The Gorkha War (1814–1816), or the

The Gorkha War (1814–1816), or the Anglo–Nepalese War, was fought between the Kingdom of Nepal and the British East India Company as a result of border disputes and ambitious expansionism of both the belligerent parties. The war ended with the signing of the Treaty of Sugauli in 1816, which ceded around a third of Nepal's territory to the British. Most of the ceded territories had been acquired by Nepal by war only in the last 10 to 20 years from other kingdoms that had never been a part of Nepal. Although it lost a significant part of its kingdom, Nepal remains the only country to maintain its national sovereignty despite the war and the British Imperialism (all other countries were effectively invaded by the British). Nepal has not yet been ruled under any foreign emperors or rulers.

The British were the invading forces, while the Nepalese maintained a defensive position. The British attacked in two successive waves of invasion. It was the most expensive war waged during the governorship of Lord Moira.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธิเบตกอร์ขาสงคราม (๑๙๕๗ -1816), หรือสงครามอังกฤษนั่งเอนหลัง ถูกสู้ระหว่างราชอาณาจักรเนปาลและ บริษัทอินเดียตะวันออกภาษาอังกฤษจากข้อพิพาทชายแดนและ expansionism ทะเยอทะยานของฝ่าย belligerent สงครามจบลง ด้วยการลงนามสนธิสัญญา Sugauli ใน 1816 ซึ่งรับประกันภัยประมาณหนึ่งในสามของดินแดนของเนปาลอังกฤษ ส่วนใหญ่ของดินแดน ceded ได้รับการมาจากเนปาล โดยสงครามเฉพาะในช่วง 10 ถึง 20 ปีจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนปาล แม้ว่าจะหายไปส่วนหนึ่งที่สำคัญของอาณาจักร เนปาลยังคง เป็นประเทศเดียวในการรักษาอธิปไตยของชาติแม้ มีสงครามและลัทธิจักรวรรดินิยมที่อังกฤษ (ประเทศอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพรุกราน โดยชาวอังกฤษ) เนปาลได้ไม่ได้ถูกปกครองภายใต้จักรพรรดิหต่างหรือใด ๆ ไม้

ที่อังกฤษมีกองกำลังบุกรุก ในขณะที่นั่งเอนหลังรักษาตำแหน่งป้องกัน โจมตีอังกฤษในคลื่นต่อเนื่องสองของบุกรุก มันเป็นต่อสู้ระหว่าง governorship ของพระเจ้า Moira สงครามราคาแพงที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Gorkha สงคราม (1814-1816) หรือแองโกลเนปาลสงครามการต่อสู้ระหว่างราชอาณาจักรเนปาลและ บริษัท อินเดียตะวันออกของอังกฤษเป็นผลมาจากข้อพิพาทชายแดนและ expansionism ความทะเยอทะยานของทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้ สงครามสิ้นสุดลงด้วยการลงนามในสนธิสัญญา Sugauli ใน 1816 ซึ่งยกให้ประมาณหนึ่งในสามของดินแดนเนปาลอังกฤษ ส่วนใหญ่ของดินแดนยกให้ได้รับมาจากประเทศเนปาลโดยเฉพาะในสงคราม 10 ถึง 20 ปีที่ผ่านมาจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเนปาล แม้ว่ามันจะหายไปเป็นส่วนสำคัญของราชอาณาจักรของเนปาลยังคงเป็นประเทศเดียวที่จะรักษาอธิปไตยของชาติแม้จะมีสงครามและลัทธิจักรวรรดินิยมอังกฤษ (ประเทศอื่น ๆ ทั้งหมดถูกบุกเข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพโดยอังกฤษ) เนปาลยังไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิต่างประเทศหรือผู้ปกครองของอังกฤษมีกองกำลังบุกรุกในขณะที่เนปาลไว้ป้องกันตำแหน่ง อังกฤษโจมตีในสองคลื่นต่อเนื่องของการบุกรุก มันเป็นสงครามที่แพงที่สุดยืดเยื้อระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดของพระมอยรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Gorkha สงคราม ( 1814 – 1816 ) หรือแองโกล - เนปาลสงครามต่อสู้ระหว่างเนปาลและบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษผลของข้อพิพาทชายแดนและ expansionism ทะเยอทะยานทั้งสงครามฝ่าย สงครามสิ้นสุดลงด้วยการลงนามในสนธิสัญญา sugauli ใน 1816 ซึ่งยกให้รอบสามของเนปาลเป็นดินแดนอังกฤษส่วนใหญ่ของดินแดนที่ได้รับความนิยมได้จากประเทศเนปาลโดยสงครามในช่วง 10 ถึง 20 ปีจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเนปาล แม้ว่าจะสูญเสียส่วนของอาณาจักรของเนปาลยังคงเป็นประเทศเดียวที่จะรักษาอธิปไตยของชาติของแม้จะมีสงครามและจักรวรรดินิยมอังกฤษ ( ประเทศอื่นๆ ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรุกรานโดยอังกฤษ )เนปาลไม่ได้ถูกปกครองภายใต้จักรพรรดิต่างประเทศใด ๆหรือผู้ปกครอง

อังกฤษมีกองกำลังที่บุกรุกในขณะที่ชาวเนปาลยังคงป้องกันตัวอยู่ อังกฤษโจมตีในคลื่นสองต่อเนื่องของการรุกราน มันแพงมากที่สุดสงครามขับเคี่ยวระหว่างข้าหลวงของ ลอร์ด มอยร่า