มสองอัตราส่วนเหล็ก การฝากเริ่มต้นเกือบสามค นี้เป็นอย่างมากดีกว่าสำหรับ propylgallate กรด caffeic ซึ่งสามารถลดการปล่อยประมาณ 80% และเมื่อพวกเขามีเพิ่มอัตราส่วนของเวลา 20 รีด ด้วยกองทัพ-Tocopherol ลดหล่นประมาณ 80%เมื่ออัตราส่วนของด้วยกองทัพ-tocopherol รีด ประมาณ 12 ดังนั้นก็มีประสิทธิภาพมากกว่าpropyl gallate และกรด caffeic แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า EDTA ไม่มีกรดซิตริกไปฝากเริ่มต้นที่ความเข้มข้นที่ทดสอบซึ่งมีความคิดมีสาเหตุมาจากความไม่สามารถผูก Fe2 + ที่ pH ของอิมัลชัน แต่มันลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปนี้ออกซิเจนเส้นดูดซับอัตราในลักษณะคล้ายกับ EDTA การยับยั้งการออกซิเดชัน โดย EDTA และกรดซิตริกแสดงว่าเหล็กเกิดออกซิเดชันของโครงการมีประสิทธิภาพสามารถ counteracted โดยเอาเหล็กจากระบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

EDTA
พบว่ายับยั้งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของการเกิดออกซิเดชันเหนี่ยวนำเหล็กในอิมัลชันขณะที่มันสามารถยับยั้งทั้งการลดลงครั้งแรกและออกซิเจนเชิงเส้นต่อไปนี้อัตราการดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อ EDTA
ถูกเพิ่มเข้ามาในครั้งที่สองอัตราส่วนเหล็กที่ลดลงเป็นครั้งแรกตรวจสอบไม่พบเกือบ นี้อย่างมีนัยสำคัญที่ดีกว่าสำหรับโพรพิ
gallate และกรด caffeic ซึ่งก็สามารถที่จะลดลดลงประมาณ 80%
เมื่อพวกเขาถูกเพิ่มในอัตราส่วน20 ครั้งเพื่อเหล็ก α-Tocopherol ลดลงลดลงประมาณ 80%
เมื่ออัตราส่วนของαโทโคฟีรอเหล็กประมาณ 12 จึงจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
gallate โพรพิลและกรด caffeic แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า EDTA กรดซิตริกก็ไม่สามารถที่จะลดการลดลงครั้งแรกที่ใด ๆ ของความเข้มข้นของการทดสอบซึ่งเป็นความคิดที่จะเกิดจากการไม่สามารถที่จะผูกFe2 + ที่ pH ของอิมัลชันแต่มันได้อย่างมีประสิทธิภาพลดอัตราการดูดซึมออกซิเจนเชิงเส้นต่อไปนี้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับ EDTA การยับยั้งการเกิดออกซิเดชันโดย EDTA และกรดซิตริกแสดงให้เห็นว่าการเกิดออกซิเดชันเหล็กเหนี่ยวนำของไขมันสามารถได้อย่างมีประสิทธิภาพได้รับการต่อต้านโดยการกำจัดของเหล็กจากระบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

EDTA พบจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดของการใช้เหล็กสนิมใน
อิมัลชัน มันอาจยับยั้งทั้งเริ่มต้นและลดลงตามอัตราการใช้ออกซิเจน
เส้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อ EDTA เพิ่มในอัตราสองเท่าเหล็ก
หล่นเริ่มต้นเกือบจะไม่สามารถวัดได้ นี้อย่างมีนัยสำคัญมากกว่าสำหรับโพรพิล
ศึกษา และกรด Caffeic ซึ่งสามารถลดลดลงประมาณ 80% เมื่อพวกเขา
ถูกเพิ่มในอัตราส่วน 20 ครั้ง เหล็ก แอลฟาโทโคเฟอรอล ลด ลดลงประมาณ 80%
เมื่ออัตราส่วนของแอลฟาโทโคเฟอรอลรีดอายุ 12 จึงมีประสิทธิภาพมากกว่า
โพรพิลแกลเลต และ Caffeic กรด แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า EDTA กรดซิตริกไม่ได้
สามารถลดการปล่อยเริ่มต้น ที่ ใด ๆของการทดสอบความเข้มข้นที่คิด

เพราะไม่สามารถผูก fe2 ที่ pH ของอิมัลชัน แต่ก็มีประสิทธิภาพลดลง
ต่อไปนี้เส้นอัตราการใช้ออกซิเจนในลักษณะคล้ายกันกับ EDTA การยับยั้ง
ออกซิเดชันโดย EDTA และกรดซิตริก แสดงให้เห็นว่าการออกซิเดชันของไขมันสามารถ
เหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพถูกต่อต้านโดยการกำจัดเหล็กออกจากระบบ .