The unit should have awritten polic

The unit should have a
written policy and procedure regarding personal protective equipment (PPE) that defines
activities in which PPE should be worn and the appropriate type. 22 For sterile
environments, the use of PPE is commonly dictated by the traffic pattern and location of
care, defined as unrestricted, semi-restricted, and restricted areas.23 In contrast, in the nonsterile
endoscopy environment, the use of PPE is dependent on the degree to which staff has
the potential to come into direct contact with patients and their bodily fluids during specific

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ควรมีหน่วยเป็นนโยบายและกระบวนการเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่กำหนดกิจกรรมที่ควรสวมใส่ PPE และชนิดเหมาะสม 22 สำหรับฆ่าเชื้อสภาพแวดล้อม การใช้ PPE มักนำ โดยรูปแบบการจราจรและสถานที่ดูแล กำหนดเป็น areas.23 ไม่จำกัด กึ่งจำกัด และจำกัดตรงกันข้าม ในการ nonsterileส่องกล้องสภาพแวดล้อม การใช้ PPE จะขึ้นอยู่กับระดับพนักงานซึ่งมีศักยภาพที่จะมาติดต่อโดยตรงกับผู้ป่วยและของเหลวในร่างกายของพวกเขาในช่วงเฉพาะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หน่วยควรจะมี
นโยบายและวิธีการเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ที่กำหนด
กิจกรรมที่ PPE ควรจะสวมใส่และประเภทที่เหมาะสม 22 สำหรับฆ่าเชื้อ
สภาพแวดล้อมการใช้งานของอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลเป็น dictated โดยทั่วไปรูปแบบการจราจรและสถานที่ตั้งของ
การดูแลที่กำหนดไว้ไม่ จำกัด areas.23 กึ่ง จำกัด และ จำกัด ในทางตรงกันข้ามใน nonsterile
สภาพแวดล้อมการส่องกล้องที่ใช้ในการป้องกันส่วนบุคคลจะขึ้นอยู่กับ ระดับที่พนักงานมี
ศักยภาพที่จะเข้ามาติดต่อโดยตรงกับผู้ป่วยและของเหลวในร่างกายของพวกเขาในช่วงที่เฉพาะเจาะจง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หน่วยงานควรมี
เขียนนโยบายและขั้นตอนเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล ( PPE ) ที่ กําหนด
กิจกรรมต่างๆที่ควรสวมใส่ PPE และชนิดที่เหมาะสม 22 ให้ปลอดเชื้อ
สภาพแวดล้อมการใช้ PPE มักจะ dictated โดยการจราจรรูปแบบและที่ตั้ง
ดูแล , เช่น จํากัด กึ่ง จำกัด และ จำกัด areas.23 ในความคมชัดใน nonsterile
สิ่งแวดล้อมการส่องกล้อง , การใช้ PPE จะขึ้นอยู่กับระดับที่พนักงานของ บริษัท
ศักยภาพในการเข้ามาติดต่อโดยตรงกับผู้ป่วยและของเหลวในร่างกายของพวกเขาในที่เฉพาะเจาะจง