The purpose of this study was to ex

The purpose of this study was to explore the relationship between and among the caregiver’s personal factors, the care recipient’s functional status, the caregiver’s perceived self-efficacy, social support, reactions to caregiving, and health promotion behaviors in family caregivers of community-dwelling stroke patients in Taiwan. A structured home-interview survey methodology was used to collect data from 134 primary caregivers responsible for care of stroke patients in Taipei, Taiwan. The study results indicated that, in general, caregivers were female spousal caregivers (mean age 52 years, average caregiving period 24 months). Regression analyses revealed that the caregiver’s health status was the strongest positive predictor of caregiver self-efficacy. Spousal caregivers with a better-perceived health status were more satisfied with their resources of social supports. Spousal caregivers with poor perceived health status had a higher level of caregiving strain. Results for the overall model indicated caregiver’s social support and the care recipient’s functional status made significant contributions in explaining the caregiver’s health promotion behaviors. Implications for further practice suggest establishing community training programs and support groups for family caregivers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง และใน หมู่ของภูมิปัญญาส่วนบุคคลปัจจัย สถานะการทำงานของผู้ดูแล ภูมิปัญญาการรับรู้ตนเองประสิทธิภาพ การสนับสนุนทางสังคม ปฏิกิริยา caregiving และพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพในครอบครัวเรื้อรังของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในชุมชนที่อยู่อาศัยในไต้หวัน วิธีสำรวจบ้านสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้รับผิดชอบดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในไทเป ไต้หวันหลัก 134 เรื้อรัง ผลการศึกษาระบุว่า ใน เรื้อรังเรื้อรัง spousal หญิง (หมายถึงอายุ 52 ปี เฉลี่ย caregiving ระยะเวลา 24 เดือน) ถดถอยวิเคราะห์เปิดเผยว่า สถานะสุขภาพของภูมิปัญญาเป็นผู้ทายผลบวกแข็งแกร่งของตนเองประสิทธิภาพของภูมิปัญญา เรื้อรัง spousal มีสถานะสุขภาพที่ดีรับรู้ความพึงพอใจกับสังคมสนับสนุนทรัพยากรของตนได้ เรื้อรัง spousal มีสถานะสุขภาพการรับรู้ที่ดีระดับสูงขึ้นต้องใช้ caregiving ได้ ผลลัพธ์สำหรับแบบจำลองโดยรวมระบุสนับสนุนสังคมของภูมิปัญญาและผลงานสำคัญสถานะทำงานของผู้ดูแลในการอธิบายพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของภูมิปัญญา ผลการฝึกเพิ่มเติมแนะนำการสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมชุมชน และสนับสนุนกลุ่มเรื้อรังครอบครัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างและระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ดูแล, การดูแลภาวะการทำหน้าที่ของผู้รับผู้ดูแลรับรู้ความสามารถของตนเองการสนับสนุนทางสังคมปฏิกิริยาที่จะดูแลและพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพในผู้ดูแลในครอบครัวของโรคหลอดเลือดสมองในชุมชนที่อยู่อาศัย ผู้ป่วยในไต้หวัน โครงสร้างบ้านสัมภาษณ์วิธีการสำรวจถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก 134 ผู้ดูแลหลักที่รับผิดชอบในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในไทเป, ไต้หวัน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าโดยทั่วไปผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นผู้ดูแลพิธีวิวาห์หญิง (อายุเฉลี่ย 52 ปีระยะเวลาการดูแลเฉลี่ย 24 เดือน) การวิเคราะห์การถดถอยเปิดเผยว่าภาวะสุขภาพของผู้ดูแลที่ถูกทำนายบวกแข็งแกร่งของผู้ดูแลประสิทธิภาพของตนเอง ผู้ดูแลพิธีวิวาห์กับภาวะสุขภาพที่ดีกว่าการรับรู้มีความพึงพอใจมากขึ้นด้วยทรัพยากรของพวกเขาในการสนับสนุนทางสังคม ผู้ดูแลพิธีวิวาห์กับรับรู้ภาวะสุขภาพไม่ดีมีระดับที่สูงขึ้นของสายพันธุ์การดูแล ผลการดำเนินงานรูปแบบโดยรวมที่ระบุผู้ดูแลการสนับสนุนทางสังคมและการดูแลรักษาสถานะการทำงานของผู้รับได้มีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในการอธิบายของผู้ดูแลพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ ผลกระทบสำหรับการปฏิบัติต่อไปขอแนะนำให้สร้างโปรแกรมการฝึกอบรมชุมชนและกลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ดูแลในครอบครัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ดูแล ดูแลผู้รับสถานะการทํางานของผู้ดูแลการรับรู้ความสามารถของตนเอง การสนับสนุนทางสังคม ต่อการดูแล และพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพในญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง community-dwelling ในไต้หวันแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง บ้าน วิธีการสำรวจการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก 134 ผู้ดูแลรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในไทเป , ไต้หวัน ผลการศึกษาพบว่า โดยทั่วไปผู้ดูแลเป็นผู้ดูแลคู่สมรสหญิง ( อายุเฉลี่ย 52 ปี เฉลี่ยการดูแลระยะเวลา 24 เดือน )สมการถดถอยพบว่าภาวะสุขภาพของผู้ดูแลคือแข็งแกร่งบวกทำนายความสามารถของผู้ดูแล . ผู้ดูแลคู่สมรสด้วย ดีกว่าการรับรู้ภาวะสุขภาพมีความพึงพอใจมากกับแหล่งสนับสนุนทางสังคม ผู้ดูแลคู่สมรสกับคนจน การรับรู้ภาวะสุขภาพอยู่ในระดับที่สูงขึ้นของการดูแลความเครียดผลการค้นหาสำหรับรูปแบบโดยรวมพบผู้ดูแลของการสนับสนุนทางสังคมและการดูแลผู้รับสถานะการทำงานให้นับเป็นคุณูปการในการอธิบายพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้ดูแล แนวทางการปฏิบัติเพิ่มเติม แนะนำการสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมชุมชนและกลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ดูแลในครอบครัว