Hello, my name is Carol Weimer, Cli

Hello, my name is Carol Weimer, Clinical Assistant Professor in the Department of Speech, Language and hearing sciences at the University of Arizona. I am a clinically trained and certified speech language pathologist and a member of the talking matters team. In this module, I will be talking about speech and language disorders. You will learn the definitions of speech and language, common types of associated disorders, and characteristics that may signal concern. We know that most typically developing children learn language in predictable stages and at predictable ages but within these predictable ages and stages; there is a wide range of variability. Every child develops at a unique pace. So you will want to keep track of your own child’s development and with the help of this video be ready to ask your paediatrician or a speech language pathologist who specializes in early childhood development, any questions or concerns you may have about the development of your child’s speech and language.
Let’s begin by describing speech and language and common types of related disorders. Speech is the production of individual sounds put together to form words. Children learn the distinctive sounds of their language gradually and learn to combine them according to the rules or patterns they hear from the moment they are born. Babies listen to all the sounds around them and to every sound you make and soon begin to recognize frequently occurring sound combinations called words. By their first birthday, your child will say their very first words and by age four, most children will produce nearly all sounds correctly and will be understood by most everyone around them.
Language is a combination or system of symbols used to convey ideas and understand others. There really are two parts to it – receptive language and expressive language. Receptive language represents what we understand while expressive language represents what we can say or express in words, phrases and sentences.
Speech and language disorders may occur separately or together. When talking is hard for a child, they may be experiencing a speech sound or articulation disorder. They may have difficulty producing one or many different sounds or sound combinations. Family members or friends may have difficulty understanding their speech or refer to it as baby talk. A child may leave out a sound or substitute one sound for another. This may not be cause for concern but it could be if it persists past the age when they would be expected to produce such sounds correctly. Other children who have difficulty may repeat sounds or words or phrases when they speak. Or they may have a hard time getting the words out and take long pauses between their words. You may also notice a tense neck, face or shoulders when they try to talk. When these behaviours persist and distract the listener, they may signal a stuttering or a fluency disorder. A child with unusual voice qualities such as hoarseness or breathiness, or who uses a very loud or soft voice, might be demonstrating a voice disorder.
If a child has difficulty expressing ideas or needs, they may be reluctant to talk or become easily frustrated. This may signal an expressive language disorder or you might hear your child confusing the pronouns him and her. For example a child might say, him hit me or they may frequently use vague words like stuff or thing instead of specific labels. This could be cause for concern if other more specific words are not used at all. When a child frequently has difficulty following directions, or understanding what others are saying, they may be showing signs of a receptive language disorder. They may hear or see a word but not understand its meaning.
It’s important to know that these symptoms may be mistakenly identified as poor listening, poor attention, selective hearing or bad behaviour but children with speech and language difficulties often express their frustration by communicating through physical aggression, or other disruptive behaviour that may lead to poor relationships with peers or siblings or reluctance to attend school. Speech and language disorders frequently occur together so a child may be demonstrating a combination of several problems. Concerned family members may notice the child struggling and offer well intentioned advice that, as a parent, you may consider intrusive. But if you sense something is different about your child’s speech or language development, and others have shared concern, it’s probably time to seek help identifying whether or not a disorder is present. There are many different causes of speech and language disorders including hearing loss, brain injury or physical impairments, to name just a few. But most of the time the cause of speech and language disorders is unknown.
By the time children are ready to start kindergarten, critical speech and language development has already occurred. Family, friends or even your paedia

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สวัสดี ชื่อของฉันคือ Carol Weimer ศาสตราจารย์คลินิกในฝ่ายของเสียง ภาษา และฟังศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอริโซนา ผมผ่านการฝึกอบรม และผ่านการรับรองทางการแพทย์การบำบัดการพูด และเป็นสมาชิกของการพูดคุยเรื่องทีม ในโมดูลนี้ ฉันจะได้พูดคุยเกี่ยวกับการพูดและภาษาผิดปกติ คุณจะได้เรียนรู้คำจำกัดความของคำพูด และภาษา ชนิดทั่วไปของความผิดปกติที่เกี่ยวข้อง และลักษณะที่อาจสัญญาณความกังวล เรารู้ว่า ส่วนใหญ่มักพัฒนาเด็กเรียนรู้ภาษา ในคาดการณ์ขั้น และ ที่ทายอายุ แต่ภาย ในอายุที่คาดการณ์เหล่านี้และขั้นตอน มีความหลากหลายของความแปรปรวน เด็กทุกคนพัฒนาได้เร็วเฉพาะ ดังนั้น คุณจะต้องติดตามการพัฒนาของเด็กของคุณเอง และ ด้วยความช่วยเหลือของวิดีโอนี้พร้อมจะถามคุณหมอหรือการบำบัดการพูดที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาเด็กปฐมวัย คำถามหรือข้อสงสัยที่คุณอาจมีเกี่ยวกับการพัฒนาของการพูดและภาษาของเด็กขอเริ่มต้น ด้วยการอธิบายเป็นคำพูด และภาษา และชนิดทั่วไปของโรคที่เกี่ยวข้อง เสียงคือ การผลิตเสียงใส่กันเพื่อสร้างเป็นคำ เด็กเรียนรู้เสียงที่โดดเด่นของภาษาของพวกเขาค่อย ๆ และเรียนรู้การรวมตามกฎหรือรูปแบบที่ได้ยินจากช่วงเวลาที่พวกเขาเกิดมา เด็กฟังเสียงรอบข้าง และทุกเสียงที่ คุณทำ และเร็ว ๆ นี้ เริ่มรู้จักชุดเสียงเกิดขึ้นบ่อยที่เรียกว่าคำ โดยวันเกิดของพวกเขาครั้งแรก เด็กจะพูดคำแรก และตามอายุที่สี่ เด็กส่วนใหญ่จะผลิตเสียงเกือบทั้งหมดอย่างถูกต้อง และจะเข้าใจส่วนใหญ่ทุกคนรอบข้างภาษาเป็นชุดหรือระบบสัญลักษณ์ที่ใช้ในการถ่ายทอดความคิด และเข้าใจผู้อื่น จริง ๆ มีสองส่วนนั้น – เปิดกว้างภาษาและภาษาที่แสดงออก ภาษาเปิดกว้างหมายถึงสิ่งที่เราเข้าใจภาษาแสดงออกแสดงถึงสิ่งที่เราสามารถพูด หรือด่วนคำ วลี และทดสอบความผิดปกติในการพูดและภาษาอาจแยกต่างหาก หรือเข้าด้วยกัน เมื่อพูดถึงยากสำหรับเด็ก พวกเขาอาจจะประสบคำพูดเสียงหรือควบคุมโรค พวกเขาอาจมีปัญหาในการผลิตเสียงต่าง ๆ หรือเสียงชุดหนึ่งหลาย เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวอาจมีปัญหาในการเข้าใจคำพูดของพวกเขา หรือเรียกมันว่าเด็กพูดคุย เด็กอาจออกเสียง หรือใช้แทนเสียงหนึ่งเสียงอีก อาจไม่ใช่สาเหตุสำหรับกังวล แต่ถ้าเกิดอายุเมื่อพวกเขาจะถูกคาดว่าจะผลิตเสียงดังกล่าวถูกต้องที่ผ่านมาสามารถ เด็กอื่น ๆ ที่มีปัญหาอาจทำซ้ำเสียง หรือคำ หรือวลีเมื่อพวกเขาพูด หรือพวกเขาอาจมีเวลาในการเดินทางคำออก และหยุดยาวระหว่างคำ คุณยังอาจสังเกตเห็นคอตึง ใบหน้า หรือไหล่เมื่อพวกเขาพยายามที่จะพูดคุย เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ และรบกวนการฟัง พวกเขาอาจสัญญาณการพูดติดอ่างหรือความผิดปกติของความคล่องแคล่ว เด็กที่ มีคุณภาพเสียงที่ผิดปกติเช่นเสียงแหบ หรือ breathiness หรือผู้ใช้เสียงดังมาก หรืออ่อน อาจได้เห็นความผิดปกติของเสียงถ้าเด็กมีความยากลำบากในการถ่ายทอดความคิดหรือความต้องการ พวกเขาอาจจะอยากพูดคุย หรือขัดได้ง่าย นี้อาจสัญญาณโรคการแสดงออกภาษา หรือคุณอาจได้ยินเด็กสับสนคำสรรพนามเขาและเธอ ตัวอย่างเช่น เด็กอาจพูดว่า เขาตี หรือบ่อยครั้งอาจใช้คำที่คลุมเครือเช่นสิ่งหรือสิ่งแทนป้ายชื่อเฉพาะ นี้อาจเป็นสาเหตุสำหรับกังวลถ้าคำเฉพาะอื่น ๆ ที่ไม่ใช้ เมื่อเด็กมีปัญหาตามคำแนะนำ หรือทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดบ่อย พวกเขาอาจแสดงอาการของความผิดปกติของภาษาเปิดกว้าง พวกเขาอาจได้ยิน หรือเห็นคำ แต่ไม่เข้าใจความหมายจะต้องรู้ว่า อาการเหล่านี้อาจระบุเป็นฟังยากจน ไม่สนใจ เลือกฟัง หรือพฤติกรรมไม่ดี แต่เด็กตั้งใจกับคำพูด และภาษาปัญหามักจะแสดงความยุ่งยากของพวกเขา โดยการสื่อสารผ่านความก้าวร้าวทางกายภาพ หรือพฤติกรรมอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิงซึ่งอาจจะไม่เต็มใจหรือความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน หรือพี่น้องต้องเข้าเรียน ความผิดปกติในการพูดและภาษามักเกิดร่วมกันดังนั้นเด็กอาจแสดงให้เห็นถึงการรวมกันของปัญหาต่าง ๆ สมาชิกในครอบครัวความกังวลอาจสังเกตเด็กดิ้นรน และให้คำแนะนำที่เจตนาดี เป็นผู้ปกครอง อาจให้รำคาญ แต่ถ้าคุณรู้สึกมีอะไรที่แตกต่างกันเกี่ยวกับคำพูดของเด็กหรือการพัฒนาภาษา และคนอื่น ๆ มีปัญหา จะคงเวลาเพื่อค้นหาวิธีใช้ระบุว่ามีความผิดปกติหรือไม่ มีหลายสาเหตุที่แตกต่างกันของความผิดปกติการพูดและภาษารวมทั้งสูญเสียการได้ยิน สมอง หรือ บกพร่องทางกายภาพ เพื่อชื่อไม่กี่ แต่โดยส่วนใหญ่สาเหตุของความผิดปกติในการพูดและภาษาไม่รู้จักเวลา เด็กจะพร้อมที่จะเริ่มชั้นอนุบาล พัฒนาการพูดและภาษาที่สำคัญได้เกิดขึ้น ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่ของคุณ paedia

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สวัสดีชื่อของฉันคือแครอล Weimer, ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินิกในภาควิชาในการพูดภาษาและวิทยาศาสตร์การได้ยินที่มหาวิทยาลัยแอริโซนา ฉันเป็นพยาธิวิทยาพูดภาษาได้รับการฝึกฝนทางคลินิกที่ได้รับการรับรองและเป็นสมาชิกของทีมการพูดคุยเรื่องที่ ในโมดูลนี้ผมจะพูดคุยเกี่ยวกับความผิดปกติของการพูดและภาษา คุณจะได้เรียนรู้คำจำกัดความในการพูดและภาษาชนิดที่พบความผิดปกติที่เกี่ยวข้องและลักษณะที่อาจส่งสัญญาณความกังวล เรารู้ว่าเด็กส่วนใหญ่มักจะเรียนรู้ภาษาการพัฒนาในขั้นตอนการคาดการณ์และทุกเพศทุกวัยที่สามารถคาดเดาได้ แต่ภายในทุกเพศทุกวัยสามารถคาดเดาได้และขั้นตอนเหล่านี้; มีความหลากหลายของความแปรปรวน เด็กทุกคนมีการพัฒนาที่ก้าวที่ไม่ซ้ำกัน ดังนั้นคุณจะต้องการที่จะติดตามการพัฒนาเด็กของคุณเองและด้วยความช่วยเหลือของวิดีโอนี้จะพร้อมที่จะขอให้กุมารแพทย์ของคุณหรือพยาธิวิทยาพูดภาษาที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเด็กปฐมวัยคำถามหรือข้อสงสัยที่คุณอาจมีเกี่ยวกับการพัฒนาของเด็ก พูดและภาษา.
ขอเริ่มต้นด้วยการบรรยายพูดและภาษาและประเภททั่วไปที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของ คำพูดคือการผลิตของแต่ละเสียงใส่กันในรูปแบบคำ เด็กจะเรียนรู้เสียงที่โดดเด่นของพวกเขาค่อยๆภาษาและเรียนรู้ที่จะรวมพวกเขาตามกฎหรือรูปแบบที่พวกเขาได้ยินจากช่วงเวลาที่พวกเขาจะเกิด ทารกฟังทุกเสียงที่อยู่รอบตัวพวกเขาและทุกเสียงที่คุณทำและเร็ว ๆ นี้จะเริ่มต้นในการรับรู้ที่เกิดขึ้นบ่อยรวมกันเรียกว่าเสียงคำ โดยวันเกิดครั้งแรกของพวกเขาลูกของคุณจะพูดคำแรกของพวกเขาและเมื่ออายุสี่เด็กส่วนใหญ่จะผลิตเกือบทุกเสียงที่ถูกต้องและจะเข้าใจได้โดยทุกคนส่วนใหญ่รอบตัวพวกเขา.
ภาษาคือการรวมกันหรือระบบของสัญลักษณ์ที่ใช้ในการถ่ายทอดความคิดและความเข้าใจ คนอื่น ๆ มีจริงๆมีสองส่วนไป - ภาษาที่เปิดกว้างและภาษาที่แสดงออก ภาษาที่เปิดกว้างแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราเข้าใจภาษาที่แสดงออกในขณะที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราสามารถพูดหรือแสดงในคำวลีและประโยค.
คำพูดและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นภาษาแยกกันหรือร่วมกัน เมื่อพูดถึงเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กที่พวกเขาอาจจะประสบกับเสียงคำพูดหรือความผิดปกติที่เปล่ง พวกเขาอาจจะมีปัญหาในการผลิตหนึ่งหรือหลายเสียงที่แตกต่างหรือการรวมเสียง สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนอาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจคำพูดของพวกเขาหรือเรียกมันว่าลูกคุย เด็กอาจจะปล่อยออกมาเป็นเสียงหรือใช้แทนเสียงหนึ่งอีก นี้อาจไม่เป็นสาเหตุสำหรับกังวล แต่มันอาจจะยังคงมีอยู่ถ้ามันผ่านมาเมื่อพวกเขาอายุจะคาดว่าจะผลิตเสียงดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง เด็กคนอื่น ๆ ที่มีปัญหาอาจทำซ้ำเสียงหรือคำหรือวลีที่เมื่อพวกเขาพูด หรือพวกเขาอาจจะมีช่วงเวลาที่ยากได้รับคำออกและนำหยุดยาวระหว่างคำของพวกเขา นอกจากนี้คุณยังอาจสังเกตเห็นใบหน้าตึงคอหรือไหล่เมื่อพวกเขาพยายามที่จะพูดคุย เมื่อพฤติกรรมเหล่านี้ยังคงมีอยู่และหันเหความสนใจของผู้ฟังที่พวกเขาอาจส่งสัญญาณการพูดติดอ่างหรือความผิดปกติคล่องแคล่ว เด็กที่มีคุณภาพเสียงที่ผิดปกติเช่นเสียงแหบหรือ breathiness หรือผู้ที่ใช้เสียงดังมากหรืออ่อนอาจจะแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของเสียง.
ถ้าเด็กมีปัญหาในการแสดงความคิดหรือความต้องการพวกเขาอาจจะไม่เต็มใจที่จะพูดคุยหรือกลายเป็นความผิดหวังได้อย่างง่ายดาย นี้อาจส่งสัญญาณความผิดปกติของภาษาที่แสดงออกหรือคุณอาจได้ยินลูกของคุณสับสนสรรพนามเขาและเธอ ยกตัวอย่างเช่นเด็กอาจจะบอกว่าเขาตีฉันหรือพวกเขาบ่อยครั้งอาจใช้คำพูดที่คลุมเครือเช่นสิ่งหรือสิ่งแทนของป้ายที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำหรับกังวลถ้าคำอื่น ๆ ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะไม่ได้ใช้เลย เมื่อเด็กมีปัญหาบ่อยครั้งตามทิศทางหรือการทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นจะพูดว่าพวกเขาอาจจะแสดงสัญญาณของความผิดปกติของภาษาที่เปิดกว้าง พวกเขาอาจจะได้ยินหรือเห็นคำ แต่ไม่เข้าใจความหมายของมัน.
มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่าอาการเหล่านี้อาจมีการระบุผิดเป็นฟังไม่ดีความสนใจยากจนได้ยินคัดเลือกหรือพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่เด็กที่มีการพูดและความยากลำบากภาษามักจะแสดงความไม่พอใจของพวกเขาโดยการสื่อสารผ่าน การรุกรานทางกายภาพหรือพฤติกรรมก่อกวนอื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเพื่อนหรือพี่น้องหรือไม่เต็มใจที่จะเข้าเรียนในโรงเรียน ความผิดปกติของการพูดและภาษาที่มักเกิดขึ้นร่วมกันเพื่อให้เด็กอาจจะแสดงให้เห็นถึงการรวมกันของปัญหาหลาย สมาชิกในครอบครัวที่เกี่ยวข้องอาจสังเกตเห็นเด็กดิ้นรนและให้คำแนะนำเจตนาดีที่เป็นพ่อแม่คุณอาจพิจารณาล่วงล้ำ แต่ถ้าคุณรู้สึกบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการพูดของเด็กหรือการพัฒนาภาษาและอื่น ๆ ได้ร่วมกันกังวลว่ามันอาจถึงเวลาที่จะขอความช่วยเหลือการระบุหรือไม่ว่าโรคที่เป็นปัจจุบัน มีสาเหตุที่แตกต่างกันในการพูดและความผิดปกติของภาษารวมทั้งการสูญเสียการได้ยิน, การบาดเจ็บของสมองหรือความบกพร่องทางกายภาพเพื่อชื่อเพียงไม่กี่ แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่สาเหตุของความผิดปกติของการพูดและภาษาที่ไม่เป็นที่รู้จัก.
โดยเวลาที่เด็กมีความพร้อมที่จะเริ่มต้นอนุบาล, การพูดที่สำคัญและการพัฒนาภาษาได้เกิดขึ้นแล้ว ครอบครัวเพื่อนหรือแม้กระทั่ง paedia ของคุณ